บทนำ: ทำไมการเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ ‘กลต. รับรอง’ จึงสำคัญต่อคุณ?
ในยุคที่การลงทุนข้ามพรมแดนกลายเป็นเรื่องธรรมดา การเทรด Forex หรือตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนไทยจำนวนไม่น้อย ด้วยศักยภาพในการสร้างรายได้ที่น่าดึงดูด แต่ด้วยความซับซ้อนของตลาดนี้ การหาโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และปลอดภัยจึงกลายเป็นก้าวแรกที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่มักมองหาโบรกเกอร์ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า กลต. เพราะเชื่อว่านี่คือเครื่องยืนยันถึงความมั่นคงและถูกต้องตามกฎหมายในการลงทุน

เหตุผลที่ความปลอดภัยและความถูกต้องทางกฎหมายกลายเป็นประเด็นหลัก ก็เพราะตลาด Forex เต็มไปด้วยความเสี่ยง หากขาดแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือและโปร่งใส นักลงทุนอาจเผชิญกับการหลอกลวงหรืออุปสรรคในการถอนเงิน ส่งผลให้สูญเสียเงินทุนโดยไม่ทันตั้งตัว บทความนี้จะชำแหละความเป็นจริงเกี่ยวกับหน้าที่ของ กลต. ไทยในการดูแลตลาด Forex พร้อมแนะนำวิธีเลือกโบรกเกอร์ที่น่าไว้วางใจ เพื่อให้นักลงทุนไทยก้าวเข้าสู่การลงทุนด้วยความมั่นใจและไร้กังวล

ทำความเข้าใจ ‘กลต. ไทย’ (SEC Thailand) และบทบาทการกำกับดูแล
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. ไทย คือหน่วยงานรัฐบาลที่รับผิดชอบหลักในการดูแลและส่งเสริมตลาดทุนไทย ให้เกิดความโปร่งใส ยุติธรรม และมีประสิทธิภาพ การกำกับดูแลนี้ครอบคลุมสินทรัพย์ทางการเงินและผู้ประกอบการหลากหลายรูปแบบ เช่น
- **ตลาดหลักทรัพย์:** ดูแลการซื้อขายหุ้น พันธบัตร และหลักทรัพย์อื่น ๆ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- **ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์:** รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุน และผู้ค้าหลักทรัพย์
- **ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน:** เช่น กองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล หุ้นกู้ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives)

ในส่วนของตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศหรือ Forex กลต. มีหน้าที่ดูแลผู้ให้บริการซื้อขายอนุพันธ์ที่อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนในตลาด TFEX หรือ Thailand Futures Exchange ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ของ กลต.
แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องตระหนักคือ การกำกับดูแลของ กลต. มุ่งไปที่ตลาดอนุพันธ์ในประเทศเป็นหลัก ไม่ได้ขยายไปถึงโบรกเกอร์ Forex ระดับสากลที่ให้บริการซื้อขายสกุลเงินโดยตรงแก่บุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดความสับสน
การรู้จักขอบเขตของ กลต. จะช่วยให้นักลงทุนแยกแยะได้ชัดเจนว่าโบรกเกอร์แบบไหนอยู่ภายใต้การดูแลในประเทศ และแบบไหนอยู่นอกเหนือ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการวางแผนรับมือความเสี่ยงและเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม
ความจริงเกี่ยวกับ ‘โบรกเกอร์ Forex ที่ กลต. ไทย รับรอง’ สำหรับนักลงทุนรายย่อย
นี่คือประเด็นที่สร้างความเข้าใจผิดมากที่สุด สำหรับนักลงทุนไทยทั่วไปที่อยากเทรด Forex สกุลเงินต่างประเทศผ่านโบรกเกอร์สากล ในขณะนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ กลต. ไทย ยังไม่มีการออกใบอนุญาตหรือกำกับดูแลโดยตรงสำหรับโบรกเกอร์เหล่านี้ที่ให้บริการซื้อขายคู่สกุลเงินทั่วไป หรือ Spot Forex แก่บุคคลทั่วไปในไทย
ความเชื่อเรื่องโบรกเกอร์ที่ “กลต. รับรอง” มักเกิดจากสาเหตุหลายประการ
- **ความสับสนกับอนุพันธ์:** กลต. ดูแลการซื้อขายอนุพันธ์ที่อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนใน TFEX ซึ่งต่างจากการเทรด Spot Forex กับโบรกเกอร์ต่างชาติ
- **โฆษณาชวนเชื่อที่คลุมเครือ:** บางโบรกเกอร์ใช้วาจาที่ไม่ชัดเจน หรือยกใบอนุญาตอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับไทย เพื่อสร้างภาพลักษณ์น่าเชื่อถือ
- **ขาดความรู้กฎหมาย:** นักลงทุนอาจไม่ทราบข้อจำกัดทางกฎหมายของไทยเกี่ยวกับการเทรด Forex กับโบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาตในประเทศ
เพราะฉะนั้น ถ้าพบโบรกเกอร์ที่อ้างว่าได้รับการรับรองจาก กลต. สำหรับการเทรด Forex โดยตรง (ไม่ใช่ใน TFEX) ควรรีบตั้งสติ เพราะในความเป็นจริงไม่มีสิ่งนั้น การเลือกโบรกเกอร์ที่อยู่นอกการกำกับดูแลโดยตรงของไทยจึงมีความเสี่ยงสูงกว่า ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัยของเงินทุน ความยุติธรรมในการเทรด หรือการแก้ปัญหาถ้าขัดแย้งกัน
แม้กฎหมายไทยจะไม่ห้ามการลงทุนกับโบรกเกอร์ต่างชาติอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่มีการคุ้มครองตามกฎหมายไทยหากเกิดเหตุร้าย การเข้าใจสถานการณ์นี้จึงช่วยป้องกันการถูกหลอกและลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น
วิธีตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ Forex ในยุคที่ไม่มี ‘กลต. รับรอง’ โดยตรง
เมื่อไม่มีรับรองตรงจาก กลต. ไทย นักลงทุนต้องหันมาใช้วิธีอื่นเพื่อประเมินโบรกเกอร์ Forex สากล ให้มั่นใจในความปลอดภัย ขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยให้คุณตรวจสอบได้อย่างครอบคลุม
1. ตรวจสอบใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลสากล
ขั้นตอนสำคัญคือยืนยันว่าโบรกเกอร์ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานระดับโลกที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีกฎเกณฑ์เข้มงวดเพื่อปกป้องนักลงทุน ตัวอย่างหน่วยงานเด่น ได้แก่
- **FCA (Financial Conduct Authority) – สหราชอาณาจักร:** ถือเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เคร่งครัดที่สุด
- **ASIC (Australian Securities and Investments Commission) – ออสเตรเลีย:** โด่งดังเรื่องการคุ้มครองนักลงทุน
- **CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission) – ไซปรัส:** ได้รับความนิยมในยุโรปด้วยมาตรฐานที่ดี
- **NFA (National Futures Association) – สหรัฐอเมริกา:** สำหรับโบรกเกอร์ที่ให้บริการในสหรัฐ
แนะนำให้เข้าเว็บไซต์หน่วยงานนั้น ๆ โดยตรงเพื่อตรวจสถานะใบอนุญาต และเช็คว่าข้อมูลตรงกับที่โบรกเกอร์แจ้ง
2. ประวัติการดำเนินงานและความมั่นคงทางการเงิน
ดูว่าโบรกเกอร์ทำธุรกิจมานานเท่าไร เพราะผู้ที่มีประสบการณ์ยาวนานมักมั่นคงกว่า นอกจากนี้ ถ้ามีข้อมูล ควรตรวจสอบฐานะการเงินเพื่อประเมินความเสี่ยง
3. แพลตฟอร์มการซื้อขายและเครื่องมือ
โบรกเกอร์ชั้นนำควรมีแพลตฟอร์มที่เสถียร ใช้งานสะดวก เช่น MetaTrader 4 (MT4) หรือ MetaTrader 5 (MT5) พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์และทรัพยากรการเรียนรู้ที่ครบถ้วน เพื่อช่วยนักลงทุนตัดสินใจได้ดีขึ้น
4. สเปรด ค่าคอมมิชชั่น และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
เปรียบเทียบส่วนต่างราคาซื้อ-ขายหรือสเปรด ค่าคอมมิชชั่น และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ให้ละเอียด บางรายอาจเสนอสเปรดต่ำแต่ซ่อนค่าอื่นไว้
5. ช่องทางการฝาก-ถอนเงิน
เช็คว่าโบรกเกอร์รองรับวิธีฝาก-ถอนที่หลากหลาย สะดวก และปลอดภัย โดยเฉพาะความรวดเร็วในการถอนเงินซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญ
6. การบริการลูกค้า
บริการลูกค้าควรตอบสนองฉับไว มีประสิทธิภาพ และรองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาไทยถ้าเป็นไปได้ เพื่อให้การสื่อสารราบรื่น
7. รีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้งาน (เช่น จาก Pantip)
หาความเห็นจากนักลงทุนจริงในฟอรัมอย่าง Pantip.com หรือกลุ่ม Facebook เกี่ยวกับ Forex ซึ่งให้มุมมองจริงจากประสบการณ์ เช่น ปัญหาถอนเงินหรือคุณภาพบริการ
ตารางเปรียบเทียบหน่วยงานกำกับดูแลระหว่างประเทศ
หน่วยงานกำกับดูแล | ประเทศ | ระดับความเข้มงวด | จุดเด่น |
---|---|---|---|
FCA (Financial Conduct Authority) | สหราชอาณาจักร | สูงมาก | ปกป้องนักลงทุนอย่างเข้มงวด, มีกองทุนชดเชย |
ASIC (Australian Securities and Investments Commission) | ออสเตรเลีย | สูง | กฎระเบียบโปร่งใส, มีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ |
CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission) | ไซปรัส | ปานกลางถึงสูง | เป็นที่นิยมในยุโรป, ควบคุมโบรกเกอร์จำนวนมาก |
NFA (National Futures Association) | สหรัฐอเมริกา | สูงมาก | เข้มงวดมาก, จำกัดเลเวอเรจเพื่อลดความเสี่ยง |
สัญญาณเตือนของโบรกเกอร์ Forex ที่ไม่น่าไว้วางใจ
นอกจากตรวจสอบด้านบวกแล้ว ยังควรจับตาสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงโบรกเกอร์เสี่ยงหรือหลอกลวง
- **สัญญาผลตอบแทนสูงลิ่ว:** ไม่มีตลาดไหนรับประกันกำไรสูงสม่ำเสมอ ถ้าอ้างว่าจะรวยเร็ว ต้องระวัง
- **กดดันฝากเงินก้อนใหญ่:** เร่งให้ฝากทันทีหรือเสนอโบนัสไม่สมเหตุสมผล
- **ปัญหาถอนเงิน:** สัญญาณร้ายแรง ถ้ากระบวนการยุ่งยาก ช้า หรือปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผล
- **ขาดความโปร่งใส:** ไม่เปิดเผยใบอนุญาต ที่ตั้ง หรือเงื่อนไขชัดเจน
- **ติดต่อบริการลูกค้าไม่ได้:** สื่อสารยากหรือตอบไม่เป็นประโยชน์
- **แพลตฟอร์มไม่มืออาชีพ:** มีบั๊กบ่อยหรือดูน่าละอาย
- **ชักชวนผ่านโซเชียลหนักหน่วง:** ใช้ช่องทางไม่เป็นทางการ สร้างภาพฝันเกินจริง
การสังเกตสัญญาณเหล่านี้ช่วยป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อหลอกลวง และลดความเสี่ยงในตลาด Forex
การปกป้องตนเองในฐานะนักลงทุน Forex ชาวไทย: กฎหมายและข้อควรทราบ
ถึงแม้การเทรดกับโบรกเกอร์ต่างชาติจะไม่ผิดกฎหมายตรง ๆ แต่การขาดการกำกับในประเทศทำให้ต้องระมัดระวังและปกป้องตัวเองหลายด้าน
1. ข้อจำกัดของกฎหมายและการคุ้มครอง
ถ้าปัญหาเกิดขึ้น เช่น ถูกโกงหรือโบรกเกอร์หายตัว จะไม่มีช่องทางกฎหมายไทยช่วยเรียกคืนง่าย ๆ การฟ้องร้องต่างประเทศยุ่งยาก แพง และสำเร็จยาก
2. กฎเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทย
ธปท. ควบคุมการไหลเวียนเงินข้ามชาติ การโอนเงินสำหรับ Forex ไม่ผิด แต่จำนวนมากอาจถูกตรวจสอบ ส่งผลต่อความสะดวก ควรศึกษาข้อกำหนดของ ธปท. เกี่ยวกับธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ เพื่อปฏิบัติถูกต้อง
3. ภาระภาษีจากการลงทุน Forex
กำไรจาก Forex นับเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาในไทย ต้องยื่นรายได้และชำระตามกฎ แม้โบรกเกอร์ต่างชาติ การละเลยอาจนำปัญหากฎหมายมา
4. การจัดการความเสี่ยงส่วนบุคคล
ไร้การคุ้มครองในประเทศ ยิ่งต้องจัดการเสี่ยงดี เริ่มด้วยทุนน้อย เรียนรู้การบริหารพอร์ต และลงทุนไม่เกินที่ยอมเสียได้ เช่น ใช้ stop-loss เพื่อจำกัดขาดทุน
5. การติดตามข่าวสารและข้อมูล
อัปเดตข่าวจาก กลต. และ ธปท. เกี่ยวกับนโยบายใหม่ เพื่อให้การลงทุนสอดคล้องกฎล่าสุด
สรุป: ทางเลือกของนักลงทุนไทยกับโบรกเกอร์ Forex ที่ปลอดภัย
สรุปจากทั้งหมด แนวคิดโบรกเกอร์ Forex ที่ กลต. รับรองสำหรับเทรดคู่สกุลเงินทั่วไปยังไม่มีในไทย นักลงทุนไทยต้องรับผิดชอบตรวจสอบเองอย่างละเอียด
ทางเลือกปลอดภัยคือโบรกเกอร์สากลที่
- **อยู่ภายใต้การกำกับเข้มงวด** จากหน่วยงานดังอย่าง FCA, ASIC, CySEC
- **มีประวัติยาวนาน** และชื่อเสียงดีในวงการ
- **โปร่งใสทุกด้าน** ไม่ว่าจะเงื่อนไข ค่าใช้จ่าย หรือการทำงาน
- **ฝาก-ถอนเชื่อถือได้** พร้อมบริการลูกค้าคุณภาพ
Forex เสี่ยงสูงโดยธรรมชาติ เลเวอเรจเพิ่มทั้งกำไรและขาดทุน ต้องเข้าใจเสี่ยงให้ถ่องแท้ อย่าลงทุนเกินตัว การเรียนรู้ การบริหารเสี่ยง และเลือกโบรกเกอร์ดี จะนำพาไปสู่ความสำเร็จและปลอดภัยสำหรับนักลงทุนไทย
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
โบรกเกอร์ Forex ที่กลต. ไทย ให้ใบอนุญาตมีรายชื่อใดบ้าง?
ปัจจุบัน กลต. ไทย ไม่ได้ออกใบอนุญาตหรือกำกับดูแลโบรกเกอร์ Forex ระหว่างประเทศที่ให้บริการซื้อขายคู่สกุลเงิน (Spot Forex) แก่นักลงทุนรายย่อยโดยตรง อย่างไรก็ตาม กลต. กำกับดูแลผู้ประกอบการที่ให้บริการซื้อขายอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในตลาด TFEX (Thailand Futures Exchange) ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน
การเทรด Forex ในประเทศไทยถูกกฎหมายหรือไม่?
กฎหมายไทยไม่ได้ระบุว่าการเทรด Forex กับโบรกเกอร์ต่างประเทศเป็นสิ่งผิดกฎหมายโดยตรง แต่ก็ไม่ได้ให้การคุ้มครองตามกฎหมายไทยหากเกิดปัญหา นักลงทุนจึงต้องรับผิดชอบความเสี่ยงด้วยตนเอง และต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงภาระภาษี
หากโบรกเกอร์ Forex ไม่ได้ถูกกำกับดูแลโดย กลต. ไทย จะมีผลกระทบอย่างไร?
ผลกระทบหลักคือการขาดการคุ้มครองตามกฎหมายไทย หากเกิดข้อพิพาท การฉ้อโกง หรือปัญหาในการถอนเงิน คุณจะไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายผ่านช่องทางกฎหมายในประเทศไทยได้ง่าย ๆ การดำเนินการทางกฎหมายกับโบรกเกอร์ต่างประเทศนั้นซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก
ฉันจะตรวจสอบได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์ Forex นั้นน่าเชื่อถือและปลอดภัย?
ควรตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับสากลที่มีชื่อเสียง เช่น FCA (สหราชอาณาจักร), ASIC (ออสเตรเลีย), หรือ CySEC (ไซปรัส) นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบประวัติการดำเนินงาน รีวิวจากผู้ใช้งาน (เช่น Pantip) ความโปร่งใสของค่าธรรมเนียม และคุณภาพของบริการลูกค้า
ควรเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระหว่างประเทศหรือไม่?
ใช่ อย่างยิ่ง การเลือกโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานระดับสากลที่มีชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะหน่วยงานเหล่านี้มีกฎระเบียบที่เข้มงวดเพื่อปกป้องเงินทุนของนักลงทุน และบังคับใช้มาตรฐานการดำเนินงานที่เป็นธรรม
มีโบรกเกอร์ Forex รายใดที่นักลงทุนไทยนิยมใช้และมีความน่าเชื่อถือบ้าง (อ้างอิงจาก Pantip)?
ในฟอรัม Pantip และกลุ่มนักลงทุนออนไลน์ มักมีการพูดถึงโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลสากลที่เข้มงวดและมีชื่อเสียงในด้านการบริการที่ดี นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและรีวิวล่าสุดจากแหล่งเหล่านี้ และทำการตรวจสอบด้วยตนเองก่อนตัดสินใจเลือก
จะทำอย่างไรหากถูกโบรกเกอร์ Forex โกงหรือมีปัญหาการถอนเงิน?
หากคุณลงทุนกับโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานสากล คุณสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานกำกับดูแลนั้น ๆ ได้ตามขั้นตอนที่พวกเขากำหนด อย่างไรก็ตาม หากโบรกเกอร์ไม่มีใบอนุญาตหรือเป็นบริษัทที่ฉ้อโกง การดำเนินการเพื่อเรียกคืนเงินจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากและมีโอกาสสำเร็จน้อยมาก
การเทรด Forex มีผลทางภาษีในประเทศไทยอย่างไร?
กำไรที่ได้รับจากการเทรด Forex ถือเป็นเงินได้พึงประเมินในประเทศไทย และต้องนำไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นักลงทุนมีหน้าที่ต้องยื่นแสดงรายได้และชำระภาษีตามอัตราที่กำหนด โดยไม่ว่าจะเทรดกับโบรกเกอร์ในหรือต่างประเทศก็ตาม
ความแตกต่างระหว่างโบรกเกอร์ Forex ที่ กลต. รับรอง กับโบรกเกอร์ที่ ธปท. กำกับดูแล?
กลต. กำกับดูแลผลิตภัณฑ์ทางการเงินและผู้ประกอบการในตลาดทุนไทย รวมถึงอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยนใน TFEX แต่ไม่ได้กำกับดูแลโบรกเกอร์ Spot Forex ระหว่างประเทศ
ธปท. (ธนาคารแห่งประเทศไทย) มีหน้าที่กำกับดูแลนโยบายการเงินและสถาบันการเงินในประเทศ รวมถึงควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินตราต่างประเทศ แต่ไม่ได้กำกับดูแลโบรกเกอร์ Forex โดยตรง ดังนั้นจึงไม่มีโบรกเกอร์ Forex ที่ “กลต. รับรอง” หรือ “ธปท. กำกับดูแล” ในลักษณะที่นักลงทุนรายย่อยเข้าใจสำหรับการเทรด Spot Forex
ข้อควรระวังในการเลือกโบรกเกอร์ Forex สำหรับนักลงทุนมือใหม่คืออะไร?
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยการศึกษาหาความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Forex และการบริหารความเสี่ยงอย่างละเอียด เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานสากล มีแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย และมีฝ่ายบริการลูกค้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ หลีกเลี่ยงโบรกเกอร์ที่เสนอผลตอบแทนสูงเกินจริง หรือเร่งรัดให้ฝากเงินจำนวนมาก และไม่ควรลงทุนด้วยเงินที่ไม่สามารถยอมรับการสูญเสียได้