ทำความเข้าใจ Lot Size: หัวใจของการบริหารความเสี่ยงในตลาดการเงิน
Lot Size หรือขนาดของการเทรด คือหน่วยวัดมาตรฐานที่บอกถึงปริมาณสินทรัพย์ที่คุณกำลังซื้อหรือขายในตลาดการเงิน ไม่ว่าจะเป็น Forex ทองคำ หรือคริปโต ยิ่งขนาดนี้ใหญ่เท่าไร การเปลี่ยนแปลงของราคาแม้เพียงจุดเดียวก็จะกระทบต่อกำไรหรือขาดทุนในบัญชีของคุณมากขึ้น นั่นทำให้มันกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
โดยทั่วไป Lot Size จะแบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ ดังนี้
* Standard Lot: เท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลักใน Forex หรือหน่วยมาตรฐานสำหรับสินค้าอื่นๆ เช่น ทองคำที่ 1 Standard Lot คือ 100 ออนซ์
* Mini Lot: 10,000 หน่วย หรือ 0.1 จาก Standard Lot
* Micro Lot: 1,000 หน่วย หรือ 0.01 จาก Standard Lot
การเลือกขนาดที่เหมาะสมช่วยจำกัดความเสี่ยงในแต่ละครั้ง ทำให้เงินทุนของคุณปลอดภัยและเติบโตได้ในระยะยาว หากคุณเพิ่งเริ่มต้น ลองนึกภาพว่ามันเหมือนกับการตั้งเข็มขัดนิรภัยก่อนขับรถ – ไม่ใช่เรื่องตื่นเต้น แต่จำเป็นมากเพื่อความปลอดภัย

ปัจจัยสำคัญในการคํานวณ Lot Size ที่เทรดเดอร์ต้องรู้
การหาขนาด Lot Size ที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องสุ่ม แต่ต้องอาศัยข้อมูลหลายส่วนมารวมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ ปัจจัยหลักที่คุณควรทำความเข้าใจมีดังนี้
ก่อนอื่นคือยอดเงินทั้งหมดในบัญชีเทรดของคุณ ซึ่งเป็นฐานสำคัญ ยิ่งทุนมาก คุณก็ยิ่งมีช่องว่างในการจัดการความเสี่ยงได้กว้างขึ้น จากนั้นคือเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ต่อการเทรดแต่ละครั้ง ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำให้อยู่ที่ 1-2% ของทุนทั้งหมด เช่น ถ้าบัญชีมี 1,000 USD และเสี่ยง 1% คุณจะจำกัดการขาดทุนไว้ที่ 10 USD เท่านั้น การกำหนดระดับนี้ช่วยป้องกันไม่ให้การเทรดผิดพลาดครั้งเดียวทำลายพอร์ตทั้งหมดทั้งยังเชื่อมโยงกับแนวคิด Risk-Reward Ratio ที่ Investopedia อธิบายไว้อย่างละเอียด [แหล่งข้อมูล: Investopedia อธิบายถึง Risk-Reward Ratio และการบริหารความเสี่ยง](https://www.investopedia.com/articles/forex/11/forex-risk-management.asp)
อีกส่วนที่ขาดไม่ได้คือจุดหยุดขาดทุนหรือ Stop Loss ซึ่งเป็นระดับราคาที่คุณตั้งไว้เพื่อปิดออเดอร์อัตโนมัติหากตลาดไปผิดทาง การวัดระยะห่างจากจุดเข้าไปยัง Stop Loss จะบอกคุณว่าความเสี่ยงจริงๆ คือกี่ Pip หรือกี่จุด สุดท้ายคือมูลค่า Pip ซึ่งคือหน่วยการเปลี่ยนแปลงราคาที่เล็กที่สุด ใน Forex ส่วนใหญ่ 1 Pip คือทศนิยมที่สี่ เช่น EUR/USD จาก 1.1234 เป็น 1.1235 แต่สำหรับคู่ที่มี JPY อย่าง USD/JPY จะเป็นทศนิยมที่สอง เช่น จาก 109.12 เป็น 109.13 มูลค่านี้ขึ้นกับคู่สกุลเงินและสกุลเงินบัญชีของคุณ การรู้จักมันจะทำให้การคำนวณ Lot Size ถูกต้องยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อตลาดเคลื่อนไหวรุนแรง

เพื่อให้เห็นภาพชัด ลองดูตารางตัวอย่างมูลค่า Pip สำหรับคู่สกุลเงินยอดนิยมในบัญชี USD ซึ่งช่วยให้คุณประเมินได้เร็วขึ้น
เจาะลึกการคํานวณ Lot Size สำหรับเครื่องมือยอดนิยม
ตอนนี้เรามาเจาะรายละเอียดวิธีคำนวณสำหรับสินทรัพย์หลักๆ กัน โดยใช้ตัวอย่างที่เข้าใจง่าย เพื่อให้คุณนำไปปรับใช้ได้ทันที ไม่ว่าจะเทรดอะไรก็ตาม หลักการพื้นฐานคือการคำนวณจากเงินที่ยอมเสี่ยง หารด้วยระยะ Stop Loss คูณกับมูลค่าต่อหน่วย ซึ่งช่วยให้ทุกการเทรดของคุณสมดุลและปลอดภัย

การคํานวณ Lot Size สำหรับ Forex (ฟอเร็กซ์)
Forex คือตลาดที่ใหญ่ที่สุดและคึกคักที่สุด การจัดการขนาดการเทรดที่นี่จึงเป็นพื้นฐานที่ทุกคนควร掌握 สูตรหลักแบ่งเป็นขั้นตอนง่ายๆ
เริ่มจากหาเงินที่ยอมเสี่ยง โดยคูณยอดเงินในบัญชีกับเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง จากนั้นคำนวณมูลค่า Pip สำหรับคู่สกุลเงินนั้นๆ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีเครื่องมือช่วย หรือคุณสามารถใช้ตารางมาตรฐาน เช่น ในบัญชี USD สำหรับคู่ที่ USD เป็นสกุลเงินอ้างอิงอย่าง EUR/USD หรือ GBP/USD 1 Pip ของ Standard Lot จะมีมูลค่า 10 USD แต่ถ้า USD เป็นสกุลเงินหลักอย่าง USD/JPY ต้องปรับตามอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนคู่ข้ามอย่าง EUR/GBP ต้องแปลงผ่าน USD
สูตร Lot Size คือ เงินเสี่ยง หารด้วย (ระยะ Stop Loss ใน Pip คูณ มูลค่า Pip ต่อ Standard Lot)
ตัวอย่าง: สมมติบัญชี 1,000 USD เสี่ยง 2% หรือ 20 USD คู่ EUR/USD Stop Loss 50 Pips มูลค่า Pip 10 USD/Lot Lot Size = 20 / (50 x 10) = 0.04 Lot ซึ่งขนาดนี้จะทำให้ขาดทุนไม่เกิน 20 USD ถ้าถูก Stop Loss [ภาพ: ตารางตัวอย่างการคำนวณ Pip Value สำหรับคู่สกุลเงินต่างๆ ในบัญชี USD]
การคํานวณ Lot Size ทองคำ (Gold)
การเทรดทองคำหรือ XAUUSD คล้าย Forex แต่ปรับตามหน่วยออนซ์และการเคลื่อนไหวของราคา 1 Standard Lot คือ 100 ออนซ์ ราคาเคลื่อนเป็นจุด เช่น จาก 1900.00 ไป 1900.01 คือ 1 จุด หรือ 0.01 USD ต่อออนซ์ ดังนั้น 1 จุดต่อ Standard Lot มีมูลค่า 1 USD (100 x 0.01)
ตัวอย่าง: บัญชี 2,000 USD เสี่ยง 1.5% หรือ 30 USD Stop Loss 200 จุด (2 USD) มูลค่า 1 จุด = 1 USD Lot Size = 30 / (200 x 1) = 0.15 Lot ถ้าถูก Stop คุณจะขาดทุนพอดี 30 USD ซึ่งเหมาะสำหรับตลาดทองที่ผันผวน [ภาพ: กราฟราคา XAUUSD พร้อมจุด Stop Loss]
การคํานวณ Lot Size สำหรับ Cryptocurrency (คริปโตเคอร์เรนซี)
สำหรับคริปโตอย่าง BTC หรือ ETH การเทรดมักใช้จำนวนเหรียญโดยตรงแทน Lot มาตรฐาน แต่หลักการบริหารความเสี่ยงยังคงเดิม โดยวัดจากความผันผวนสูงที่เป็นเอกลักษณ์ของตลาดนี้
หน่วยคือจำนวนเหรียญ เช่น 0.01 BTC และราคาเคลื่อนเป็นดอลลาร์ตรงๆ
ตัวอย่าง BTC: บัญชี 3,000 USD เสี่ยง 2% หรือ 60 USD ราคา BTC 30,000 USD Stop Loss 1,500 USD จำนวน BTC = 60 / 1,500 = 0.04 BTC ขนาดนี้ทำให้ความเสี่ยงจำกัดที่ 60 USD แม้ตลาดจะแกว่งแรง [ภาพ: อินเทอร์เฟซการเทรดคริปโตพร้อมการระบุจำนวนเหรียญ]
เครื่องมือช่วยคํานวณ Lot Size: โปรแกรมและแอปพลิเคชันที่ต้องมี
แม้การคำนวณด้วยมือจะช่วยให้เข้าใจ แต่เครื่องมือเหล่านี้ทำให้ทุกอย่างง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ไทยที่ต้องการความสะดวก
เริ่มจากเครื่องคำนวณออนไลน์ฟรีจากโบรกเกอร์อย่าง Exness XM หรือ FBS เพียงใส่ยอดเงิน คู่สกุลเงิน Stop Loss และเปอร์เซ็นต์เสี่ยง ระบบจะแสดง Lot Size ทันที เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่อยากยุ่งยาก
ส่วนแอปมือถือบน Android หรือ iOS เช่น Forex Calculator หรือ Lot Size Calculator ช่วยให้คุณเช็คได้ทุกที่ แม้ระหว่างดูตลาดบนโทรศัพท์
สำหรับผู้ใช้ MT4/MT5 สามารถใช้ฟังก์ชันในตัวหรือติดตั้ง EA ที่คำนวณอัตโนมัติตาม Stop Loss และความเสี่ยง ซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำ โดยเฉพาะในกลยุทธ์อัตโนมัติ Babypips มีรีวิวเครื่องมือเหล่านี้เยอะ [แหล่งข้อมูล: Babypips มีบทความที่แนะนำเครื่องมือช่วยคำนวณ Lot Size หลายตัว](https://www.babypips.com/tools/forex-calculators/position-size)
การใช้เครื่องมือพวกนี้ไม่เพียงลดข้อผิดพลาด แต่ยังสร้างความมั่นใจให้คุณเทรดได้อย่างสม่ำเสมอ
Lot Size กับ Leverage (เลเวอเรจ): ความสัมพันธ์และกลยุทธ์สำหรับเทรดเดอร์ไทย
Leverage คืออัตราทดที่โบรกเกอร์ให้ เพื่อให้คุณควบคุมสินทรัพย์มูลค่าสูงด้วยทุนน้อย เช่น 1:500 หมายถึงควบคุม 500 เท่าของเงินที่ลง
มันไม่เปลี่ยนการคำนวณ Lot Size โดยตรง แต่กระทบ Margin ที่ต้องใช้ ยิ่ง Leverage สูง Margin ยิ่งน้อย ทำให้เปิดขนาดใหญ่ได้ แต่สำหรับเทรดเดอร์ไทยที่ชอบ Leverage สูงอย่าง 1:500 หรือ 1:1000 ต้องระวังเพราะมันเพิ่มทั้งโอกาสกำไรและความเสี่ยงขาดทุนมหาศาล
กลยุทธ์ดีคือใช้ Leverage เพื่อลด Margin ไม่ใช่เพื่อขยาย Lot Size เกินแผน คำนวณจากความเสี่ยง 1-2% และ Stop Loss ก่อนเสมอ Leverage สูงแค่ช่วยให้ทุนเหลือเยอะขึ้นสำหรับ Drawdown ไม่ใช่เหตุผลให้เทรดใหญ่เกินตัว [ภาพ: กราฟิกแสดงผลกระทบของ Leverage ต่อ Margin และขนาด Lot]
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการคํานวณ Lot Size และวิธีแก้ไข
เทรดเดอร์ไทยมือใหม่มักเจอปัญหาเหล่านี้ ซึ่งนำไปสู่พอร์ตแตกเร็ว ลอง来看ข้อผิดพลาดหลักและทางแก้
ประการแรกคือลืมตั้ง Stop Loss ทำให้ไม่มีฐานคำนวณและเสี่ยงขาดทุนไม่จำกัด ทางแก้คือกำหนด Stop Loss ทุกครั้งและใช้มันเป็นแกนหลักในการหา Lot Size
ต่อมาคือเสี่ยงสูงเกิน เช่น 5-10% ต่อเทรด ซึ่งอาจทำให้ทุนหายวับถ้าขาดทุนติดๆ กัน แนะนำยึด 1-2% สำหรับมือใหม่ และไม่เกิน 3% สำหรับโปร
อีกอย่างคือไม่สนสกุลเงินบัญชี เช่น ถ้าเป็น THB มูลค่า Pip จะต่างจาก USD ทางแก้คือใช้เครื่องมือที่รองรับหรือแปลงให้ถูก
การใช้ Lot Size เดิมๆ ทุกครั้งโดยไม่ดู Stop Loss หรือความผันผวนก็ไม่ดี คำนวณใหม่ทุกเทรดตามสถานการณ์จะช่วยได้
สุดท้ายคือพึ่งสัญชาตญาณแทนสูตร ซึ่งอันตรายมาก ทางออกคือฝึกวินัยคำนวณจากปัจจัยทั้งหมดเสมอ
การหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างวินัยและความยั่งยืนในการเทรด
สรุป: Lot Size กุญแจสู่การเทรดที่ยั่งยืน
Lot Size ไม่ใช่แค่สูตรคณิต แต่เป็นหลักการพื้นฐานที่ปกป้องคุณในตลาดที่โหดร้าย มันกำหนดว่าคุณจะอยู่รอดและเติบโตได้อย่างไร
เมื่อนำไปใช้ถูกต้อง คุณจะจำกัดขาดทุน ปกป้องทุน ลดเครียด และเพิ่มโอกาสกำไรระยะยาว
เทรดเดอร์ไทยทุกคนควรฝึกคำนวณ Lot Size ให้เป็นนิสัยและรวมในแผนเทรดทุกวัน เพราะนี่คือกุญแจสู่ความสำเร็จที่แท้จริง
การคํานวณ Lot Size มีความสำคัญอย่างไรสำหรับมือใหม่ในตลาด Forex และควรเริ่มต้นที่ความเสี่ยงเท่าไหร่ดี?
การคํานวณ Lot Size มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ในตลาด Forex เพราะช่วยให้คุณควบคุมความเสี่ยงของการเทรดแต่ละครั้ง ไม่ให้ขาดทุนมากเกินไปจนเงินทุนหมด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่มือใหม่จะขาดทุน การคำนวณ Lot Size ที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถอยู่ในตลาดได้นานขึ้น เพื่อเรียนรู้และพัฒนาฝีมือได้ครับ
สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นที่ความเสี่ยงต่ำมาก เช่น 0.5% ถึง 1% ของยอดเงินคงเหลือในบัญชีต่อการเทรดหนึ่งครั้ง เพื่อสร้างความคุ้นเคยและวินัยในการบริหารความเสี่ยงก่อนที่จะพิจารณาเพิ่มขึ้นตามประสบการณ์
มีสูตรการคํานวณ Lot Size ทองคำ (XAUUSD) ที่แตกต่างจากคู่สกุลเงิน Forex อย่างไร และมีตัวอย่างการคำนวณไหม?
โดยหลักการแล้ว สูตรการคํานวณ Lot Size ของทองคำ (XAUUSD) คล้ายกับ Forex คือต้องรู้ยอดเงินในบัญชี, เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง, และระยะ Stop Loss แต่สิ่งที่แตกต่างคือ “มูลค่าของ 1 จุด”
- ใน Forex มูลค่า Pip ขึ้นอยู่กับคู่สกุลเงินและสกุลเงินบัญชี
- ในทองคำ (XAUUSD) 1 Standard Lot เท่ากับ 100 ออนซ์ และ 1 จุดการเคลื่อนไหว (0.01 USD/oz) จะมีมูลค่า 1 USD ต่อ Standard Lot
ตัวอย่าง: หากบัญชีมี 2,000 USD, เสี่ยง 1.5% (30 USD), Stop Loss 200 จุด (2 USD/oz) สำหรับทองคำ
Lot Size = 30 USD / (200 จุด x 1 USD/จุด) = 0.15 Lot
โปรแกรมคํานวณ Lot Size Forex หรือแอพพลิเคชันบนมือถือตัวไหนที่เทรดเดอร์ไทยนิยมใช้ และใช้งานง่ายที่สุด?
เทรดเดอร์ไทยนิยมใช้โปรแกรมและแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้จากหลายแหล่งครับ
- เครื่องคำนวณบนเว็บไซต์โบรกเกอร์: โบรกเกอร์ยอดนิยมในไทยอย่าง Exness, XM, FBS มักจะมี “Position Size Calculator” หรือ “Lot Size Calculator” บนเว็บไซต์ของตนเอง ซึ่งใช้งานง่ายและฟรี
- แอปพลิเคชันบนมือถือ: ค้นหาใน App Store หรือ Google Play ด้วยคำว่า “Forex Calculator” หรือ “Lot Size Calculator” จะพบแอปพลิเคชันที่มีฟังก์ชันครบครัน เช่น “FX Calculators” หรือ “Forex Tools” ซึ่งใช้งานได้สะดวกบนสมาร์ทโฟน
- EA บน MT4/MT5: สำหรับผู้ที่ใช้แพลตฟอร์ม MetaTrader อาจเลือกใช้ Expert Advisor (EA) ที่ช่วยคำนวณ Lot Size อัตโนมัติ ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบฟรีและเสียเงิน
ถ้าใช้ Leverage (เลเวอเรจ) สูง เช่น 1:500 ควรคํานวณ Lot Size อย่างไรเพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้พอร์ตแตก?
การใช้ Leverage สูงไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเปิด Lot Size ใหญ่เสมอไปครับ หลักการสำคัญคือ การคํานวณ Lot Size ควรยึดตามเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงและระยะ Stop Loss ของคุณเป็นหลัก ไม่ใช่จาก Leverage ที่มี
Leverage สูงเพียงแค่ช่วยให้คุณใช้ Margin (เงินประกัน) ในการเปิด Lot Size ที่คำนวณมาแล้วน้อยลงเท่านั้น ทำให้มี Margin Free เหลือมากขึ้นในบัญชี แต่ถ้าคุณใช้ Lot Size ที่ใหญ่เกินกว่าแผนความเสี่ยง พอร์ตก็ยังคงเสี่ยงต่อการแตกได้ง่ายอยู่ดี
ดังนั้น ให้คำนวณ Lot Size ตามสูตรมาตรฐาน (เงินเสี่ยง / (ระยะ SL x มูลค่า Pip)) และใช้ Leverage สูงเพื่อประโยชน์ในการบริหาร Margin ไม่ใช่เพื่อการเทรดเกินตัวครับ
Lot Size มีผลต่อ Margin (มาร์จิ้น) ในบัญชีเทรดของเราอย่างไร และมีวิธีควบคุม Margin ไม่ให้โดน Call ไหม?
Lot Size มีผลโดยตรงต่อ Margin ที่ถูกใช้ในการเปิดสถานะครับ ยิ่ง Lot Size ใหญ่เท่าไหร่ ก็ยิ่งใช้ Margin ในการเปิดสถานะมากขึ้นเท่านั้น (หาก Leverage เท่ากัน) Margin ที่ถูกใช้ไปจะถูกหักออกจาก Margin Free ของคุณ
วิธีควบคุม Margin ไม่ให้โดน Margin Call:
- คํานวณ Lot Size อย่างเคร่งครัด: ใช้ Lot Size ตามแผนการบริหารความเสี่ยง 1-2% เพื่อไม่ให้ใช้ Margin มากเกินไป
- เข้าใจ Leverage: Leverage สูงจะช่วยลด Margin ที่ต้องใช้ แต่ก็ต้องไม่เปิด Lot Size เกินตัว
- มีเงินทุนสำรองเพียงพอ: ควรมีเงินทุนในบัญชีมากกว่า Margin ที่ต้องใช้และ Margin ที่อาจจำเป็นสำหรับ Drawdown (การขาดทุนชั่วคราว)
- ตั้ง Stop Loss เสมอ: เพื่อจำกัดการขาดทุนและป้องกันไม่ให้ Margin ลดลงจนถึงระดับ Margin Call
- ติดตาม Margin Level: ตรวจสอบ “Margin Level” ในแพลตฟอร์มเทรดของคุณเป็นประจำ หากลดลงต่ำกว่า 100% (หรือตามที่โบรกเกอร์กำหนด) คุณอาจเสี่ยงต่อการโดน Margin Call
การคํานวณ Lot Size สำหรับการเทรดคริปโตเคอร์เรนซี (เช่น Bitcoin, Ethereum) มีความซับซ้อนกว่าสกุลเงินอื่น ๆ หรือไม่ และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
การคํานวณ Lot Size สำหรับคริปโตเคอร์เรนซี อาจแตกต่างกันเล็กน้อยแต่ไม่ซับซ้อนกว่ามาก หลักการยังคงเหมือนเดิมคือการจำกัดความเสี่ยงเป็นเงินดอลลาร์
ข้อแตกต่าง:
- หน่วยเทรดมักเป็น “จำนวนเหรียญ” โดยตรง (เช่น 0.01 BTC) แทนที่จะเป็น Lot มาตรฐาน
- ความผันผวนของคริปโตสูงกว่ามาก ทำให้ระยะ Stop Loss เป็นดอลลาร์อาจกว้างกว่า Forex หรือทองคำมาก
ข้อควรระวัง:
- ความผันผวนสูง: ราคาคริปโตสามารถเคลื่อนไหวได้รุนแรงและรวดเร็ว ทำให้ต้องตั้ง Stop Loss ที่เหมาะสมและอาจต้องปรับ Lot Size ให้เล็กลง
- สเปรดและค่าธรรมเนียม: ตรวจสอบสเปรดและค่าธรรมเนียมการเทรดคริปโตซึ่งอาจสูงกว่า Forex
- ตลาด 24/7: ตลาดคริปโตเปิดตลอดเวลา อาจทำให้เกิด Gap หรือการเคลื่อนไหวรุนแรงในช่วงที่คุณไม่ได้เฝ้าจอ
ทำไมบางครั้ง Lot Size ที่คำนวณได้ถึงดูไม่สมเหตุสมผล และมีข้อผิดพลาดอะไรที่เทรดเดอร์ไทยควรรู้เพื่อหลีกเลี่ยง?
Lot Size ที่คำนวณได้ดูไม่สมเหตุสมผลมักเกิดจากข้อผิดพลาดบางอย่างครับ
สาเหตุที่พบบ่อย:
- ระยะ Stop Loss แคบหรือกว้างเกินไป: หาก SL แคบมาก Lot Size ที่คำนวณได้จะใหญ่มากจนอาจไม่สามารถเปิดได้จริง หรือถ้า SL กว้างมาก Lot Size จะเล็กจนแทบไม่มีผล
- การคำนวณ Pip Value ผิดพลาด: โดยเฉพาะคู่สกุลเงินข้าม หรือคู่สกุลเงินที่มี JPY
- เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงผิดปกติ: ตั้งสูงเกินไป หรือต่ำเกินไป
- หน่วยของสินทรัพย์: สับสนระหว่าง Standard Lot, Mini Lot, Micro Lot หรือหน่วยของทองคำ/คริปโต
วิธีหลีกเลี่ยง:
- ตรวจสอบปัจจัยตั้งต้น: ทบทวนยอดเงิน, %ความเสี่ยง, ระยะ SL ให้ถูกต้องก่อนเสมอ
- ใช้เครื่องมือช่วยคำนวณ: เพื่อลดข้อผิดพลาดจากการคำนวณด้วยมือ
- ทำความเข้าใจ Pip Value: ศึกษาให้ดีว่าสินทรัพย์ที่คุณเทรดมี Pip Value เท่าไหร่ต่อ Lot ขนาดต่างๆ
- ฝึกฝนและตรวจสอบซ้ำ: ยิ่งฝึกฝนและตรวจสอบซ้ำบ่อยเท่าไหร่ ก็จะยิ่งแม่นยำมากขึ้นครับ
การคํานวณ Lot Size สามารถนำไปปรับใช้กับกลยุทธ์การเทรดแบบ Scalping หรือ Day Trade ได้อย่างไร?
การคํานวณ Lot Size เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับกลยุทธ์ Scalping และ Day Trade ครับ แม้ว่าระยะเวลาการเทรดจะสั้น แต่หลักการยังคงเดิม
การปรับใช้:
- ระยะ Stop Loss ที่แคบลง: กลยุทธ์เหล่านี้มักจะมี Stop Loss ที่แคบมาก (เช่น 5-15 Pips)
- Lot Size ที่ใหญ่ขึ้น (ตามสัดส่วน): เมื่อระยะ Stop Loss แคบลง หากคุณยังคงใช้เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงเท่าเดิม Lot Size ที่คำนวณได้จะใหญ่ขึ้นตามสัดส่วน เพื่อให้ยังคงเสี่ยงเท่าเดิมเป็นจำนวนเงิน
- ความรวดเร็วในการตัดสินใจ: คุณต้องสามารถคำนวณหรือใช้เครื่องมือคำนวณ Lot Size ได้อย่างรวดเร็ว เพราะตลาดเคลื่อนไหวเร็ว
สิ่งสำคัญคือต้องไม่เพิ่มเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อการเทรด เพียงเพราะคุณกำลัง Scalp หรือ Day Trade ครับ
มีตารางคำนวณ Lot Size สำเร็จรูป หรือวิธีสร้างตาราง Lot Size ของตัวเองใน Excel ไหม?
มีทั้งตารางสำเร็จรูปและวิธีสร้างใน Excel ครับ
- ตารางสำเร็จรูป: เว็บไซต์เทรดดิ้งหลายแห่งมีตาราง Lot Size ที่คุณสามารถดาวน์โหลดได้ ซึ่งมักจะแสดง Lot Size ที่เหมาะสมสำหรับระยะ Stop Loss และเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่างๆ
- วิธีสร้างตาราง Lot Size ใน Excel: คุณสามารถสร้างตารางของตัวเองได้ง่ายๆ ใน Excel โดยใช้สูตรที่เรากล่าวมาข้างต้น
ตัวอย่างสูตรใน Excel (สำหรับ Forex บัญชี USD, Pip Value 10 USD/Standard Lot):
สมมติว่า
- Cell A1 = ยอดเงินในบัญชี (เช่น 1000)
- Cell A2 = เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง (เช่น 0.01 สำหรับ 1%)
- Cell A3 = ระยะ Stop Loss (เช่น 50 Pips)
สูตรสำหรับ Lot Size จะเป็น: =(A1*A2)/(A3*10)
คุณสามารถสร้างคอลัมน์สำหรับระยะ Stop Loss ที่แตกต่างกัน และคอลัมน์สำหรับเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างตาราง Lot Size แบบไดนามิกของตัวเองได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้สะดวกยิ่งขึ้นครับ
นอกจาก Lot Size แล้ว มีปัจจัยอื่นใดอีกบ้างที่สำคัญต่อการบริหารความเสี่ยงในการเทรดที่เทรดเดอร์ไทยควรให้ความสำคัญ?
แน่นอนครับ นอกจาก Lot Size แล้ว ยังมีปัจจัยสำคัญอื่นๆ อีกมากมายในการบริหารความเสี่ยง:
- Risk-Reward Ratio (อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน): การมองหาการเทรดที่มีโอกาสทำกำไรมากกว่าความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เช่น 1:2 หรือ 1:3
- Diversification (การกระจายความเสี่ยง): ไม่ใส่เงินทั้งหมดในสินทรัพย์เดียว หรือการเทรดคู่สกุลเงิน/สินทรัพย์ที่หลากหลาย
- Psychology (จิตวิทยาการเทรด): การควบคุมอารมณ์ความกลัวและความโลภ ไม่ให้ส่งผลต่อการตัดสินใจเทรด
- Trading Plan (แผนการเทรด): การมีแผนที่ชัดเจนเกี่ยวกับจุดเข้า, จุดออก, Stop Loss และ Take Profit
- Journaling (การบันทึกการเทรด): การบันทึกผลการเทรดเพื่อเรียนรู้จากความสำเร็จและความผิดพลาด
- Capital Management (การจัดการเงินทุน): การไม่นำเงินทั้งหมดมาเทรด การกันเงินฉุกเฉิน และการถอนกำไรออกไปบ้าง
การบริหารความเสี่ยงเป็นกระบวนการที่ครอบคลุม ซึ่ง Lot Size เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดครับ