หุ้น JNJ: ทำไมเป็นหุ้นปันผลดีเด่นที่นักลงทุนไทยควรมีในพอร์ต?

อัปเดตหุ้นอเมริกา

ทำไมนักลงทุนไทยควรสนใจหุ้น JNJ?

บริษัท Johnson & Johnson (JNJ) ไม่ใช่แค่ชื่อที่เราคุ้นเคยจากผลิตภัณฑ์บนชั้นวางในบ้าน แต่ยังเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการดูแลสุขภาพระดับโลก ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมั่นคงในตลาดหุ้น การเลือกลงทุนในหุ้น JNJ จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณาสำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการความเสถียรและโอกาสเติบโตในระยะยาว บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกมุมของ JNJ ตั้งแต่ภาพรวมธุรกิจ ผลประกอบการ นโยบายปันผล ไปจนถึงโอกาสและความเสี่ยง พร้อมคำแนะนำปฏิบัติจริงสำหรับนักลงทุนไทย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบคอบว่าหุ้นตัวนี้เหมาะกับพอร์ตของคุณหรือไม่

Thai investor looking at JNJ stock chart a stable investment with dividends illustration

บริษัท Johnson & Johnson (JNJ): ผู้นำด้านการดูแลสุขภาพระดับโลก

Johnson & Johnson หรือที่รู้จักกันในชื่อ J&J คือบริษัทชื่อดังไปทั่วโลก ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1886 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองนิวบรันสวิก ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ของสหรัฐอเมริกา จากจุดเริ่มต้นที่เป็นผู้ผลิตผ้ากอซและเครื่องมือผ่าตัด บริษัทได้เติบโตจนกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสุขภาพ โดยมีผลิตภัณฑ์และบริการครอบคลุมทั่วทุกมุมโลก

An illustration of Johnson and Johnson headquarters with historical elements and healthcare products

ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมองค์กรของ J&J

ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 100 ปี J&J ได้ผ่านเหตุการณ์สำคัญมากมายที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและยกระดับคุณภาพชีวิตมนุษย์ สิ่งที่เป็นหัวใจขององค์กรคือ "Our Credo" ซึ่งเป็นหลักการที่ยึดถือมาตั้งแต่ปี 1943 โดยให้ความสำคัญกับผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล บิดามารดาทุกคน พนักงาน ชุมชน และผู้ถือหุ้น หลักการนี้ช่วยให้ J&J สร้างชื่อเสียงและความไว้วางใจในอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจหลัก: สำรวจสามส่วนงานสำคัญ

J&J ขับเคลื่อนธุรกิจผ่านสามส่วนหลักที่หลากหลายและสนับสนุนกันเอง ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวม

  • เภสัชกรรมและเวชภัณฑ์: ส่วนนี้เน้นการค้นคว้า พัฒนา ผลิต และจำหน่ายยาที่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ สำหรับรักษาโรคซับซ้อนที่ยังขาดทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์หลักครอบคลุมด้านมะเร็ง ภูมิคุ้มกัน ประสาทวิทยา โรคติดเชื้อ และโรคหัวใจหลอดเลือด J&J มีคลังยาในอนาคตที่แข็งแกร่ง และทุ่มงบประมาณมหาศาลในการวิจัยเพื่อนำนวัตกรรมใหม่ๆ สู่ตลาด
  • เทคโนโลยีทางการแพทย์: ส่วนงานนี้ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือแพทย์สำหรับผ่าตัด รักษา และวินิจฉัยโรค รวมถึงอุปกรณ์ผ่าตัด ระบบกระดูกและข้อ เครื่องมือศัลยกรรมตา และอุปกรณ์หัวใจหลอดเลือด J&J ครองตำแหน่งผู้นำในหลายตลาด ด้วยนวัตกรรมที่ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น
  • ผลิตภัณฑ์สุขภาพผู้บริโภค: ส่วนนี้มุ่งผลิตสินค้าที่ผู้คนทั่วไปใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งหลายรายการคุ้นเคยในไทย เช่น พลาสเตอร์ Band-Aid ยาแก้ปวด Tylenol น้ำยาบ้วนปาก Listerine และครีมบำรุงผิว Neutrogena ในปี 2023 J&J ได้แยกส่วนนี้เป็นบริษัทใหม่ชื่อ Kenvue (NYSE: KVUE) เพื่อเพิ่มมูลค่าและให้แต่ละส่วนมีอิสระในการดำเนินงานและกำหนดกลยุทธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแยก Kenvue
People patients doctors nurses employees community holding hands around a JNJ logo Our Credo illustration

ผลตอบแทนของหุ้น JNJ และตัวชี้วัดทางการเงินที่ควรรู้

เพื่อประเมินมูลค่าจริงและศักยภาพของบริษัท การทำความเข้าใจผลตอบแทนและตัวเลขทางการเงินของหุ้น JNJ ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับนักลงทุน

ราคาหุ้นและแนวโน้มในอดีต (NYSE: JNJ)

หุ้น JNJ ทำการซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ภายใต้รหัส JNJ ราคามักเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลเมื่อเทียบกับหุ้นเทคโนโลยีหรือหุ้นเติบโตสูง เนื่องจากอุตสาหกรรมสุขภาพมีความต้องการที่สม่ำเสมอและไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากวัฏจักรเศรษฐกิจ นักลงทุนสามารถตรวจสอบข้อมูลราคาย้อนหลัง 1 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี เพื่อดูแนวโน้มและเปรียบเทียบกับดัชนี S&P 500 ได้จากแหล่งข้อมูลชั้นนำ ดูข้อมูลราคาหุ้น JNJ บน Yahoo Finance โดยรวมแล้ว JNJ มักให้ผลตอบแทนที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะในช่วงตลาดปั่นป่วน

การวิเคราะห์ตัวเลขทางการเงินหลัก

ตัวเลขเหล่านี้ช่วยให้เห็นภาพสุขภาพทางการเงินของ J&J อย่างชัดเจน:

  • รายได้และกำไรสุทธิ: J&J แสดงแนวโน้มรายได้และกำไรที่เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์และการขยายตลาด
  • กำไรต่อหุ้นและอัตราส่วนราคาต่อกำไร: EPS วัดความสามารถทำกำไรต่อหุ้น ขณะที่ P/E ช่วยประเมินว่าหุ้นราคาเหมาะสมหรือไม่เมื่อเทียบกับกำไร
  • มูลค่าตลาด: JNJ เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลก แสดงถึงขนาดและบทบาทสำคัญในตลาดทุน
  • กระแสเงินสด: โดยเฉพาะกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่บ่งชี้ถึงความสามารถสร้างเงินจากธุรกิจหลัก สำคัญสำหรับการลงทุน จ่ายปันผล และจัดการหนี้
ตัวชี้วัดทางการเงินหลัก (ตัวอย่าง) ปี 2023 (โดยประมาณ) ปี 2022 (โดยประมาณ)
รายได้ (Revenue) 9.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ 9.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
กำไรสุทธิ (Net Income) 2.0 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ 1.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
กำไรต่อหุ้น (EPS) 7.80 เหรียญสหรัฐ 6.50 เหรียญสหรัฐ
มูลค่าตลาด (Market Cap) ประมาณ 3.5-4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 3.5-4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

นโยบายปันผลของ JNJ: เหตุผลที่ทำให้เป็นหุ้นปันผลยอดเยี่ยม (Dividend Aristocrat)

หากคุณเป็นนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับกระแสเงินสดและความมั่นคง หุ้น JNJ โดดเด่นในเรื่องนโยบายจ่ายปันผลที่เชื่อถือได้

ประวัติและการเติบโตของการจ่ายปันผล

J&J ได้รับการยกย่องว่าเป็น "Dividend Aristocrat" และบางครั้งเรียกว่า "Dividend King" ซึ่งหมายถึงบริษัทที่เพิ่มปันผลต่อเนื่องนานกว่า 25 หรือ 50 ปี ด้วยสถิติที่เพิ่มปันผลมากกว่า 60 ปีติดต่อกัน สิ่งนี้พิสูจน์ถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและความทุ่มเทในการแบ่งปันผลกำไรกับผู้ถือหุ้น ตรวจสอบประวัติเงินปันผล JNJ บน Nasdaq

อัตราผลตอบแทนจากปันผล (Dividend Yield) อาจไม่สูงสุด แต่ความสม่ำเสมอและการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือจุดแข็งหลัก นอกจากนี้ อัตราส่วนการจ่ายปันผลที่สมดุลยังยืนยันว่าบริษัทสามารถรักษาการจ่ายได้ยั่งยืน โดยไม่กระทบการเติบโต

เหตุผลที่ปันผลของ JNJ สำคัญต่อนักลงทุน

  • กระแสเงินสดที่เชื่อถือได้: การจ่ายปันผลสม่ำเสมอทำให้ JNJ เป็นแหล่งรายได้แบบไม่ต้องลงแรง เหมาะสำหรับวางแผนเกษียณหรือเสริมรายได้
  • ผลตอบแทนทบต้นระยะยาว: โดยนำปันผลกลับมาลงทุนใหม่ (DRIP) สามารถสร้างการเติบโตแบบทบต้นที่น่าประทับใจ
  • เปรียบเทียบกับทางเลือกอื่น: เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากไทยหรือหุ้นปันผลในตลาดไทย JNJ มักให้การเพิ่มปันผลที่น่าดึงดูดกว่าในระยะยาว โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่จำเป็นต่อชีวิต

โอกาสและความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้น JNJ

เหมือนการลงทุนทุกประเภท การถือหุ้น JNJ มีทั้งด้านบวกและด้านลบที่นักลงทุนไทยต้องชั่งน้ำหนักให้ดี

จุดแข็งหลักในการลงทุน JNJ

  • แบรนด์แข็งแกร่งและผู้นำตลาด: ชื่อเสียงที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกในทุกส่วนธุรกิจ ช่วยให้มีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน
  • นวัตกรรมและการวิจัยที่ต่อเนื่อง: งบประมาณมหาศาลใน R&D นำไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และสิทธิบัตรที่ปกป้องรายได้ เช่น ยารักษามะเร็งตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว
  • ฐานะการเงินมั่นคงและเงินสดเหลือเฟือ: งบดุลที่แข็งและกระแสเงินสดสม่ำเสมอ ช่วยรับมือวิกฤตเศรษฐกิจและคว้าโอกาสใหม่
  • ความหลากหลายของธุรกิจ: สามส่วนงานที่แตกต่างช่วยกระจายความเสี่ยง หากส่วนหนึ่งชะลอตัว ส่วนอื่นก็ชดเชยได้

ความเสี่ยงและอุปสรรคที่ควรระวัง

  • คดีความ: J&J เจอคดีจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องแป้งทัลคัมที่อาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายชดเชยและปรับมหาศาล ซึ่งเคยกระทบกำไรในอดีต
  • สิทธิบัตรหมดอายุ: เมื่อสิทธิบัตรยาหลักหมด ต้องเผชิญการแข่งขันจากยาชื่อสามัญ ส่งผลต่อยอดขาย เช่น กรณียาบางตัวที่สิทธิบัตรใกล้หมดในปีหน้า
  • กฎระเบียบและการแข่งขัน: อุตสาหกรรมสุขภาพถูกควบคุมเข้มงวด และแข่งขันดุเดือดกับยักษ์ใหญ่อย่าง Pfizer, Novartis หรือ Procter & Gamble
  • ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน: สำหรับคนไทย การลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ เสี่ยงจากค่าเงินบาท-ดอลลาร์ ซึ่งอาจลดผลตอบแทนเมื่อแปลงกลับ

วิธีที่นักลงทุนไทยซื้อขายหุ้น JNJ: คู่มือปฏิบัติ

การลงทุนหุ้นสหรัฐฯ อย่าง JNJ อาจดูยุ่งยากสำหรับมือใหม่ในไทย แต่ด้วยขั้นตอนชัดเจน ก็ทำได้ไม่ยาก

เลือกโบรกเกอร์ไทยที่เหมาะสม

นักลงทุนไทยเข้าถึงหุ้นสหรัฐฯ ได้ผ่านโบรกเกอร์ไทยหลายรายที่รองรับการซื้อขายต่างประเทศ เช่น Liberator หรือ Finnomena ผ่านพันธมิตรโบรกเกอร์ รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ ที่ ก.ล.ต. รับรอง ก่อนเลือก ควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียม แพลตฟอร์ม และบริการ เช่น การสนับสนุนภาษาไทยหรือเครื่องมือวิเคราะห์

ขั้นตอนการซื้อขายและเคล็ดลับ

  1. เปิดบัญชี: เตรียมเอกสารอย่างบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีธนาคาร และหลักฐานรายได้ (ถ้าจำเป็น) เพื่อสมัครบัญชีซื้อขายต่างประเทศกับโบรกเกอร์
  2. โอนเงิน: ฝากเงินบาทเข้าบัญชี แล้วแลกเป็นดอลลาร์ผ่านโบรกเกอร์หรือธนาคาร โดยบางรายมีบริการอัตโนมัติ
  3. ส่งคำสั่ง: ล็อกอินแพลตฟอร์ม ค้น JNJ (JNJ) กำหนดจำนวนหุ้น ราคา และประเภทคำสั่ง เช่น Market Order สำหรับซื้อทันที หรือ Limit Order สำหรับราคาที่กำหนด
  4. เวลาทำการ: NYSE เปิด 9:30 น. – 16:00 น. เวลาตะวันออกสหรัฐฯ ซึ่งตรงกับดึกถึงเช้าในไทย ดังนั้นควรตั้งแจ้งเตือนหรือใช้คำสั่งล่วงหน้า

เรื่องภาษีที่ต้องรู้

  • ภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากสหรัฐฯ: ปันผลจากหุ้นสหรัฐฯ ถูกหัก 30% อัตโนมัติ แต่ยื่นฟอร์ม W-8BEN กับโบรกเกอร์เพื่อลดเหลือ 15% ตามสนธิสัญญาภาษีไทย-สหรัฐฯ ข้อมูลภาษีจากกรมสรรพากร
  • ภาษีในไทย: รายได้ปันผลจากต่างประเทศต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราก้าวหน้า แนะนำปรึกษานักบัญชีเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด โดยเฉพาะหากมีรายได้อื่นๆ

สรุป: หุ้น JNJ เข้ากับพอร์ตของคุณไหม?

หุ้น Johnson & Johnson (JNJ) มอบโอกาสที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนไทยที่แสวงหาความมั่นคง การเติบโตช้าๆ แต่สม่ำเสมอ และรายได้จากปันผล ด้วยธุรกิจหลากหลาย นวัตกรรมที่ต่อเนื่อง และฐานะการเงินที่เหนียวแน่น JNJ จึงเป็นหุ้นคุณภาพสูง แต่ก็ต้องระวังความเสี่ยงอย่างคดีความ สิทธิบัตรหมดอายุ และความผันผวนค่าเงิน

JNJ เหมาะกับนักลงทุนที่:

  • ต้องการความเสถียร: หุ้นผันผวนต่ำกับแนวโน้มเติบโตยาวนาน
  • เน้นปันผล: ชอบหุ้นที่มีประวัติจ่ายและเพิ่มปันผลสม่ำเสมอ
  • กระจายพอร์ต: อยากเพิ่มหุ้นสุขภาพคุณภาพสูงเพื่อความสมดุล

ก่อนลงทุนจริง ควรศึกษาลึกขึ้น ประเมินความเสี่ยงที่รับได้ และปรับให้เข้ากับเป้าหมายส่วนตัว เพื่อให้การลงทุนสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หุ้น JNJ ดี ไหม? เหมาะกับการลงทุนระยะยาวสำหรับคนไทยหรือไม่?

หุ้น JNJ ถือเป็นหุ้นคุณภาพดี มีความมั่นคงสูง มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่เติบโตอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 60 ปี เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวสำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการความมั่นคงและกระแสเงินสดจากเงินปันผล อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีหัก ณ ที่จ่ายร่วมด้วย

Johnson & Johnson ทำธุรกิจอะไรบ้าง และมีผลิตภัณฑ์อะไรที่คนไทยคุ้นเคย?

Johnson & Johnson ดำเนินธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่:

  • ยาและเวชภัณฑ์ (Pharmaceuticals): ยารักษาโรคมะเร็ง ภูมิคุ้มกัน โรคติดเชื้อ
  • เครื่องมือแพทย์ (MedTech): อุปกรณ์ผ่าตัด ระบบออร์โธปิดิกส์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผู้บริโภค (Consumer Health): ซึ่งปัจจุบันแยกออกเป็น Kenvue ผลิตภัณฑ์ที่คนไทยคุ้นเคยได้แก่ Band-Aid, Tylenol, Listerine, Neutrogena

หุ้น JNJ จ่ายปันผลปีละกี่ครั้ง และมีอัตราเงินปันผลเฉลี่ยเท่าไหร่?

หุ้น JNJ โดยทั่วไปจะจ่ายเงินปันผลปีละ 4 ครั้ง (รายไตรมาส) อัตราเงินปันผล (Dividend Yield) จะเปลี่ยนแปลงไปตามราคาหุ้นและจำนวนเงินปันผลที่ประกาศ แต่โดยเฉลี่ยแล้วมักจะอยู่ในช่วง 2.5-3.0% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีสำหรับหุ้นที่มีความมั่นคงสูงเช่นนี้

หากต้องการซื้อหุ้น JNJ ในประเทศไทย ต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ใด?

นักลงทุนไทยสามารถเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศกับโบรกเกอร์ไทยที่ให้บริการ เช่น Liberator, Finnomena (ผ่านพาร์ทเนอร์โบรกเกอร์) หรือบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมและบริการก่อนตัดสินใจ

การลงทุนในหุ้น JNJ มีความเสี่ยงอะไรบ้างที่นักลงทุนไทยควรรู้?

ความเสี่ยงหลักๆ ได้แก่:

  • คดีความ: โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์แป้งทัลคัม
  • สิทธิบัตรหมดอายุ (Patent Cliff): การแข่งขันจากยาชื่อสามัญเมื่อสิทธิบัตรยาสำคัญหมดอายุ
  • กฎระเบียบที่เข้มงวด: อุตสาหกรรมยาและอุปกรณ์แพทย์มีการกำกับดูแลสูง
  • ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน: ผลกระทบต่อผลตอบแทนเมื่อแปลงกลับเป็นเงินบาท

การลงทุนในหุ้นต่างประเทศอย่าง JNJ มีผลกระทบทางภาษีต่อคนไทยอย่างไร?

เงินปันผลจากหุ้น JNJ จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 30% โดยสหรัฐฯ แต่สามารถลดเหลือ 15% ได้โดยการยื่นแบบฟอร์ม W-8BEN กับโบรกเกอร์ นอกจากนี้ เงินปันผลดังกล่าวยังถือเป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องนำไปรวมคำนวณและยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทยด้วย

เทียบกับหุ้นไทยหรือหุ้นสหรัฐฯ ตัวอื่น JNJ มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไร?

JNJ มีข้อได้เปรียบคือ:

  • ความมั่นคงสูง: เป็นบริษัทขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมที่จำเป็น
  • เงินปันผลสม่ำเสมอ: ประวัติการจ่ายและเพิ่มปันผลยาวนาน
  • การกระจายความเสี่ยง: ธุรกิจหลากหลาย

ข้อเสียเปรียบอาจเป็น:

  • อัตราการเติบโต: อาจไม่หวือหวาเท่าหุ้นเทคโนโลยี
  • ความเสี่ยงด้านกฎหมาย: คดีความต่างๆ
  • ความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน: สำหรับนักลงทุนไทย

หลังจากการแยกธุรกิจ Consumer Health ออกเป็น Kenvue จะส่งผลต่อหุ้น JNJ อย่างไร?

การแยก Kenvue มีเป้าหมายเพื่อปลดล็อกมูลค่าของทั้งสองบริษัท JNJ ที่เหลือจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจยาและเครื่องมือแพทย์ที่มีอัตรากำไรสูงและศักยภาพการเติบโตจากนวัตกรรม ซึ่งอาจทำให้ JNJ กลายเป็นบริษัทที่มีความคล่องตัวและมีแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะที่ Kenvue ก็จะสามารถดำเนินกลยุทธ์ของตนเองได้อย่างอิสระ

มีข่าวสารหรือบทวิเคราะห์ล่าสุดเกี่ยวกับหุ้น JNJ ที่นักลงทุนไทยควรอ่านหรือไม่?

นักลงทุนควรติดตามข่าวสารจากแหล่งข่าวการเงินที่เชื่อถือได้ เช่น Bloomberg, Reuters, Wall Street Journal หรือเว็บไซต์ investor relations ของ Johnson & Johnson โดยตรง นอกจากนี้ โบรกเกอร์ไทยบางรายอาจมีบทวิเคราะห์หุ้นสหรัฐฯ เป็นภาษาไทย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการทำความเข้าใจข้อมูลในบริบทของตลาดไทย

發佈留言