credit suisse คืออะไร? จากยักษ์ใหญ่สู่จุดจบ 5 บทเรียนสำคัญที่โลกต้องจำ

ตลาดหลักทรัพย์ไทย

导言:Credit Suisse คืออะไร? จากความรุ่งโรจน์นับศตวรรษสู่ปฐมบทแห่งวิกฤต

เครดิต สวิส เคยเป็นชื่อที่สื่อถึงความมั่นคงและประวัติศาสตร์อันยาวนานในวงการธนาคารสวิส ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินชั้นนำที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ทว่าในช่วงปีหลังๆ ชื่อนี้กลับกลายเป็นเครื่องหมายของความวุ่นวายทางการเงินครั้งใหญ่ จนนำไปสู่การถูกยูบีเอส ธนาคารคู่แข่ง เข้าซื้อกิจการในที่สุด การล้มละลายของยักษ์ใหญ่แห่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องชั่วคราว แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจและบทเรียนสำคัญสำหรับระบบการเงินทั่วโลก

ภาพประกอบตึกธนาคารใหญ่ที่กำลังถล่ม โลโก้ธนาคารเล็กๆ โผล่ขึ้นท่ามกลางระบบการเงินโลก

เครดิต สวิส พบกับอุปสรรคหนักหน่วงที่ทำให้สูญเสียความไว้วางใจจากลูกค้าและนักลงทุนอย่างรุนแรง แม้จะพยายามแก้ไขปัญหาภายใน แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งสถานการณ์ที่ย่ำแย่ลงได้ วิกฤตนี้ชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ แม้กระทั่งในประเทศอย่างสวิตเซอร์แลนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความมั่นคงทางการเงิน

Credit Suisse ของยุคทอง: การผงาดขึ้นและสถานะของยักษ์ใหญ่ทางการเงินสวิส

เครดิต สวิส ก่อตั้งเมื่อปี 1856 โดยอัลเฟรด เอสเชอร์ เพื่อช่วยระดมทุนสำหรับโครงการรถไฟในสวิตเซอร์แลนด์ จุดเริ่มต้นที่ผสานกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของชาติ ทำให้ธนาคารเติบโตอย่างก้าวกระโดดและกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์ จากนั้นไม่นาน ธุรกิจขยายตัวไปทั่วโลก โดยเฉพาะด้านการจัดการความมั่งคั่งสำหรับลูกค้ารายใหญ่และองค์กรต่างๆ

ภาพประกอบอัลเฟรด เอสเชอร์ยืนเคียงข้างรถไฟและตึกธนาคารที่เติบโต สื่อถึงความมั่นคงและความมั่งคั่ง

ธนาคารยังคงครองบทบาทหลักในวงการธนาคารเพื่อการลงทุนและบริการทางการเงินอื่นๆ ทั่วโลก รากฐานที่มั่นคงในสวิตเซอร์แลนด์ช่วยให้ได้รับประโยชน์จากภาพลักษณ์ของประเทศในเรื่องความน่าเชื่อถือ ความเป็นส่วนตัว และเสถียรภาพทางการเงิน ทำให้ถูกมองว่าเป็นธนาคารสวิสที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ธนาคารมีส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงตลาดทุนทั่วโลก และเป็นตัวเลือกหลักสำหรับนักลงทุนที่ต้องการบริการทางการเงินที่ซับซ้อนและมีมาตรฐานสูง

รากเหง้าแห่งวิกฤต: ปัจจัยภายในและภายนอกที่ทำให้ Credit Suisse ล่มสลาย

การล้มสลายของเครดิต สวิสไม่ได้เกิดขึ้นแบบกะทันหัน แต่เป็นผลจากปัญหาที่ค่อยๆ สะสมมาหลายปี ทั้งความผิดพลาดในการบริหารความเสี่ยงและเหตุการณ์อื้อฉาวที่กัดกินความเชื่อมั่นของลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง

ภาพประกอบตึกธนาคารที่มีรอยร้าว เงินไหลออก สื่อถึงความล้มเหลวในการบริหารความเสี่ยงและความตื่นตระหนกของนักลงทุน

ปัจจัยหลักที่จุดประกายวิกฤต ได้แก่:

  • กรณีกรีนซิล แคปิทัล: ในปี 2021 เครดิต สวิส เสียหายหนักจากการล้มละลายของบริษัทกรีนซิล แคปิทัล ซึ่งธนาคารลงทุนในกองทุนซัพพลายเชนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เมื่อบริษัทไม่สามารถชำระหนี้ได้ ธนาคารต้องปิดกองทุนและบันทึกผลขาดทุนมหาศาล (ที่มา: Reuters)
  • กรณีอาร์เคกอส แคปิทัล มันนูเมนต์: ไม่กี่เดือนต่อมา ธนาคารเผชิญวิกฤตอีกครั้งจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์สหรัฐฯ อย่างอาร์เคกอส แคปิทัล มันนูเมนต์ ที่ถูกเรียก margin call และไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทำให้เครดิต สวิส ในฐานะเจ้าหนี้หลัก ขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์จากธุรกิจธนาคารเพื่อการลงทุน
  • การบริหารความเสี่ยงที่บกพร่อง: เหตุการณ์เหล่านี้เปิดโปงจุดอ่อนในการจัดการความเสี่ยงของธนาคารที่ไม่เข้มงวดพอ ส่งผลให้แบกรับความเสี่ยงสูงโดยขาดการป้องกันที่เหมาะสม
  • วัฒนธรรมองค์กรและการเปลี่ยนแปลงผู้นำ: ปัญหาภายใน เช่น วัฒนธรรมที่กระตุ้นให้รับความเสี่ยงเกินควร การเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงบ่อยครั้ง และกลยุทธ์ที่ไม่ชัดเจน ทำให้ธนาคารขาดทิศทางที่มั่นคงและฟื้นตัวจากวิกฤตได้ยาก
  • การสูญเสียความเชื่อมั่นและเงินทุนไหลออก: เมื่อข่าวร้ายต่อเนื่อง ลูกค้าและนักลงทุนเริ่มถอนตัว สร้างกระแสเงินทุนไหลออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่บีบให้ธนาคารต้องหาทางรอดอย่างเร่งด่วน

การเข้าซื้อกิจการแห่งศตวรรษ: UBS กลืน Credit Suisse ภายใต้การไกล่เกลี่ยของรัฐบาล

สถานการณ์ของเครดิต สวิส แย่ลงจนรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ต้องเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อป้องกันการล้มละลายที่อาจกระเพื่อมไปถึงระบบการเงินโลก แนวคิดใหญ่เกินกว่าจะล้ม กลับมาถูกหยิบยกอีกครั้ง เพราะเครดิต สวิส มีขนาดใหญ่และเครือข่ายซับซ้อนเกินกว่าที่จะปล่อยให้ล้มโดยไม่ควบคุม

ในเดือนมีนาคม 2023 ภายใต้แรงกดดันและการไกล่เกลี่ยจากทางการสวิส ยูบีเอส คู่แข่งหลัก ตกลงซื้อกิจการเครดิต สวิส ในราคา 3 พันล้านฟรังก์สวิส ข้อตกลงเร่งด่วนนี้ยังรวมถึงการรับประกันสภาพคล่องและความเสียหายจากรัฐบาลและธนาคารกลาง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตลาดและนักลงทุน

การซื้อครั้งนี้ไม่ใช่แค่การรวมกิจการธรรมดา แต่เป็นการแก้ไขวิกฤตที่จำเป็น ทำให้ยูบีเอส กลายเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่ที่มีสินทรัพย์รวมมหาศาล และจุดประกายคำถามถึงอนาคตของวงการธนาคารสวิสและการแข่งขันในตลาด (ที่มา: Bloomberg)

ผลกระทบและบทเรียนจากวิกฤต Credit Suisse ต่อโลกและประเทศไทย

วิกฤตเครดิต สวิส สร้างแรงกระเพื่อมกว้างขวางในตลาดการเงินโลก แม้จะคลี่คลายด้วยการซื้อกิจการจากยูบีเอส แต่ก็ยังก่อให้เกิดความไม่แน่นอนและสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะสั้น ธนาคารยุโรปหลายแห่งถูกจับตา และเกิดคำถามถึงความมั่นคงของระบบธนาคารโลก

สำหรับประเทศไทย:

แม้เครดิต สวิส จะไม่มีสาขาหรือบริการสำหรับลูกค้ารายย่อยในไทยโดยตรง แต่ผลกระทบยังคงแผ่ขยายทางอ้อมหลายทาง:

  • ตลาดหุ้นไทยและเศรษฐกิจ: การล้มของธนาคารใหญ่สามารถก่อความผันผวนในตลาดโลก ซึ่งอาจสะท้อนถึงตลาดหุ้นไทยและค่าเงินบาท นักลงทุนต่างชาติอาจชะลอการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทย
  • กองทุนรวมและการลงทุนระหว่างประเทศ: นักลงทุนไทยจำนวนไม่น้อยมีพอร์ตที่เชื่อมโยงกับสถาบันการเงินโลก ผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเครดิต สวิส ทางอ้อม
  • การเฝ้าระวังของหน่วยงานกำกับดูแล: ธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จะติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อสถาบันไทยและปกป้องนักลงทุน บทเรียนจากกรณีนี้จะช่วยให้หน่วยงานปรับปรุงการควบคุมและจัดการความเสี่ยงให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

มองไปข้างหน้า: อนาคตของภาคการเงินสวิสและความท้าทายระดับโลกหลังยุค Credit Suisse

การรวมกิจการเครดิต สวิส เข้ากับยูบีเอส เปลี่ยนโฉมหน้าของวงการธนาคารสวิสอย่างสิ้นเชิง จากสองยักษ์ใหญ่เหลือเพียงหนึ่งที่ใหญ่โตขึ้น ซึ่งนำมาซึ่งคำถามถึงการแข่งขัน ความเสี่ยงที่กระจุกตัว และบทบาทของสวิตเซอร์แลนด์ในฐานะศูนย์กลางการจัดการความมั่งคั่งโลก

  • ผลกระทบต่อชื่อเสียง: วิกฤตนี้ทิ้งรอยด่างให้ภาพลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ในฐานะแหล่งความมั่นคงทางการเงิน แม้ทางการจะแทรกแซงรวดเร็วเพื่อรักษาเสถียรภาพ แต่การฟื้นฟูความเชื่อมั่นจะต้องใช้เวลา
  • การกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น: สำนักงานกำกับดูแลตลาดการเงินสวิส และหน่วยงานทั่วโลก คาดว่าจะทบทวนกฎระเบียบให้เข้มข้นกว่าเดิม โดยเฉพาะกับธนาคารใหญ่เกินล้ม เพื่อป้องกันวิกฤตซ้ำรอย การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมกำกับดูแลจะเป็นกุญแจสำคัญที่วงการการเงินโลกต้องปรับตัว
  • นวัตกรรมและการแข่งขัน: การรวมครั้งใหญ่อาจนำไปสู่การปรับบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ โดยยูบีเอส ต้องจัดการบูรณาการธุรกิจขนาดยักษ์ ซึ่งอาจกินเวลาและท้าทายการบริหาร

บทสรุป: บทเรียนความมั่นคงทางการเงินจาก Credit Suisse

เรื่องราวของเครดิต สวิส คือบทเรียนล้ำค่าที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม การกำกับดูแลกิจการที่ดี และระบบกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความมั่นคงของระบบธนาคารโลก

วิกฤตนี้เตือนใจว่าแม้สถาบันการเงินเก่าแก่และมีชื่อเสียงก็ยังเสี่ยงล้มได้ หากขาดการจัดการที่รับผิดชอบ การที่ยูบีเอส เข้าซื้อช่วยหลีกเลี่ยงผลร้ายแรง แต่ยังทิ้งคำถามสำคัญสำหรับอนาคตวงการการเงิน ว่าจะเรียนรู้จากกรณีนี้อย่างไร เพื่อสร้างระบบที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นยิ่งขึ้นสำหรับทุกฝ่าย

1. Credit Suisse คืออะไร? และแตกต่างจากธนาคารสวิสอื่นอย่างไร?

เครดิต สวิส เป็นธนาคารเก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีชื่อเสียงด้านการจัดการความมั่งคั่งและธนาคารเพื่อการลงทุน ความแตกต่างจากธนาคารสวิสอื่นๆ เช่น ยูบีเอส คือขนาดธุรกิจและกลุ่มลูกค้าที่ทับซ้อนกัน แต่ก่อนรวมกิจการ ทั้งคู่เป็นคู่แข่งหลักในตลาดโลก

2. วิกฤต Credit Suisse เกิดขึ้นได้อย่างไร? มีจุดสำคัญอะไรบ้าง?

วิกฤตเกิดจากการสะสมปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะความเสียหายจากล้มละลายของกรีนซิล แคปิทัลและอาร์เคกอส แคปิทัล มันนูเมนต์ในปี 2021 รวมถึงการบริหารความเสี่ยงภายในที่บกพร่องและการสูญเสียความเชื่อมั่นต่อเนื่อง จุดสำคัญคือการประกาศขาดทุนมหาศาล เงินทุนไหลออก และการแทรกแซงจากรัฐบาลสวิสในเดือนมีนาคม 2023

3. การที่ UBS เข้าซื้อ Credit Suisse มีผลกระทบต่อตลาดการเงินโลกอย่างไร? ตลาดหุ้นไทยจะได้รับผลกระทบหรือไม่?

การรวมกิจการช่วยลดความเสี่ยงจากการล้มละลายโดยไม่ควบคุม แต่ก่อความไม่แน่นอนระยะสั้นในตลาดโลก ตลาดหุ้นไทยอาจได้รับผลทางอ้อมจากความผันผวนโลกและความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติที่ลดลง แม้ผลโดยตรงจะน้อย

4. ในฐานะนักลงทุนไทย วิกฤต Credit Suisse จะมีผลกระทบโดยตรงหรือทางอ้อมต่อพอร์ตการลงทุนของฉันหรือไม่?

ผลโดยตรงน้อยมาก เพราะเครดิต สวิส ไม่มีบริการลูกค้ารายย่อยในไทย แต่ทางอ้อมอาจเกิดหากลงทุนในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับหุ้นหรือตราสารหนี้ต่างประเทศที่เชื่อมโยงกับเครดิต สวิสหรือยูบีเอส หรือหากตลาดโลกผันผวนรุนแรง

5. Credit Suisse มีสาขาหรือบริการในประเทศไทยหรือไม่? “ธนาคารสวิส กรุงเทพ” หมายถึงอะไร?

เครดิต สวิส ไม่มีสาขาสำหรับลูกค้ารายย่อยในไทย แต่มีสำนักงานตัวแทนสำหรับลูกค้าสถาบันหรือมั่งคั่งสูง คำว่า “ธนาคารสวิส กรุงเทพ” มักหมายถึงธนาคารสวิสที่มีสำนักงานในกรุงเทพฯ เช่น ยูบีเอสหรือจูเลียส แบร์ ที่ให้บริการจัดการความมั่งคั่งแก่ลูกค้ารายใหญ่

6. ประเทศไทยมีธนาคารที่ “ใหญ่เกินกว่าจะล้ม” คล้าย Credit Suisse หรือไม่? ระบบการเงินไทยปลอดภัยไหม?

ไทยมีธนาคารพาณิชย์ใหญ่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดเป็น D-SIBs ซึ่งคล้ายแนวคิดใหญ่เกินล้ม แต่ระบบการเงินไทยมีกลไกกำกับดูแลและกันชนเงินทุนที่แข็งแกร่ง ธปท. ติดตามความเสี่ยงใกล้ชิดเพื่อรักษาเสถียรภาพ

7. หลังวิกฤต Credit Suisse ชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ในฐานะศูนย์กลางทางการเงินจะได้รับผลกระทบในระยะยาวหรือไม่?

อาจกระทบระยะสั้นถึงปานกลาง แต่ทางการสวิสแสดงความมุ่งมั่นรักษาเสถียรภาพ การรวมโดยยูบีเอสเป็นการแก้ไขรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม สวิตเซอร์แลนด์ต้องฟื้นฟูความเชื่อมั่นและปฏิรูปกำกับดูแลเพื่อความแข็งแกร่งระยะยาว

8. เหตุการณ์นี้ได้นำบทเรียนใหม่ใดบ้างมาสู่การบริหารความเสี่ยงและการกำกับดูแลภาคธนาคารทั่วโลก?

บทเรียนหลักคือต้องปรับปรุงการบริหารความเสี่ยงให้เข้มงวด โดยเฉพาะการลงทุนและสินทรัพย์ไม่ดั้งเดิม รวมถึงกำกับดูแลกิจการที่ดี แผนรองรับสำหรับธนาคารใหญ่ที่ชัดเจน และการเฝ้าระวังต่อเนื่องจากหน่วยงานกำกับ

9. Credit Suisse อ่านว่า อย่างไรให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย?

เครดิต สวิส ออกเสียงว่า “เครดิต สวิส” โดย ‘เครดิต’ คล้ายคำทั่วไป และ ‘สวิส’ จากชื่อภาษาฝรั่งเศสของสวิตเซอร์แลนด์

10. หากฉันลงทุนในกองทุนที่มีการเปิดรับความเสี่ยง (Exposure) ต่อ Credit Suisse ฉันควรทำอย่างไร?

ติดต่อผู้จัดการกองทุนหรือที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อสอบถาม exposure ต่อเครดิต สวิสหรือยูบีเอสและผลกระทบ โดยทั่วไป กองทุนมีกระจายความเสี่ยงดี ช่วยลดผลจากเหตุการณ์เฉพาะ

發佈留言