dxy index กราฟ: 5 เคล็ดลับดูดัชนีดอลลาร์ คาดการณ์ทองคำและเงินบาทไทย

สรุปข่าวฟอเร็กซ์

DXY Index กราฟ: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักลงทุนไทย เพื่อทำความเข้าใจความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์และโอกาสในตลาด

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า DXY Index ถือเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงผู้ที่อยู่ในประเทศไทยด้วย ในการประเมินสถานะของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ การศึกษากราฟ DXY Index กราฟอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณคาดการณ์ทิศทางของเงินดอลลาร์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย เช่น ทองคำ ค่าเงินบาท หรือแม้แต่ตลาดหุ้นไทย ในบทความนี้ เราจะสำรวจทุกมุมมองของ DXY ตั้งแต่หลักการพื้นฐานไปจนถึงการวิเคราะห์เชิงลึก โดยเฉพาะความเชื่อมโยงกับตลาดในไทย เพื่อช่วยให้นักลงทุนไทยนำไปปรับใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภาพประกอบนักลงทุนไทยกำลังดูกราฟ DXY Index เพื่อวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์ โอกาสในตลาดทองคำ เงินบาท และหุ้นไทย

DXY Index (US Dollar Index) คืออะไร? แนวคิดพื้นฐานและคุณค่าหลัก

DXY Index หรือดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐ คือตัววัดมูลค่าของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุลจากทั่วโลก ดัชนีนี้เกิดขึ้นในปี 1973 โดยธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Federal Reserve และมีการซื้อขายผ่านตลาด ICE Futures US วัตถุประสงค์หลักคือการสะท้อนความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์ในบริบทการค้าสากล

ส่วนประกอบของตะกร้าสกุลเงินใน DXY Index ประกอบด้วยดังนี้:

สกุลเงิน ตัวย่อ สัดส่วน (%)
ยูโร EUR 57.6%
เยนญี่ปุ่น JPY 13.6%
ปอนด์อังกฤษ GBP 11.9%
ดอลลาร์แคนาดา CAD 9.1%
โครนาสวีเดน SEK 4.2%
ฟรังก์สวิส CHF 3.6%

จากตารางนี้ จะเห็นชัดเจนว่ายูโรมีน้ำหนักมากที่สุดในตะกร้า ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของยูโรจึงมีอิทธิพลสูงต่อการเคลื่อนไหวของ DXY Index หากดัชนีนี้เพิ่มขึ้น แสดงว่าดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินในตะกร้า ส่วนหากลดลง ก็หมายถึงดอลลาร์อ่อนค่าลงตามไปด้วย

ภาพประกอบสัญลักษณ์เงินดอลลาร์ล้อมรอบด้วยสัญลักษณ์สกุลเงินหลักหกสกุล EUR JPY GBP CAD SEK CHF ในตะกร้า DXY

วิธีดู DXY Index กราฟ: แพลตฟอร์มยอดนิยมและฟังก์ชันกราฟ

สำหรับนักลงทุน การเข้าถึงกราฟ DXY Index กราฟแบบเรียลไทม์คือกุญแจสำคัญในการติดตามและวิเคราะห์ตลาด คุณสามารถหาข้อมูลเหล่านี้จากแพลตฟอร์มการเงินออนไลน์ชั้นนำหลายแห่ง ซึ่งหลายๆ ที่มีตัวเลือกภาษาไทยให้ใช้งานสะดวก

  • Investing.com (เวอร์ชันไทย): แพลตฟอร์มนี้ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มนักลงทุนไทย ด้วยข้อมูลครบถ้วนและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย เพียงค้นหาคำว่า DXY หรือ US Dollar Index ก็จะเจอกราฟเรียลไทม์ทันที
  • TradingView (เวอร์ชันไทย): เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชื่นชอบเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง มีกราฟ DXY ที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ พร้อมอินดิเคเตอร์และเครื่องมือวิเคราะห์หลากหลาย
  • Bloomberg และ MarketWatch: ถ้าคุณต้องการข้อมูลเชิงลึกและข่าวสารระดับมืออาชีพ แพลตฟอร์มเหล่านี้ก็ให้บริการกราฟ DXY ได้ดีเช่นกัน

เมื่อเข้าถึงกราฟ DXY บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ คุณสามารถเลือกช่วงเวลาที่ต้องการ เช่น นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ หรือเดือน เพื่อดูมุมมองที่แตกต่างกัน กราฟแท่งเทียน หรือ Candlestick Chart เป็นรูปแบบที่นิยมเพราะแสดงราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในแต่ละช่วงได้ชัดเจน นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือ Moving Average เพื่อติดตามแนวโน้ม หรือใช้เครื่องมือวาดเส้นแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้านเพื่อวิเคราะห์เพิ่มเติม

ภาพประกอบบุคคลกำลังถือแท็บเล็ตแสดงกราฟแท่งเทียน DXY บนแพลตฟอร์มการเงินพร้อมโลโก้

การตีความ DXY Index กราฟ: จากแนวโน้มสู่จุดสำคัญ (Dollar Index ดู ยัง ไง)

การทำความเข้าใจว่า Dollar Index ดู ยัง ไง ไม่ใช่แค่การมองกราฟธรรมดา แต่คือการแปลความหมายข้อมูลเพื่อพยากรณ์อนาคตได้อย่างมีเหตุผล

  • การวิเคราะห์แนวโน้ม DXY:
    • แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend): ดัชนีสร้างจุดสูงสุดและต่ำสุดใหม่ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนว่าดอลลาร์กำลังแข็งค่าอย่างสม่ำเสมอ
    • แนวโน้มขาลง (Downtrend): ดัชนีสร้างจุดต่ำสุดและสูงสุดใหม่ที่ต่ำลงเรื่อยๆ บ่งบอกถึงดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
    • ช่วงพักตัว (Sideways/Consolidation): ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แสดงถึงความลังเลของตลาด
  • แนวรับและแนวต้าน:
    • แนวรับ (Support): ระดับราคาที่ดัชนีมักหยุดตกหรือเด้งขึ้น แสดงถึงแรงซื้อที่เข้ามาสนับสนุน
    • แนวต้าน (Resistance): ระดับราคาที่ดัชนีมักหยุดขึ้นหรือถูกกดลง แสดงถึงแรงขายที่เข้มแข็ง

    นักลงทุนสามารถใช้เครื่องมือบนกราฟเพื่อกำหนดระดับเหล่านี้ ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการตัดสินใจเข้า-ออกตลาด

  • การประยุกต์ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคเบื้องต้น:
    • RSI (Relative Strength Index): ช่วยระบุภาวะซื้อมากเกินหรือขายมากเกินของ DXY
    • MACD (Moving Average Convergence Divergence): ใช้ยืนยันแนวโน้มและสัญญาณการพลิกผัน

    การผสมผสานตัวชี้วัดเหล่านี้กับการดูแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน จะทำให้การตีความกราฟ DXY Index กราฟแม่นยำยิ่งขึ้น

  • ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ใน DXY: แม้ DXY จะเป็นดัชนี แต่บางแพลตฟอร์มแสดงปริมาณซื้อขายจากสัญญาฟิวเจอร์สที่เกี่ยวข้อง หากปริมาณสูงควบคู่กับการเคลื่อนไหวราคาที่ชัดเจน จะยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มนั้นได้ดี

ด้วยการวิเคราะห์เหล่านี้ คุณจะสามารถมองเห็นภาพรวมของตลาดได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเมื่อนำไปเชื่อมโยงกับปัจจัยภายนอก

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ DXY Index

การเปลี่ยนแปลงของ DXY Index ไม่ได้เกิดขึ้นสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยเศรษฐกิจและสถานการณ์โลกที่หลากหลาย ซึ่งนักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิด

  • นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed):
    • การปรับอัตราดอกเบี้ย: ปัจจัยนี้มีน้ำหนักมากที่สุด หาก Fed ขึ้นดอกเบี้ย ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเพราะดึงดูดการลงทุนมากกว่า ในขณะที่การลดดอกเบี้ยจะทำให้ดอลลาร์อ่อนลง
    • การผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือการลดขนาดงบดุล (QT): นโยบายเหล่านี้ควบคุมปริมาณเงินในระบบ ส่งผลต่อมูลค่าดอลลาร์โดยตรง
  • ข้อมูลเศรษฐกิจหลักของสหรัฐ:
    • อัตราเงินเฟ้อ (CPI): หากเงินเฟ้อสูงเกินคาด Fed อาจขึ้นดอกเบี้ย สนับสนุนให้ DXY เพิ่มขึ้น
    • ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP): ตัวเลข GDP ที่ดีแสดงถึงเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง หนุนดอลลาร์ให้แข็งค่า
    • การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payrolls): การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกตลาดแรงงานแข็ง ส่งผลบวกต่อดอลลาร์
    • ยอดค้าปลีก (Retail Sales): ยอดขายที่สูงสะท้อนกำลังซื้อดี ซึ่งช่วยให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
  • เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก:
    • สงครามการค้า ความขัดแย้งทางการเมือง หรือโรคระบาด: ในช่วงที่โลกไม่แน่นอน ดอลลาร์มักถูกมองเป็นที่หลบภัย นักลงทุนจึงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันมาถือดอลลาร์ ทำให้ DXY สูงขึ้น
    • วิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่น: เช่น ในยุโรป ญี่ปุ่น หรือจีน จะทำให้สกุลเงินอย่างยูโรหรือเยนอ่อนลง ส่งผลให้ DXY แข็งค่าขึ้นโดยอัตโนมัติ
  • ความเสี่ยงและความอยากเสี่ยงของตลาด (Market Risk Appetite):
    • ความอยากเสี่ยงสูง (Risk-on): นักลงทุนหันไปลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นในตลาดเกิดใหม่ ทำให้ดอลลาร์อ่อนลง
    • ความกลัวความเสี่ยง (Risk-off): นักลงทุนมุ่งสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างดอลลาร์ ทองคำ หรือพันธบัตรสหรัฐ สนับสนุนให้ DXY เพิ่มขึ้น

การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณคาดการณ์การเคลื่อนไหวของ DXY ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาผลกระทบต่อตลาดไทย

DXY กับตลาดไทย: ความสัมพันธ์ระหว่างเงินบาท, ทองคำ, และตลาดหุ้นไทย

ส่วนนี้คือจุดเด่นสำหรับนักลงทุนไทยในการวิเคราะห์กราฟ DXY Index กราฟ โดยมุ่งเน้นความเชื่อมโยงเฉพาะกับตลาดในประเทศ

  • DXY กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท (THB):
    • โดยทั่วไป DXY และเงินบาทมีความสัมพันธ์แบบตรงข้าม
    • เมื่อ DXY เพิ่มขึ้น (ดอลลาร์แข็ง): เงินบาทมักอ่อนลง เนื่องจากเงินทุนอาจไหลออกจากไทยไปสหรัฐเพื่อผลตอบแทนที่ดีกว่า หรือสินค้าส่งออกไทยมีราคาแพงขึ้นเมื่อนับเป็นดอลลาร์
    • เมื่อ DXY ลดลง (ดอลลาร์อ่อน): เงินบาทมักแข็งขึ้น ซึ่งเอื้อต่อผู้นำเข้าของไทย แต่กระทบผู้ส่งออก
    • กรณีศึกษา: ในช่วงปลายปี 2022 ถึงต้นปี 2023 เมื่อ Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง DXY พุ่งสูง ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าอย่างเห็นได้ชัด สร้างความท้าทายให้ภาคนำเข้าและหนี้ต่างประเทศของไทย ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานไว้ ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • DXY กับทองคำ (ทอง):
    • DXY และทองคำมักเคลื่อนไหวแบบผกผัน
    • ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยทางเลือกของดอลลาร์
    • เมื่อ DXY เพิ่มขึ้น: ราคาทองมักลดลง เพราะทองแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น และนักลงทุนหันไปถือดอลลาร์แทน
    • เมื่อ DXY ลดลง: ราคาทองมักเพิ่มขึ้น เนื่องจากดอลลาร์มีมูลค่าลดลง ทำให้ทองถูกกว่าและเป็นที่ต้องการมากขึ้น
  • DXY กับตลาดหุ้นไทย (SET Index):
    • ความสัมพันธ์ระหว่าง DXY กับ SET Index ไม่ชัดเจนเสมอไป แต่มีผลกระทบทางอ้อม
    • เมื่อ DXY เพิ่มขึ้น: เงินทุนต่างชาติอาจไหลออกจากตลาดหุ้นไทยไปสหรัฐ กดดัน SET Index ให้ลดลง นอกจากนี้ เงินบาทอ่อนยังทำให้ต้นทุนนำเข้าของบริษัทสูงขึ้น
    • เมื่อ DXY ลดลง: เงินทุนต่างชาติอาจไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เนื่องจากเงินบาทแข็งและสินทรัพย์เกิดใหม่น่าลงทุน
    • ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย: DXY ที่แข็งค่าขึ้นกระทบภาคส่งออกและนำเข้าโดยตรง ทำให้สินค้าส่งออกแพงขึ้นในตลาดโลก และนำเข้าแพงขึ้นในประเทศ ซึ่งอาจเพิ่มเงินเฟ้อและชะลอการเติบโตเศรษฐกิจ

DXY ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) และกลยุทธ์ (DXY Forex คือ)

สำหรับผู้เทรดในตลาด Forex การเข้าใจว่า DXY Forex คืออะไร และการนำ DXY Index ไปใช้คือสิ่งจำเป็นที่ช่วยเพิ่มขอบเขตในการตัดสินใจ

  • DXY ในฐานะตัวชี้วัดนำหรือเครื่องมือยืนยัน:
    • DXY ทำหน้าที่เป็นตัวชี้วัดนำสำหรับคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์ เช่น EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD
    • ตัวอย่าง: ถ้า DXY แสดงแนวโน้มขาขึ้นชัดเจน แสดงว่าดอลลาร์แข็งค่า คุณสามารถคาดการณ์ว่า EUR/USD จะลดลงเพราะยูโรอ่อนลง
    • นอกจากนี้ ยังใช้ยืนยันการวิเคราะห์ หากกราฟคู่สกุลเงินบอกว่า USD แข็ง การดู DXY ที่สอดคล้องจะเพิ่มความมั่นใจในการเทรด
  • กลยุทธ์การเทรดง่ายๆ ที่อิง DXY:
    • กลยุทธ์ยืนยันแนวโน้ม: เมื่อ DXY มีแนวโน้มชัดเจน (ขึ้นหรือลง) ให้เลือกคู่สกุลเงินที่สอดคล้อง เช่น DXY ขาขึ้น ให้ Sell EUR/USD หรือ Buy USD/JPY
    • กลยุทธ์ Divergence (สัญญาณขัดแย้ง): ถ้า DXY ทำจุดสูงใหม่แต่ USD/JPY ไม่ทำตาม อาจเป็นสัญญาณแนวโน้มอ่อนแรงและการกลับตัว
  • การบริหารความเสี่ยง (Risk Management):
    • การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop-Loss): กำหนดระดับราคาที่ยอมรับขาดทุน เพื่อจำกัดความเสียหายหากตลาดสวนทาง
    • การตั้งจุดทำกำไร (Take-Profit): กำหนดระดับที่ต้องการปิดตำแหน่งเพื่อล็อกกำไร
    • การจัดการขนาดตำแหน่ง (Position Sizing): คำนวณขนาดลงทุนให้เหมาะสม ไม่เกิน 1-2% ของทุนทั้งหมดต่อเทรด
  • คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์ไทย (การปรับใช้ให้เข้ากับท้องถิ่น):
    • การเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขาย: เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและได้รับการกำกับจากหน่วยงานอย่าง ก.ล.ต. (SEC Thailand) หรือหน่วยงานสากล เพื่อปกป้องเงินทุน เว็บไซต์สำนักงาน ก.ล.ต.
    • ความท้าทายที่พบบ่อย: เทรดเดอร์ไทยอาจเจอความผันผวนของเงินบาทสูง ซึ่งกระทบกำไรเมื่อแปลงกลับเป็นบาท ดังนั้น การติดตามข่าวเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศจึงสำคัญยิ่ง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ DXY Index

DXY คืออะไร? และมันมีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจไทยและอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอย่างไร?

DXY หรือ US Dollar Index คือดัชนีที่วัดความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลทั่วโลก โดยปกติแล้ว DXY จะมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับเงินบาท เมื่อ DXY แข็งค่าขึ้น เงินบาทมักจะอ่อนค่าลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เช่น ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น กระทบต่อภาคการท่องเที่ยว และอาจทำให้เงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไทย

ในประเทศไทย ผมควรไปที่ไหนเพื่อดู DXY Index กราฟ แบบเรียลไทม์?

นักลงทุนไทยสามารถดู DXY Index กราฟ แบบเรียลไทม์ได้จากแพลตฟอร์มการเงินออนไลน์ยอดนิยม เช่น Investing.com (เวอร์ชันภาษาไทย), TradingView (เวอร์ชันภาษาไทย), Bloomberg หรือ MarketWatch เพียงค้นหา “DXY” หรือ “US Dollar Index” บนแพลตฟอร์มเหล่านี้

Dollar Index ดู ยัง ไง เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบของแนวโน้มดอลลาร์ต่อราคาทองคำ?

โดยทั่วไป DXY และราคาทองคำมีความสัมพันธ์แบบผกผัน เมื่อ Dollar Index แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำมักจะลดลง เนื่องจากทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ๆ และเงินดอลลาร์ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าสนใจกว่า ในทางกลับกัน เมื่อ DXY อ่อนค่าลง ราคาทองคำมักจะสูงขึ้น การดูแนวโน้มของ DXY จึงช่วยให้คุณคาดการณ์ทิศทางของราคาทองคำได้

การที่ DXY Index แข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลง มีผลกระทบต่อการค้าส่งออกและท่องเที่ยวของไทยอย่างไรบ้าง?

เมื่อ DXY แข็งค่าขึ้น เงินบาทมักจะอ่อนค่าลง ซึ่งทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาถูกลงเมื่อคิดเป็นดอลลาร์ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน แต่ในทางกลับกัน การนำเข้าจะมีต้นทุนสูงขึ้น สำหรับการท่องเที่ยว เมื่อเงินบาทอ่อนค่าลง จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวถูกลง แต่คนไทยที่ไปเที่ยวต่างประเทศจะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

นักลงทุนไทยที่ใช้ DXY ในการซื้อขาย Forex ควรระวังความเสี่ยงและข้อควรพิจารณาอะไรบ้าง?

นักลงทุนไทยควรระวังความผันผวนของค่าเงินบาท, เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างถูกต้อง (เช่น จาก ก.ล.ต. หรือหน่วยงานสากลที่น่าเชื่อถือ), และใช้การบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด เช่น การตั้ง Stop-Loss และ Take-Profit นอกจากนี้ ควรทำความเข้าใจถึงความแตกต่างของเวลาทำการตลาด และติดตามข่าวสารเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด

นอกเหนือจาก DXY แล้ว ยังมีตัวชี้วัดใดอีกบ้างที่สามารถช่วยให้นักเทรดไทยประเมินความแข็งแกร่งโดยรวมของเงินดอลลาร์ได้?

นอกจาก DXY แล้ว นักเทรดสามารถพิจารณาตัวชี้วัดอื่น ๆ เช่น Federal Reserve’s Broad Trade-Weighted Dollar Index ซึ่งคำนวณจากตะกร้าสกุลเงินที่กว้างกว่า และรวมถึงสกุลเงินของประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ หรือติดตามนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ โดยตรง

จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์ของ DXY Index มีคุณค่าอ้างอิงอย่างไรต่อการตัดสินใจลงทุนของไทย?

จุดสูงสุดและต่ำสุดในอดีตของ DXY สามารถใช้เป็นแนวรับและแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาได้ ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจบริบททางประวัติศาสตร์ของความแข็งแกร่งดอลลาร์ การที่ DXY เข้าใกล้จุดสูงสุดในอดีตอาจบ่งชี้ถึงแรงต้านทานที่แข็งแกร่ง ในขณะที่การเข้าใกล้จุดต่ำสุดอาจบ่งชี้ถึงแนวรับที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีผลต่อการคาดการณ์ทิศทางของเงินบาท ทองคำ และตลาดหุ้นไทยในภาพรวมระยะยาว

發佈留言