CFDs คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักลงทุนไทย พร้อม 5 ประเภทสินทรัพย์ยอดนิยม

สรุปข่าวฟอเร็กซ์

CFD คืออะไร? สัญญาซื้อขายส่วนต่างสำหรับนักลงทุนไทย

สัญญาซื้อขายส่วนต่าง หรือที่รู้จักกันในชื่อ CFD ย่อมาจาก Contract for Difference ถือเป็นเครื่องมือทางการเงินชนิดหนึ่งในกลุ่มอนุพันธ์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ต่างๆ โดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์นั้นจริงๆ การเทรดแบบนี้คือการตกลงกันระหว่างคู่สัญญาเพื่อชำระส่วนต่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิด หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเปลี่ยนแปลง ผลลัพธ์คือกำไรหรือขาดทุนที่ตรงกับระดับความผันผวนนั้น

ภาพประกอบคนกำลังเทรดบนแล็ปท็อปพร้อมกราฟและสัญลักษณ์สกุลเงินลอยรอบตัว

ในช่วงเวลานี้ CFD กำลังกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่นักลงทุนไทย ซึ่งหลายคนมองหาวิธีกระจายความเสี่ยงในพอร์ตลงทุนและหาโอกาสจากตลาดการเงินระดับโลก ด้วยความยืดหยุ่นในการเลือกสินทรัพย์หลากหลายประเภท แต่ก่อนจะดำดิ่งลึก ควรทราบว่า CFD ในที่นี้หมายถึงเครื่องมือการลงทุนทางการเงินล้วนๆ ไม่ใช่ Computational Fluid Dynamics ซึ่งเป็นศาสตร์ทางวิศวกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย

ภาพประกอบมือถือเงินจำนวนน้อยขยายใหญ่แสดงแนวคิดเลเวอเรจ

หลักการทำงานของ CFD: เลเวอเรจและมาร์จิ้น

เพื่อให้เข้าใจ CFD อย่างแท้จริง การทำความรู้จักกับเลเวอเรจและมาร์จิ้นถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ขาดไม่ได้ โดยกลไกเหล่านี้ช่วยกำหนดวิธีที่นักลงทุนจะจัดการกับตำแหน่งการเทรดได้อย่างไร

ภาพประกอบตลาดการเงินหลากหลายสัญลักษณ์สกุลเงิน หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตบนแพลตฟอร์มเทรด

เลเวอเรจ (Leverage)

เลเวอเรจคือกลไกที่ช่วยให้นักลงทุนควบคุมการเทรดที่มีมูลค่าสูงกว่าทุนที่ตัวเองมีจริงหลายเท่า สมมติว่าโบรกเกอร์ให้เลเวอเรจ 1:100 คุณก็สามารถเปิดออเดอร์มูลค่า 100,000 บาทได้ด้วยทุนแค่ 1,000 บาท ถ้าทิศทางราคาที่คาดเดาถูกต้อง กำไรจะเพิ่มพูนอย่างน่าทึ่ง แต่ถ้าตลาดหันหลัง ความสูญเสียก็จะขยายตัวเร็วไม่แพ้กัน

มาร์จิ้น (Margin)

มาร์จิ้นคือส่วนของทุนที่ต้องฝากไว้กับโบรกเกอร์เพื่อเป็นประกันในการเปิดและถือสถานะการเทรด มันคือกุญแจที่ทำให้เลเวอเรจใช้งานได้ โดยระดับมาร์จิ้นจะขึ้นอยู่กับสินทรัพย์และเงื่อนไขของโบรกเกอร์ ถ้าค่าสถานะลดลงจนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คุณอาจได้รับ margin call ซึ่งเป็นการแจ้งให้เติมเงินเพิ่ม มิเช่นนั้นสถานะจะถูกปิดอัตโนมัติเพื่อหยุดยั้งความเสียหาย

ดังนั้น นักลงทุนจำเป็นต้องศึกษากลไกเหล่านี้ให้ทะลุปรุโปร่ง เพื่อจัดการกับความไม่แน่นอนในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เลเวอเรจโดยขาดความระมัดระวังอาจทำให้ทุนหายไปเกินกว่าที่คาดไว้

ประเภทของ CFD ที่สามารถเทรดได้

หนึ่งในจุดเด่นของ CFD คือความหลากหลายของสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนเลือกเทรดตามความถนัดและสไตล์ของตัวเอง นี่คือประเภทหลักที่ได้รับความนิยมในตลาด

  • CDF คู่สกุลเงิน (Forex CFD): เน้นการเก็งกำไรจากความแตกต่างราคาของคู่เงิน เช่น EUR/USD หรือ GBP/JPY โดยอาศัยสภาพคล่องมหาศาลของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราทั่วโลก ซึ่งเปิดโอกาสให้เทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • CDF หุ้น (Stock CFD): ช่วยให้นักลงทุนติดตามการเคลื่อนไหวของหุ้นบริษัทใหญ่ๆ ทั่วโลกโดยไม่ต้องซื้อหุ้นจริง ทำให้เข้าถึงตลาดต่างประเทศง่ายดาย และทำกำไรได้ทั้งตอนราคาขึ้นและลง
  • CDF ดัชนี (Indices CFD): มุ่งไปที่ดัชนีหลักอย่าง S&P 500 ในสหรัฐฯ FTSE 100 ในอังกฤษ หรือ DAX 30 ในเยอรมนี ซึ่งสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจของแต่ละภูมิภาค ช่วยให้นักลงทุนมองภาพใหญ่ได้ชัดเจน
  • CDF สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities CFD): ครอบคลุมสินค้าหลากหลาย เช่น ทองคำ เงิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และผลผลิตทางการเกษตร โดยราคาเหล่านี้มักผันผวนตามเหตุการณ์โลก เช่น ความขัดแย้งทางการเมืองหรือความต้องการในตลาด
  • CDF คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency CFD): แม้จะมีความผันผวนสูง แต่ก็ดึงดูดนักเก็งกำไรจากสกุลเงินดิจิทัลยอดฮิตอย่าง Bitcoin และ Ethereum โดยไม่ต้องจัดการกับกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือเทคโนโลยีบล็อกเชนโดยตรง

การเลือกประเภท CFD ควรมาจากการประเมินความรู้ในตลาดนั้นๆ และระดับความอดทนต่อความเสี่ยงของตัวเอง เพื่อให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ข้อดีและข้อเสียของการเทรด CFD

ก่อนจะลงทุนใน CFD นักลงทุนควรชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์และความท้าทายให้รอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าตัวเลือกนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ของตน

ข้อดี:

  • การซื้อขายสองทิศทาง: สามารถทำกำไรจากทั้งแนวโน้มขาขึ้นและขาลง ซึ่งต่างจากการลงทุนหุ้นแบบดั้งเดิมที่มักจำกัดอยู่ที่การซื้อเพื่อรอราคาขึ้น
  • การใช้เลเวอเรจ: เปิดโอกาสให้ใช้ทุนน้อยควบคุมตำแหน่งใหญ่ สร้างผลตอบแทนสูงหากวิเคราะห์ถูกต้อง
  • สภาพคล่องสูง: ตลาดเคลื่อนไหวรวดเร็ว ช่วยให้นักลงทุนเข้าออกตำแหน่งได้สะดวกตามราคาปัจจุบัน
  • เข้าถึงตลาดหลากหลาย: รวมสินทรัพย์จากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นหุ้นต่างชาติ ดัชนี หรือสินค้าโภคภัณฑ์
  • ค่าใช้จ่ายต่ำ: มักเสียเฉพาะสเปรด และบางครั้งไม่มีค่าคอมมิชชั่น เมื่อเทียบกับการซื้อขายสินทรัพย์จริง

ข้อเสีย:

  • ความเสี่ยงจากเลเวอเรจ: แม้จะเพิ่มโอกาสกำไร แต่ก็ทำให้ขาดทุนรุนแรงและรวดเร็ว จนทุนอาจหมดในพริบตา
  • ค่าธรรมเนียมข้ามคืน: ถ้าถือสถานะนานเกินวัน อาจต้องจ่ายหรือรับ swap fee ซึ่งกระทบกำไรระยะยาว
  • ความผันผวนสูง: ราคาเปลี่ยนแปลงกะทันหัน อาจนำไปสู่ความสูญเสียที่ไม่คาดฝัน
  • ความเสี่ยงจากโบรกเกอร์: เนื่องจากทำสัญญากับโบรกเกอร์โดยตรง ไม่ใช่ตลาดกลาง จึงต้องเลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือและได้รับการกำกับดูแล

CDF ผิดกฎหมายไหมในประเทศไทย? กฎระเบียบและข้อควรทราบ

หลายคนสงสัยว่า CFD ผิดกฎหมายในไทยหรือไม่ คำตอบคือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ไม่ได้อนุญาตให้โบรกเกอร์ที่จดทะเบียนในไทยนำเสนอบริการ CFD โดยตรง ดังนั้น นักลงทุนไทยส่วนใหญ่มักหันไปใช้โบรกเกอร์ต่างประเทศ ซึ่งไม่ตกอยู่ภายใต้การดูแลของ ก.ล.ต. ส่งผลให้ไม่มีหลักประกันทางกฎหมายไทย หากเกิดปัญหาหรือข้อพิพาท

ก.ล.ต. มักออกคำเตือนเกี่ยวกับการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ขาดการกำกับดูแล โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการที่ไม่ได้ขออนุญาตในไทย ซึ่งรวมถึง CFD ด้วย นักลงทุนควรตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ ก.ล.ต. เพื่อตระหนักถึงความเสี่ยงต่างๆ

ข้อควรทราบสำหรับนักลงทุนไทย:

  • การเลือกโบรกเกอร์: ถ้าตัดสินใจใช้บริการต่างประเทศ ให้เลือกที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานชั้นนำ เช่น FCA ในสหราชอาณาจักร หรือ ASIC ในออสเตรเลีย เพื่อปกป้องทุนให้มากที่สุด
  • ความเสี่ยงทางกฎหมาย: การเทรดกับโบรกเกอร์ที่ไม่ได้จดทะเบียนในไทย อาจทำให้กฎหมายไทยไม่สามารถช่วยเหลือได้หากมีปัญหา
  • การตรวจสอบและป้องกันการหลอกลวง: ต้องสอบสวนประวัติและใบอนุญาตของโบรกเกอร์ให้ละเอียด เพื่อแยกแยะระหว่างผู้ให้บริการจริงกับมิจฉาชีพ

การเข้าใจกรอบกฎหมายและการคัดเลือกโบรกเกอร์อย่างรอบคอบ จะช่วยปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนไทยได้ในระยะยาว

การบริหารความเสี่ยงในการเทรด CDF

ด้วยความเสี่ยงที่สูงของการเทรด CFD การวางแผนจัดการความเสี่ยงจึงกลายเป็นหัวใจหลักที่จะช่วยให้นักลงทุนอยู่รอดและสร้างกำไรอย่างยั่งยืน ทุกคนควรมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและยึดมั่นในนั้น

กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่สำคัญ:

  • กำหนดจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss): ตั้งคำสั่งล่วงหน้าเพื่อปิดสถานะอัตโนมัติเมื่อราคาเคลื่อนไหวผิดทางถึงระดับที่กำหนด ช่วยป้องกันไม่ให้ความสูญเสียลุกลาม
  • กำหนดจุดทำกำไร (Take Profit): คำสั่งที่ช่วยล็อกกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมาย ป้องกันไม่ให้กำไรที่ได้มาหายไปเพราะการพลิกผันของตลาด
  • การจัดการเงินทุน: อย่าเสี่ยงทุนเกินกว่าที่รับได้ โดยจำกัดการลงทุนแต่ละครั้งไม่เกิน 1-2% ของทุนทั้งหมด เพื่อรักษาความยั่งยืน
  • ใช้บัญชีทดลอง: เริ่มต้นด้วย demo account เพื่อฝึกฝนแพลตฟอร์มและกลยุทธ์ โดยไม่ต้องใช้เงินจริง ช่วยสร้างความมั่นใจก่อนลงสนามจริง
  • ทำความเข้าใจตลาด: ติดตามปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคที่กระทบราคาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตัดสินใจที่เฉียบแหลมยิ่งขึ้น
  • จำกัดการใช้เลเวอเรจ: แม้จะน่าดึงดูด แต่การใช้สูงเกินไปโดยขาดประสบการณ์อาจนำไปสู่การสูญเสียทั้งพอร์ตในเวลาอันสั้น

วินัยในการยึดแผนจัดการความเสี่ยงคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยรักษาทุนและเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในโลก CFD

CDF เทียบกับ หุ้นไทย: ทางเลือกการลงทุนสำหรับนักลงทุน

สำหรับนักลงทุนไทย การเปรียบเทียบระหว่าง CFD กับการซื้อขายหุ้นไทยในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ในการเลือกเครื่องมือที่ตรงกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยง

คุณสมบัติ CDF (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) หุ้นไทย (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย – SET)
ความเป็นเจ้าของ ไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงจริง เป็นเจ้าของหุ้นจริง
เลเวอเรจ มีเลเวอเรจสูง ทำให้ลงทุนด้วยเงินน้อยแต่ควบคุมสถานะใหญ่ได้ ไม่มีเลเวอเรจ (ยกเว้นการใช้ Margin Loan ซึ่งมีความเสี่ยงสูง)
การทำกำไร ทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้น (Long) และขาลง (Short) โดยทั่วไปทำกำไรจากตลาดขาขึ้นเป็นหลัก
ตลาดที่เข้าถึง ตลาดต่างประเทศหลากหลาย เช่น หุ้นต่างประเทศ ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ เน้นหุ้นบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยเป็นหลัก
เวลาทำการ สามารถเทรดได้เกือบตลอด 24 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับตลาดอ้างอิง) ตามเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ไทย
ค่าใช้จ่าย ส่วนใหญ่เป็นค่าสเปรด และค่าธรรมเนียมข้ามคืน (ถ้ามี) ค่าคอมมิชชั่น และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย
ปันผล ไม่ได้รับเงินปันผลโดยตรง (อาจมีการปรับบัญชีเทียบเท่า) ได้รับเงินปันผลเมื่อบริษัทประกาศจ่าย
การกำกับดูแล โดยโบรกเกอร์ต่างประเทศ มักไม่ได้รับการกำกับดูแลโดย ก.ล.ต. ไทย ก.ล.ต. ไทย กำกับดูแลอย่างเข้มงวด
ภาษี ซับซ้อนและอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเทศของโบรกเกอร์และกฎหมายไทย ภาษีกำไรจากหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยทั่วไปได้รับการยกเว้น
ความเสี่ยง สูงมากจากเลเวอเรจและโบรกเกอร์ต่างประเทศ ความเสี่ยงปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับหุ้นและสภาวะตลาด

การเลือกระหว่าง CFD กับหุ้นไทยควรพิจารณาจากความรู้ ความอดทนต่อความเสี่ยง และวัตถุประสงค์ หากต้องการความมั่นคงทางกฎหมายและถือสินทรัพย์จริง หุ้นไทยอาจเหมาะกว่า แต่ถ้าคุณมีประสบการณ์และอยากทำกำไรจากทั้งสองทิศทาง CFD ก็เป็นตัวเลือกที่น่าลอง ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ไทย จะช่วยในการตัดสินใจ

เริ่มต้นเทรด CDF อย่างไร? คำแนะนำสำหรับมือใหม่

ถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่อยากลองเทรด CFD ขั้นตอนพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้เริ่มต้นได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

  1. ศึกษาความรู้เบื้องต้น: เริ่มจากทำความเข้าใจ CFD หลักการ ความเสี่ยง และวิธีการเทรด ผ่านบทความ วิดีโอ หรือเวิร์กช็อป เพื่อสร้างฐานที่แข็งแกร่ง
  2. เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม:
    • การกำกับดูแล: มองหาโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุมัติจากหน่วยงานน่าเชื่อถือในต่างประเทศ เช่น FCA หรือ ASIC
    • แพลตฟอร์ม: ตรวจสอบความใช้งานง่าย ความเสถียร และฟีเจอร์ เช่น MetaTrader 4/5
    • ค่าธรรมเนียม: เปรียบเทียบสเปรด ค่าธรรมเนียม และ swap fee
    • บริการลูกค้า: ต้องมีช่องทางติดต่อที่สะดวกและตอบสนองดี
  3. เปิดบัญชีทดลอง: ใช้ demo account ฟรีเพื่อฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง เรียนรู้แพลตฟอร์มและทดลองกลยุทธ์โดยไม่เสี่ยง
  4. เปิดบัญชีจริงและฝากเงิน: เมื่อพร้อมแล้ว สร้างบัญชีจริงและฝากทุนผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โอนธนาคารหรือบัตรเครดิต
  5. ทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์ม: เรียนรู้การเปิด-ปิดออเดอร์ ตั้ง stop loss/take profit ดูประวัติ และใช้เครื่องมือวิเคราะห์
  6. เริ่มด้วยทุนน้อย: สำหรับมือใหม่ ใช้เงินจำนวนเล็กน้อยที่ยอมเสียได้ เพื่อเรียนรู้จากประสบการณ์จริง
  7. พัฒนาต่อเนื่อง: ตลาดเปลี่ยนแปลงเสมอ ดังนั้นต้องอัปเดตกลยุทธ์และวิเคราะห์ตลาดอย่างสม่ำเสมอ

สรุป: CDF เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้

CDF คือเครื่องมือที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูงได้ ด้วยความยืดหยุ่นในการเก็งกำไรทั้งขาขึ้นและขาลง การเข้าถึงตลาดหลากหลาย และเลเวอเรจที่ช่วยขยายโอกาส แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มาพร้อมความเสี่ยงมหาศาล โดยเฉพาะเลเวอเรจที่อาจทำให้ขาดทุนเกินคาด

สำหรับนักลงทุนไทย การรู้ว่าการเทรด CFD ไม่ได้รับการกำกับดูแลโดยตรงจาก ก.ล.ต. และการเลือกโบรกเกอร์ต่างประเทศที่น่าเชื่อถือ จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง การศึกษาต่อเนื่อง การมีวินัยในความเสี่ยง และการประเมินตัวเอง จะนำไปสู่ความสำเร็จใน CFD

ก่อนเริ่มต้น ควรคิดให้รอบคอบ ศึกษาลึกซึ้ง และค่อยๆ ก้าวไป เพื่อให้ CFD กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายการลงทุน

1. CDF คืออะไร และแตกต่างจากการซื้อหุ้นทั่วไปอย่างไร?

CDF หรือ Contract for Difference คือสัญญาที่ช่วยให้เก็งกำไรจากความเปลี่ยนแปลงราคา โดยไม่ต้องถือสินทรัพย์จริง ต่างจากการซื้อหุ้นที่ทำให้คุณเป็นเจ้าของส่วนแบ่งในบริษัทโดยตรง

2. การเทรด CDF ถูกกฎหมายในประเทศไทยหรือไม่ และต้องระวังอะไรบ้าง?

ในไทย ก.ล.ต. ไม่ได้อนุญาตให้โบรกเกอร์ในประเทศให้บริการ CDF ดังนั้นส่วนใหญ่เทรดผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศที่อยู่นอกการกำกับดูแลของไทย ต้องระวังเรื่องกฎหมายและการปกป้องทุนที่อาจขาดหายไป

3. มีโบรกเกอร์ CDF รายใดบ้างที่น่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุนไทย?

เนื่องจาก ก.ล.ต. ไม่กำกับดูแลโดยตรง ควรเลือกโบรกเกอร์ต่างประเทศที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองจากหน่วยงานอย่าง FCA (สหราชอาณาจักร) ASIC (ออสเตรเลีย) หรือ CySEC (ไซปรัส) ตรวจสอบใบอนุญาตและรีวิวจากผู้ใช้จริงให้ละเอียด

4. กำไรจากการเทรด CDF ต้องเสียภาษีในประเทศไทยอย่างไร?

กำไรจาก CDF ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามกฎหมายไทย อาจต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่เนื่องจากเกี่ยวข้องกับโบรกเกอร์ต่างประเทศ ข้อกำหนดอาจซับซ้อน แนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญภาษีเพื่อความชัดเจน

5. เลเวอเรจและมาร์จิ้นใน CDF ทำงานอย่างไร และมีความเสี่ยงแค่ไหน?

  • เลเวอเรจ: ช่วยควบคุมสถานะใหญ่ด้วยทุนน้อย เพิ่มกำไรแต่ก็เสี่ยงขาดทุนหนัก
  • มาร์จิ้น: ทุนที่ฝากเป็นประกัน ถ้าราคาผิดทางจนต่ำเกณฑ์ อาจถูกเรียกเติมเงินหรือปิดสถานะ

ความเสี่ยงหลักคือขาดทุนเกินทุนเริ่มต้น

6. มือใหม่ควรเริ่มต้นเทรด CDF ด้วยจำนวนเงินเท่าไหร่ดี?

มือใหม่ควรโฟกัสที่การเรียนรู้ก่อน เริ่มด้วยเงินน้อยที่สุดที่ยอมเสียได้ทั้งหมด และใช้บัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนให้ชำนาญ

7. มีกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงใดบ้างที่ใช้ได้ผลกับการเทรด CDF?

กลยุทธ์หลักคือตั้ง Stop Loss เพื่อหยุดขาดทุน และ Take Profit เพื่อล็อกกำไร จัดการทุนไม่เกิน 1-2% ต่อเทรด และฝึกด้วยบัญชีทดลอง

8. CDF กับ Forex เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

Forex คือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา ส่วน CDF เป็นรูปแบบเทรดอนุพันธ์ที่ครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลาย รวมถึงคู่เงิน (Forex CDF) ดังนั้น Forex เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ CDF ที่ยังรวมหุ้น ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์

9. ฉันสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CDF จากแหล่งใดได้บ้างนอกจากโบรกเกอร์?

ลองดูเว็บ ก.ล.ต. ไทยสำหรับข้อมูลทั่วไป ข่าวการเงินที่น่าเชื่อถือ ฟอรัมนักลงทุน เช่น CDF ใน Pantip รวมถึงหนังสือและบทความเกี่ยวกับอนุพันธ์

10. การเทรด CDF บนมือถือสะดวกและปลอดภัยหรือไม่?

เทรดบนมือถือสะดวกมากเพราะเข้าถึงได้ทุกที่ แต่ความปลอดภัยขึ้นกับโบรกเกอร์และแอป ควรเลือกแพลตฟอร์มที่มีระบบรักษาความปลอดภัยดีและใช้อินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้

發佈留言