บทนำ: EPS คืออะไร? ความสำคัญที่นักลงทุนไทยควรรู้
ในแวดวงการลงทุนและธุรกิจ คำว่า EPS มักถูกพูดถึงบ่อยๆ แต่ความหมายจริงๆ ของมันอาจไม่ชัดเจนเสมอไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่นำมาใช้ บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับความหมายต่างๆ ของ EPS โดยเน้นหลักที่ EPS ในด้านการเงิน หรือที่เรียกว่า กำไรต่อหุ้น ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักลงทุนชาวไทยในการวัดผลงานของบริษัทและตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้นไทย
EPS ในแง่การเงินเปรียบเสมือนหัวใจหลักที่ช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพชัดเจนว่าบริษัทนั้นๆ สร้างกำไรได้มากแค่ไหนต่อหุ้นสามัญแต่ละหุ้นที่ออกสู่ตลาด หากเข้าใจ EPS อย่างลึกซึ้ง จะช่วยให้คุณประเมินมูลค่าหุ้นได้แม่นยำขึ้น เปรียบเทียบผลงานระหว่างบริษัทต่างๆ และคาดการณ์ทิศทางอนาคตด้วยข้อมูลที่เชื่อถือได้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักตั้งแต่พื้นฐานวิธีคำนวณ ความสำคัญ ข้อควรระวังในการนำไปใช้ รวมถึงความหมายอื่นๆ ของ EPS ที่อาจเจอในชีวิตประจำวัน เพื่อให้คุณได้รับความรู้ที่ครอบคลุมและนำไปใช้ได้จริง
EPS ทางการเงิน: กำไรต่อหุ้น (Earnings Per Share) คืออะไร?
EPS หรือกำไรต่อหุ้น คือตัววัดทางการเงินที่บอกถึงศักยภาพในการสร้างกำไรของบริษัท โดยได้จากการนำกำไรสุทธิในแต่ละรอบบัญชีมาหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่กำลังหมุนเวียนในตลาด การรู้จักตัวเลขนี้จะช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพรวมว่ากำไรของบริษัทแบ่งให้หุ้นแต่ละตัวได้เท่าไหร่
ความหมายของ EPS (กำไรต่อหุ้น)
กำไรต่อหุ้นหมายถึงส่วนแบ่งจากกำไรสุทธิของบริษัทที่ตกเป็นของหุ้นสามัญแต่ละหุ้นที่ออกจำหน่าย ณ เวลานั้นๆ โดยปกติจะรายงานทั้งแบบรายไตรมาสและรายปี ตัวเลขนี้ช่วยสะท้อนประสิทธิภาพการบริหารและความสามารถในการทำกำไรจากมุมมองของผู้ถือหุ้นสามัญ นักลงทุนมักนำ EPS มาใช้ดูว่าบริษัทมีกำไรดีขึ้นหรือแย่ลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า หรือเมื่อเปรียบกับบริษัทคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อให้เห็นภาพการเติบโตที่แท้จริง
สูตรการคำนวณ EPS: เข้าใจง่าย ทำได้จริง
สูตรพื้นฐานสำหรับคำนวณ EPS คือ
EPS = (กำไรสุทธิ – เงินปันผลของหุ้นบุริมสิทธิ) / จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก
- กำไรสุทธิ (Net Income): กำไรที่เหลือหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมภาษี
- เงินปันผลของหุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Dividends): ส่วนที่จ่ายให้ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งต้องหักออกก่อนแบ่งให้หุ้นสามัญ
- จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (Weighted Average Common Shares Outstanding): จำนวนหุ้นสามัญเฉลี่ยตลอดงวด โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลง เช่น จากการเพิ่มทุน ซื้อหุ้นคืน หรือแปลงหลักทรัพย์
การคำนวณที่ถูกต้องตามมาตรฐานบัญชีจะให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับการวิเคราะห์ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ในงบการเงิน ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบได้จาก เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
ตัวอย่างการคำนวณ:
| รายการ | จำนวน |
|---|---|
| กำไรสุทธิ | 100,000,000 บาท |
| เงินปันผลหุ้นบุริมสิทธิ | 10,000,000 บาท |
| จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก | 50,000,000 หุ้น |
| EPS | (100,000,000 – 10,000,000) / 50,000,000 = 1.80 บาทต่อหุ้น |
ประเภทของ EPS: Basic EPS และ Diluted EPS
EPS มีสองประเภทหลัก เพื่อให้ครอบคลุมสถานการณ์ต่างๆ ที่นักลงทุนอาจเจอ
- Basic EPS (กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน): ใช้สูตรพื้นฐาน โดยดูเฉพาะหุ้นสามัญที่หมุนเวียนจริงในช่วงนั้น เป็นตัวเลขที่เรียบง่าย สะท้อนกำไรปัจจุบัน
- Diluted EPS (กำไรต่อหุ้นปรับลด): คำนวณแบบละเอียด โดยสมมติว่าหลักทรัพย์ที่แปลงได้ เช่น หุ้นกู้แปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพ ถูกแปลงเป็นหุ้นสามัญทั้งหมด ทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มและกำไรต่อหุ้นลดลง ตัวเลขนี้อธิบายถึงสถานการณ์ที่ท้าทายที่สุด ช่วยให้นักลงทุนประเมินความเสี่ยงจากจำนวนหุ้นที่อาจเพิ่มในอนาคต
ทำไม EPS จึงสำคัญต่อนักลงทุนและบริษัท?
EPS ถือเป็นตัวเลขที่ขาดไม่ได้ทั้งสำหรับนักลงทุนและบริษัท เพราะมันเหมือนกระจกสะท้อนสุขภาพการเงินและศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น
ตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไร
EPS เป็นวิธีตรงๆ ที่สุดในการวัดว่าบริษัททำกำไรได้ดีแค่ไหน ยิ่งตัวเลขสูง ยิ่งแสดงถึงการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพและการสร้างกำไรที่แข็งแกร่ง นักลงทุนใช้มันเปรียบเทียบระหว่างบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อหาโอกาสเติบโตหรือบริษัทที่จัดการกำไรได้เหนือกว่า หาก EPS เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นั่นคือสัญญาณว่าธุรกิจกำลังขยายตัวและมีพื้นฐานที่มั่นคง โดยเฉพาะในตลาดหุ้นไทยที่นักลงทุนมักมองหาการเติบโตระยะยาว
สัญญาณสำคัญในการตัดสินใจลงทุน
EPS ส่งผลต่อราคาหุ้นและการประเมินมูลค่า เช่น อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ซึ่งช่วยบอกว่าหุ้นแพงหรือถูก เมื่อ EPS ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ราคาหุ้นมักปรับตัวตามเพราะตลาดมองว่าน่าลงทุน นักลงทุนจึงนำ EPS มาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลอื่นๆ เพื่อตัดสินใจซื้อ ถือ หรือขาย โดยบริษัทที่มี EPS มั่นคงและเพิ่มขึ้นมักดึงดูดนักลงทุนระยะยาวที่เน้นหุ้นพื้นฐานดี
ผลกระทบต่อการจ่ายเงินปันผล
EPS ที่สูงยังเชื่อมโยงกับนโยบายปันผล โดยบริษัทที่มีกำไรดีและเงินสดเหลือเฟือ มักจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้จากเงินปันผล การจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอและเพิ่มตาม EPS จะสร้างความมั่นใจและดึงดูดนักลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในบริบทไทยที่บริษัทหลายแห่งให้ความสำคัญกับการคืนกำไรให้ผู้ถือหุ้น
การวิเคราะห์ EPS เพื่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
การใช้ EPS วิเคราะห์หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยต้องอาศัยมุมมองที่ลึกและพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยง
การตีความ EPS: สูงหรือต่ำบอกอะไร?
- EPS สูง: มักบอกว่าบริษัทมีกำไรต่อหุ้นมาก ซึ่งอาจมาจากยอดขายที่โต การควบคุมต้นทุนดี หรือจำนวนหุ้นที่ลดลง การเติบโตของ EPS อย่างต่อเนื่องคือสัญญาณบวกที่นักลงทุนชื่นชอบ เพราะแสดงถึงธุรกิจที่ยั่งยืนและมีศักยภาพ
- EPS ต่ำ: อาจบ่งชี้กำไรลดหรือหุ้นเพิ่มโดยกำไรไม่โตตาม ซึ่งเป็นคำเตือนถึงปัญหาการดำเนินงานหรือการแข่งขันดุเดือด แต่ต้องดูบริบท เช่น เทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมและประวัติบริษัท เพราะบางภาคส่วนมี EPS ต่ำเป็นปกติ
ข้อควรระวังในการใช้ EPS วิเคราะห์หุ้น
ถึงแม้ EPS จะมีประโยชน์ แต่ก็มีข้อจำกัดที่ไม่ควรมองข้าม
- กำไรพิเศษหรือไม่ประจำ: EPS อาจถูกบิดเบือนจากเหตุการณ์ชั่วคราว เช่น ขายสินทรัพย์หรือปรับโครงสร้างหนี้ ควรโฟกัสที่กำไรจากการดำเนินงานปกติเพื่อภาพที่แท้จริง
- การเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้น: การเพิ่มทุนทำให้หุ้นเพิ่มและ EPS ลด ในขณะที่ซื้อหุ้นคืนทำให้ EPS สูงขึ้น แม้กำไรสุทธิเท่าเดิม
- การเปรียบเทียบข้ามอุตสาหกรรม: ไม่เหมาะเพราะแต่ละอุตสาหกรรมมีโครงสร้างต่างกัน ควรเทียบในกลุ่มเดียวกันเท่านั้น
- ต้องใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น: EPS เพียงตัวเดียวไม่พอ ควรดูคู่กับ P/E Ratio, D/E Ratio, สภาพคล่อง และกระแสเงินสด เพื่อเห็นภาพรวมสุขภาพการเงิน
กรณีศึกษา EPS ในบริษัทไทย
มาดูตัวอย่างสมมติจากบริษัทไทยในตลาด SET เช่น ในกลุ่มพลังงานหรือธนาคารที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของตลาด
สมมติบริษัท A ในกลุ่มพลังงานมี EPS เพิ่ม 15% ในปีที่แล้ว ขณะที่บริษัท B ในกลุ่มเดียวกันลด 5% สำหรับบริษัท A ถ้าการเพิ่มมาจากการปรับปรุงการผลิตหรือขยายตลาดใหม่ นั่นคือข่าวดี แต่ถ้าจากขายสินทรัพย์ไม่ใช่หลัก ก็ต้องระวัง ส่วนบริษัท B อาจได้รับผลจากราคาน้ำมันผันผวน การลงทุนใหม่ที่ยังไม่เห็นผล หรือปัญหาภายใน การดูแนวโน้ม EPS ยาวๆ 3-5 ปีจะให้มุมมองชัดเจนกว่าดูแค่งวดเดียว ข้อมูลรายอุตสาหกรรมและภาคส่วนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นเครื่องมือช่วยในการหาข้อมูลและเปรียบเทียบ EPS ได้สะดวก
EPS อื่นๆ: ความหมายที่แตกต่างกัน
นอกจากด้านการเงิน EPS ยังหมายถึงอย่างอื่นในบริบทต่างๆ ซึ่งเข้าใจไว้จะช่วยไม่สับสน
EPS (Employment Permit System) คืออะไร? ระบบอนุญาตจ้างงานเกาหลี
EPS ในที่นี้คือ Employment Permit System หรือระบบอนุญาตจ้างงาน ที่รัฐบาลเกาหลีใต้ใช้เพื่อรับแรงงานต่างชาติจากประเทศที่ทำ MOU กับเกาหลี ให้มาทำงานถูกกฎหมาย ระบบนี้ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมบางส่วน
สำหรับแรงงานไทยที่อยากไปทำงานเกาหลี EPS เป็นทางหลักที่ถูกต้อง โดยต้องสอบผ่านภาษาเกาหลีและทักษะอาชีพที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จัด ข้อมูลจากกรมการจัดหางานเกี่ยวกับแรงงานไทยไปต่างประเทศ เป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี ผู้ที่ผ่านจะได้วีซ่า E-9 เพื่อเข้าทำงานในเกาหลีได้อย่างมั่นใจ
EPS (Extrapyramidal Symptoms) คืออะไร? อาการทางระบบประสาท
ในวงการแพทย์ EPS ย่อจาก Extrapyramidal Symptoms หรืออาการทางระบบประสาทนอกพีระมิด ซึ่งเป็นกลุ่มอาการเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว มักเกิดจากผลข้างเคียงของยา โดยเฉพาะยาต้านจิตเภทที่กระทบโดพามีนในสมอง
อาการทั่วไป ได้แก่
- Dystonia (กล้ามเนื้อบิดเกร็ง): กล้ามเนื้อหดโดยไม่ตั้งใจ เช่น คอเอียงหรือลิ้นบิด
- Akathisia (กระสับกระส่าย): รู้สึกอึดอัดจนต้องขยับตัวตลอด เช่น เดินวนหรือย่ำเท้า
- Parkinsonism (คล้ายพาร์กินสัน): สั่น ช้าลง กล้ามเนื้อแข็ง
- Tardive Dyskinesia (เคลื่อนไหวผิดปกติยาวนาน): เคลื่อนไหวซ้ำๆ ที่หน้า ปาก ลิ้น แขนขา หลังใช้ยานาน
อาการเหล่านี้มาจากผลต่อระบบที่ควบคุมการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ หากเกิดขึ้นควรพบแพทย์เพื่อปรับยา ข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการเหล่านี้
EPS (.eps) คืออะไร? ไฟล์กราฟิกเวกเตอร์
ในโลกคอมพิวเตอร์และการออกแบบ EPS หมายถึงไฟล์ .eps หรือ Encapsulated PostScript ซึ่งเป็นรูปแบบกราฟิกเวกเตอร์ที่ใช้กันในงานพิมพ์และภาพคุณภาพสูง สามารถย่อขยายโดยไม่เสียรายละเอียด เหมาะกับโปสเตอร์ แบนเนอร์ หรือโลโก้ แม้ปัจจุบัน SVG หรือ PDF จะนิยมกว่า แต่ EPS ยังคงใช้ในอุตสาหกรรมกราฟิกบางแห่ง โดยเฉพาะงานที่ต้องการความแม่นยำสูง
สรุป: เข้าใจ EPS อย่างรอบด้านเพื่อการตัดสินใจที่ชาญฉลาด
EPS มีความหมายหลากหลาย แต่ในแง่ลงทุน กำไรต่อหุ้นคือตัววัดหลักที่นักลงทุนไทยใช้ประเมินกำไรและประสิทธิภาพบริษัท การรู้วิธีคำนวณ ประเภท และการตีความ จะช่วยให้วิเคราะห์หุ้นได้อย่างมีเหตุผล
อย่างไรก็ตาม ควรใช้ EPS ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ และปัจจัยภายนอกเพื่อภาพรวมที่สมบูรณ์ การรู้ความหมายอื่นๆ ของ EPS ไม่ว่าจะระบบจ้างงานเกาหลีหรืออาการทางการแพทย์ จะช่วยให้คุณแยกแยะข้อมูลได้ถูกต้องในทุกสถานการณ์ ความรู้ครบถ้วนเกี่ยวกับ EPS จะเป็นเครื่องมือสำคัญให้คุณตัดสินใจลงทุนหรือเรื่องอื่นๆ ด้วยความมั่นใจ ในยุคที่ข้อมูลล้นหลาม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ EPS (FAQ)
EPS คืออะไรในบริบทของการลงทุนหุ้นไทย?
ในบริบทของการลงทุนหุ้นไทย EPS ย่อมาจาก Earnings Per Share หรือ “กำไรต่อหุ้น” ซึ่งเป็นตัวชี้วัดทางการเงินที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทสร้างกำไรได้เท่าไรต่อหุ้นสามัญแต่ละหุ้นที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด ใช้เพื่อประเมินความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
นักลงทุนควรใช้ EPS ในการตัดสินใจซื้อขายหุ้นอย่างไร?
นักลงทุนใช้ EPS เพื่อประเมินแนวโน้มการเติบโตของกำไร หาก EPS เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจบ่งชี้ถึงผลประกอบการที่ดี และยังใช้ในการคำนวณอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) เพื่อเปรียบเทียบมูลค่าหุ้นกับกำไร ควรใช้ควบคู่กับตัวชี้วัดอื่น ๆ เช่น P/E Ratio, อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน และกระแสเงินสด เพื่อการตัดสินใจที่รอบด้าน
EPS สูงหรือต่ำบอกอะไรเกี่ยวกับบริษัท?
EPS สูง: โดยทั่วไปบ่งชี้ว่าบริษัทมีกำไรต่อหุ้นมาก สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดี หรือมีการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
EPS ต่ำ: อาจหมายถึงบริษัทมีกำไรน้อยลง หรือมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นมากโดยที่กำไรไม่ได้เพิ่มตาม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาในการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม การตีความต้องพิจารณาจากค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมและประวัติของบริษัทนั้นๆ
ความแตกต่างระหว่าง Basic EPS และ Diluted EPS คืออะไร?
Basic EPS (กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน): คำนวณจากกำไรสุทธิหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่หมุนเวียนอยู่จริง
Diluted EPS (กำไรต่อหุ้นปรับลด): คำนวณโดยสมมติว่าหลักทรัพย์แปลงสภาพทั้งหมด (เช่น หุ้นกู้แปลงสภาพ, ใบสำคัญแสดงสิทธิ) ถูกแปลงเป็นหุ้นสามัญ ซึ่งจะทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นและ EPS ลดลง เป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงกำไรต่อหุ้นในสถานการณ์ที่อาจเลวร้ายที่สุด
นอกจาก EPS แล้ว มีตัวชี้วัดทางการเงินใดอีกที่ควรพิจารณาประกอบ?
นักลงทุนควรพิจารณาตัวชี้วัดอื่น ๆ เช่น:
- P/E Ratio (อัตราส่วนราคาต่อกำไร): ประเมินว่าหุ้นมีราคาแพงหรือถูกเมื่อเทียบกับกำไร
- D/E Ratio (อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน): ประเมินความเสี่ยงทางการเงินของบริษัท
- Current Ratio (อัตราส่วนสภาพคล่อง): ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น
- ROE (Return on Equity): ประเมินความสามารถในการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น
- กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน: แสดงถึงความสามารถในการสร้างเงินสดจากธุรกิจหลัก
EPS Growth Rate (อัตราการเติบโตของ EPS) สำคัญอย่างไรต่อการประเมินมูลค่าหุ้น?
EPS Growth Rate เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งบอกถึงอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นในแต่ละช่วงเวลา หากบริษัทมี EPS Growth Rate ที่สูงและสม่ำเสมอ แสดงว่าบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ใช้ในการประเมินมูลค่าหุ้น และมักจะดึงดูดนักลงทุนที่มองหาหุ้นเติบโต
EPS ที่เกี่ยวข้องกับระบบอนุญาตจ้างงานเกาหลี (Employment Permit System) คืออะไร และเกี่ยวข้องกับคนไทยอย่างไร?
EPS ในบริบทนี้คือ Employment Permit System ซึ่งเป็นระบบที่รัฐบาลเกาหลีใต้ใช้ในการรับแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายในเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมบางประเภท ระบบนี้เกี่ยวข้องกับคนไทยโดยตรงในฐานะช่องทางหลักและถูกกฎหมายสำหรับแรงงานไทยที่ต้องการไปทำงานในเกาหลีใต้ โดยต้องผ่านการทดสอบภาษาเกาหลีและความสามารถทางอาชีพที่จัดขึ้นโดยกรมการจัดหางานของไทย
อาการ Extrapyramidal Symptoms (EPS) ทางการแพทย์คืออะไร และเกิดจากสาเหตุใด?
Extrapyramidal Symptoms (EPS) คือกลุ่มอาการทางระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อบิดเกร็ง (Dystonia), อาการกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข (Akathisia), และอาการคล้ายพาร์กินสัน (Parkinsonism) อาการเหล่านี้มักเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาต้านโรคจิต (Antipsychotics) ที่ส่งผลต่อสารโดพามีนในสมอง
มีข้อควรระวังอะไรบ้างในการวิเคราะห์ EPS ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ไทย?
ข้อควรระวังได้แก่:
- พิจารณากำไรจากการดำเนินงานปกติ ไม่ใช่กำไรพิเศษ
- ทำความเข้าใจผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้น (เพิ่มทุน/ซื้อหุ้นคืน)
- หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบ EPS ข้ามอุตสาหกรรม
- ใช้ EPS ควบคู่กับตัวชี้วัดทางการเงินอื่นๆ เพื่อภาพรวมที่สมบูรณ์
- พิจารณาแนวโน้ม EPS ในระยะยาวมากกว่าตัวเลขในงวดเดียว
