การลงทุนในตลาดหุ้นมีรูปแบบหลากหลายที่น่าสนใจ โดยหนึ่งในนั้นคือการซื้อขายหุ้นรายวัน หรือที่เรียกกันว่าเดย์เทรด ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากนักลงทุนที่อยากเห็นผลตอบแทนเร็ว ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันมีความเสี่ยงสูงกว่าการถือยาวทั่วไป บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกมุมของการเล่นหุ้นรายวัน ตั้งแต่หลักพื้นฐาน วิธีการกลยุทธ์ ไปจนถึงเคล็ดลับเฉพาะสำหรับตลาดไทย เพื่อช่วยให้คุณพร้อมสำหรับเส้นทางนี้อย่างมั่นใจและยั่งยืน

เล่นหุ้นรายวันคืออะไร? ทำไมถึงน่าสนใจและมีความเสี่ยง?
นิยามและหลักการของ “Day Trade”
การเล่นหุ้นรายวัน หรือเดย์เทรด คือวิธีการซื้อขายหุ้นที่นักลงทุนจะเปิดและปิดตำแหน่งทั้งหมดภายในวันเดียวกัน โดยไม่ถือค้างคืน เพื่อหวังกำไรจากความแกว่งของราคาในช่วงเวลาสั้น ๆ
หลักการสำคัญอยู่ที่การจับจังหวะราคาที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นไม่กี่นาทีหรือชั่วโมง คุณต้องเฝ้าตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อเข้าซื้อตอนที่ราคาน่าจะขึ้น แล้วขายทำกำไรหรือตัดขาดทุนถ้าสถานการณ์ไม่เป็นใจ
รูปแบบนี้ต่างจากการลงทุนยาวที่รอเก็บส่วนต่างราคาหรือเงินปันผลหลายเดือนหรือปี เดย์เทรดเน้นความรวดเร็วและการตัดสินใจฉับไว ในตลาดหุ้นไทยที่ดูแลโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งเปิดทำการในเวลาจำกัด

เพื่อให้เห็นภาพ ลองนึกถึงกราฟหุ้นที่ขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เดย์เทรดเดอร์ต้องเผชิญทุกวัน
ข้อดี: โอกาสทำกำไรระยะสั้น
หลายคนหลงใหลในเดย์เทรดเพราะข้อดีที่ช่วยให้เห็นผลตอบแทนได้ไว โดยเฉพาะถ้าคุณชอบความตื่นเต้น:
- โอกาสทำกำไรหลายรอบในวันเดียว จากความแกว่งของราคาที่เกิดขึ้นบ่อย
- ไม่ต้องกังวลเรื่องเหตุการณ์ค้างคืน เช่น ข่าวใหญ่หลังตลาดปิด ที่อาจทำให้ราคาพลิกผันรุนแรง
- เงินทุนหมุนเวียนได้เร็ว ใช้เงินก้อนเดิมสร้างผลตอบแทนหลายเท่าต่อวัน
ข้อดีเหล่านี้ทำให้เดย์เทรดเหมาะกับคนที่อยากควบคุมสถานการณ์ได้มากขึ้น
ข้อเสียและความเสี่ยงสูงที่ต้องรู้
แต่ก่อนจะลงสนาม คุณต้องชั่งน้ำหนักความเสี่ยงที่มาพร้อมกัน โดยเฉพาะมือใหม่ที่อาจพลาดง่าย:
- โอกาสขาดทุนสูงมาก แค่ราคาแกว่งนิดเดียวก็อาจเสียหายหนัก ถ้าไม่จัดการความเสี่ยงดี
- ต้องมีเงินทุนสำรองเยอะพอ ถ้าอยากทำกำไรจริงจัง เงินน้อยอาจไม่พอรับมือกับความผันผวน
- ความเครียดสะสมจากการตัดสินใจเร็ว ๆ ภายใต้แรงกดดัน อาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดทางอารมณ์
- ต้องทุ่มเวลาและความรู้มาก ศึกษาตลาด ฝึกฝนให้ชำนาญจึงจะรอด
- ค่าคอมมิชชั่นจากโบรกเกอร์สะสมเยอะ เพราะเทรดบ่อย ส่งผลต่อกำไรจริง

อย่าลืมว่าการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลละเอียดและรู้จักบทบาทของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการคุ้มครองนักลงทุน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่คาดคิด
มือใหม่เล่นหุ้นรายวันควรรู้อะไรบ้าง? (เส้นทางสู่ Day Trader มืออาชีพ)
การเตรียมตัวก่อนเริ่ม: ความรู้, เงินทุน, เวลา
ถ้าคุณเป็นมือใหม่ การวางแผนเตรียมตัวให้ดีคือก้าวแรกที่สำคัญที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดตั้งแต่เริ่ม:
- สร้างฐานความรู้ให้แข็งแกร่ง เรียนรู้พื้นฐานการลงทุน การวิเคราะห์เทคนิค กลยุทธ์เทรด และวิธีจัดการความเสี่ยง
- ใช้เงินที่ไม่กระทบชีวิตประจำวันเท่านั้น ห้ามกู้ยืม และกำหนดสัดส่วนเงินสำหรับเดย์เทรดชัดเจน
- จัดสรรเวลาว่างให้พอ ต้องนั่งเฝ้าตลาดทั้งวันทำการ
- ฝึกวินัย สร้างแผนเทรดพร้อมจุดเข้า-ออก และจุดตัดขาดทุน แล้วยึดตามอย่างเคร่งครัด
- เตรียมใจรับมืออารมณ์ เช่น ความโลภหรือกลัว ที่อาจมาหลอกหลอน
การเตรียมเหล่านี้ไม่ใช่แค่พื้นฐาน แต่เป็นเกราะป้องกันที่ช่วยให้คุณอยู่รอดในตลาด
การเลือกโบรกเกอร์และการเปิดบัญชีหุ้นในไทย
การเลือกโบรกเกอร์ที่ใช่คือคีย์สำคัญสำหรับเดย์เทรดเดอร์ไทย เพราะต้องมีระบบที่เสถียร ค่าบริการสมเหตุสมผล และเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ครบ
ขั้นตอนเปิดบัญชีหุ้นในไทยไม่ยุ่งยากนัก ถ้าคุณเตรียมตัวดี:
- ค้นหาและเปรียบเทียบโบรกเกอร์ เช่น KSecurities (บล.กสิกรไทย), SBito (บล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์), Bualuang Securities (บล.บัวหลวง)
- เตรียมเอกสารพื้นฐาน เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สำเนาบัญชีธนาคารที่ผูกกับบัญชีเทรด และเอกสารรายได้ถ้าจำเป็น
- สมัครผ่านเว็บไซต์ออนไลน์หรือติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อรับฟอร์ม
- ยืนยันตัวตนผ่านแอปหรือที่สาขา ตามที่โบรกเกอร์กำหนด
- รอการอนุมัติ ซึ่งมักใช้เวลาไม่นานถ้าเอกสารครบ
โบรกเกอร์ไทยส่วนใหญ่ใช้ Streaming เป็นโปรแกรมหลักสำหรับเทรดหุ้น ซึ่งพัฒนาโดย SET เพื่อความสะดวกและมาตรฐาน

ตัวอย่างหน้าจอ Streaming จะช่วยให้คุณเห็นภาพการเทรดจริง
เครื่องมือสำคัญสำหรับ Day Trader: กราฟและโปรแกรมเทรด
เดย์เทรดเดอร์อาศัยเครื่องมือเทคนิคเป็นหลักในการตัดสินใจ เพราะทุกวินาทีมีค่า:
- แพลตฟอร์มเทรด เช่น Streaming ที่ช่วยส่งคำสั่ง ดูราคาสด และกราฟหุ้นแบบเรียลไทม์
- กราฟแท่งเทียน ที่แสดงราคาเปิด-ปิด สูง-ต่ำ ในช่วงสั้น ๆ เช่น 1 นาทีหรือ 5 นาที ชัดเจนและใช้งานง่าย
- อินดิเคเตอร์ช่วยวิเคราะห์ เช่น Moving Average สำหรับแนวโน้ม RSI สำหรับความแข็งแกร่ง และ MACD สำหรับสัญญาณซื้อขาย
- เลือก Time Frame สั้น ๆ เพื่อจับการเคลื่อนไหวราคาได้ทัน
เครื่องมือเหล่านี้คืออาวุธที่ทำให้คุณได้เปรียบในตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
กลยุทธ์และเทคนิคเล่นหุ้นรายวันยอดนิยม
การวิเคราะห์ทางเทคนิคเบื้องต้น
การวิเคราะห์เทคนิคคือหัวใจของเดย์เทรด โดยใช้ข้อมูลราคาและปริมาณซื้อขายในอดีตเพื่อทำนายทิศทาง:
- แนวรับและแนวต้าน ระดับราคาที่ราคามักเด้งกลับหรือหยุดชะงัก
- เส้น Moving Averages ดูแนวโน้มจากเส้นสั้น-ยาวที่ตัดกัน สัญญาณซื้อหรือขาย
- รูปแบบแท่งเทียน ที่บอกการกลับตัวหรือต่อเนื่องของแนวโน้ม
- ปริมาณซื้อขาย ยืนยันความแรงของการเคลื่อนไหว ถ้าปริมาณสูงแนวโน้มจะน่าเชื่อถือ
ลองดูกราฟที่แสดงแนวรับ-ต้านและ Moving Average เพื่อเห็นภาพชัด
กลยุทธ์การเทรดแบบต่างๆ
มีกลยุทธ์หลากหลายให้เลือกใช้ ขึ้นกับสไตล์ของคุณ:
- ตามแนวโน้ม ซื้อตอนขาขึ้นแข็งแกร่ง ขายตอนเริ่มอ่อน
- สวนแนวโน้ม ซื้อที่แนวรับแข็ง ขายที่แนวต้าน
- ทะลุแนว ซื้อตอนทะลุต้านขึ้น หรือขายตอนหลุดรับลง
- ในกรอบ ซื้อ-ขายวนในช่วงราคาแคบ
- สแกลปปิ้ง เทรดเร็ว ๆ ทำกำไรเล็กน้อยแต่บ่อย
เลือกกลยุทธ์ที่เข้ากับบุคลิกและทดลองในบัญชีทดสอบก่อน
การตั้งจุด Stop Loss และ Take Profit
การจัดการความเสี่ยงคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ การตั้งจุดตัดขาดทุนและทำกำไรช่วยรักษาเงินทุน:
- Stop Loss ตั้งราคาขายเพื่อจำกัดขาดทุน ถ้าราคาไม่เป็นใจ
- Take Profit ล็อกกำไรตอนราคาถึงเป้า หลีกเลี่ยงความโลภ
- Risk-Reward Ratio เลือกเทรดที่กำไรคุ้มเสี่ยง เช่น 1:2 หรือ 1:3
วินัยในการยึดจุดเหล่านี้คือกุญแจสู่กำไรยั่งยืน
เจาะลึกเล่นหุ้นรายวันในบริบทตลาดหุ้นไทย: ข้อควรระวังและโอกาส
ภาษีกำไรจากการเล่นหุ้นรายวันในประเทศไทย
เรื่องภาษีคือส่วนที่นักเดย์เทรดไทยต้องเข้าใจให้ชัด เพื่อไม่ให้พลาดเรื่องกฎหมาย
ตาม กรมสรรพากร กำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นใน SET ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
แต่มีจุดที่ต้องระวัง:
- กำไรจากกองทุนรวม บางประเภทยกเว้น แต่กองทุนตราสารหนี้ต้องเสีย
- เงินปันผล หักภาษี 10% ที่จ่าย สามารถรวมคำนวณปลายปีได้
- เทรด TFEX กำไรต้องรวมคำนวณภาษีตามฐาน
- เทรดนอก SET อาจต้องเสียภาษีปกติ
เก็บหลักฐานทุกการเทรด และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถ้าสงสัย เพื่อความถูกต้อง
การเลือกแอปเทรดและโบรกเกอร์ไทยที่เหมาะกับ Day Trader
โบรกเกอร์และแอปที่ดีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเทรดมาก ควรพิจารณา:
- ค่าธรรมเนียมต่ำ สำคัญสำหรับเทรดบ่อย
- ระบบเสถียร ไม่ล่มตอนสำคัญ
- เครื่องมือวิเคราะห์ครบ
- ข้อมูลข่าวสารสดใหม่
- บริการลูกค้าดี รวดเร็ว
ตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ยอดนิยมสำหรับเดย์เทรด (ข้อมูลอาจเปลี่ยน ตรวจสอบจริง)
| โบรกเกอร์ | จุดเด่นสำหรับ Day Trader | ค่าธรรมเนียมโดยประมาณ | โปรแกรม/แอปพลิเคชัน |
|---|---|---|---|
| KSecurities (บล.กสิกรไทย) | ระบบเสถียร, มีบทวิเคราะห์รองรับ, เครื่องมือครบครัน | 0.15% – 0.25% (ขึ้นอยู่กับปริมาณ) | Streaming, K-My Trade |
| SBito (บล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์) | ค่าธรรมเนียมแข่งขันได้, เน้นออนไลน์, มีฟังก์ชัน Auto Trade | 0.10% – 0.20% (ขึ้นอยู่กับปริมาณ) | Streaming, SBito Trade |
| Bualuang Securities (บล.บัวหลวง) | มีข้อมูลและงานวิจัยรองรับ, บริการหลากหลาย | 0.15% – 0.25% (ขึ้นอยู่กับปริมาณ) | Streaming, Bualuang Trade |
| Phillip Securities (บล.ฟิลลิป) | มีเครื่องมือที่หลากหลาย, บริการดี, มีระบบ P-Trading | 0.15% – 0.25% (ขึ้นอยู่กับปริมาณ) | Streaming, Phillip Capital App |
ภาพตารางเปรียบเทียบแอปเทรดหลักในไทยจะช่วยให้เห็นความแตกต่างชัด
จิตวิทยาการเทรดสำหรับนักลงทุนไทย: รับมือกับอารมณ์และข่าวสาร
จิตวิทยาเทรดมักถูกมองข้าม แต่ในสังคมไทยที่ข่าวลือแพร่กระจายเร็ว มันสำคัญมาก:
- กรองข่าวจากโซเชียล เช่น Pantip หรือกลุ่ม Facebook/Line ตรวจสอบจากแหล่งจริงเท่านั้น
- หลีกเลี่ยง FOMO อย่าตามกระแสโดยไม่คิด
- ควบคุมโลภและกลัว ไม่ให้ครอบงำ
- คิดเอง อย่าเทรดตามคนอื่น สร้างระบบส่วนตัว
- บันทึกเทรดทุกครั้ง ทบทวนเพื่อปรับปรุง
เข้าใจตัวเองและตลาดคือทางสู่ชัยชนะระยะยาว
เล่นหุ้นให้ได้กำไรวันละ 1000 บาท: เป็นไปได้จริงหรือ?
การตั้งเป้าหมายกำไรที่สมเหตุสมผล
หลายคนสงสัยว่าทำกำไรวันละ 1,000 บาทจริงไหม โดยเฉพาะจากโฆษณาที่ล่อใจ
คำตอบคือเป็นไปได้ แต่ต้องมีเงื่อนไขเหมาะสม ไม่ใช่ทุกคนทำได้ง่าย:
- เงินทุนใหญ่ เช่น แสนบาทขึ้นไป ช่วยให้ทำเปอร์เซ็นต์เล็ก ๆ แต่ได้เงินเยอะ
- ทักษะและประสบการณ์สูง ระบบเทรดที่ทดสอบแล้ว
- ยอมรับความเสี่ยงที่ตามมา
- ตลาดผันผวนสูง โอกาสมากแต่เสี่ยงด้วย
แทนที่จะยึดตัวเลขตายตัว ให้ตั้งเป้ากำไรเป็นเปอร์เซ็นต์ และสร้างระบบยั่งยืน กราฟความสัมพันธ์เงินทุน-เสี่ยง-ผลตอบแทนจะช่วยให้เห็นภาพ
การบริหารจัดการเงินทุนอย่างมืออาชีพ
การจัดการเงินคือหัวใจของเดย์เทรด ช่วยให้อยู่รอดนาน:
- กำหนดขนาดตำแหน่ง ไม่ทุ่มหมดในตัวเดียว
- จำกัดเสี่ยงต่อเทรด ไม่เกิน 1-2% ของทุน
- Risk-Reward Ratio ดีเสมอ
- หลีกเลี่ยงโอเวอร์เทรด
- ทบทวนผลเทรดสม่ำเสมอ
ทำตามนี้จะช่วยให้กำไรสะสมโดยไม่ล้ม
บทสรุป: ก้าวสู่เส้นทาง Day Trader อย่างมั่นคงและยั่งยืน
เดย์เทรดคือการลงทุนสุดตื่นเต้นในตลาดหุ้นไทย ที่ให้โอกาสกำไรเร็วแต่เสี่ยงสูง ต้องอาศัยความรู้ วินัย และการควบคุมอารมณ์
มือใหม่ควรเริ่มจากเรียนรู้ตลาดไทย กลยุทธ์ จัดการเสี่ยง จิตวิทยา เลือกโบรกเกอร์ ภาษี และเป้าหมายสมจริง การฝึกในระบบจำลองก่อนใช้เงินจริงคือทางที่ดี ภายใต้การกำกับของ สำนักงาน ก.ล.ต. ความสำเร็จมาจากการฝึกฝนต่อเนื่องและเรียนรู้จากผิดพลาด
เล่นหุ้นรายวัน เริ่มต้นกี่บาทถึงจะเหมาะสมสำหรับมือใหม่ในไทย?
ไม่มีจำนวนเงินที่ตายตัว แต่สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยเงินทุนจำนวนน้อยที่สุดที่คุณพร้อมจะสูญเสียได้ทั้งหมด โดยอาจเริ่มจากหลักพันหรือหลักหมื่นบาท เพื่อเรียนรู้และฝึกฝนกลยุทธ์ก่อน การมีเงินทุนที่มากพอจะช่วยให้บริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นด้วยเงินเย็น ไม่ใช่เงินที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน
เทรดหุ้นรายวัน ตัวไหนดีสำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการทำกำไรระยะสั้น?
ไม่มีหุ้นตัวใดที่ “ดีที่สุด” เสมอไปสำหรับ Day Trade แต่หุ้นที่เหมาะมักจะมีคุณสมบัติดังนี้:
- มีสภาพคล่องสูง (Volume การซื้อขายมาก) เพื่อให้เข้าออกได้ง่าย
- มีการเคลื่อนไหวของราคาที่ค่อนข้างผันผวน (Volatility) แต่ไม่รุนแรงเกินไป
- เป็นหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีข่าวสารหรือปัจจัยเฉพาะตัวหนุนในระยะสั้น
นักลงทุนควรทำการบ้านและวิเคราะห์หุ้นแต่ละตัวด้วยตนเอง ไม่ควรเทรดตามคนอื่นโดยไม่ศึกษา
มือใหม่หัดเทรดหุ้นรายวัน ควรเริ่มเรียนรู้จากตรงไหนและใช้แอปพลิเคชันอะไรดี?
มือใหม่ควรเริ่มต้นจากการเรียนรู้พื้นฐานการลงทุน การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการบริหารความเสี่ยงจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ, สำนักงาน ก.ล.ต., หรือหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน
สำหรับแอปพลิเคชัน โปรแกรม Streaming เป็นแอปมาตรฐานที่นิยมใช้ในไทย และโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ก็จะมีแอปพลิเคชันของตนเองที่เชื่อมต่อกับ Streaming เช่น K-My Trade ของ KSecurities หรือ SBito Trade ของ SBito
การเล่นหุ้นให้ได้กำไรวันละ 1000 บาทในตลาดหุ้นไทย เป็นไปได้จริงหรือไม่ และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
เป็นไปได้จริงสำหรับนักลงทุนที่มีเงินทุนมาก ทักษะสูง และประสบการณ์ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ ข้อควรระวังคือ อย่าหลงเชื่อโฆษณาที่อ้างว่าจะทำกำไรได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม การตั้งเป้าหมายกำไรควรสอดคล้องกับขนาดเงินทุน ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และระดับทักษะของตนเอง เน้นการสร้างระบบเทรดที่ยั่งยืนดีกว่าการมุ่งเน้นตัวเลขกำไรรายวันที่เกินจริง
ภาษีกำไรจากการเทรดหุ้นรายวันในประเทศไทย มีกฎเกณฑ์อย่างไรและต้องยื่นภาษีแบบไหน?
กำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ (Capital Gains) ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อย่างไรก็ตาม หากเป็นการเทรดในตลาดอนุพันธ์ (TFEX) กำไรจะต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามฐานภาษี ส่วนเงินปันผลที่ได้รับจะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% และสามารถเลือกนำไปรวมคำนวณภาษีปลายปีหรือไม่ก็ได้ ควรเก็บหลักฐานการซื้อขายทั้งหมดและปรึกษา กรมสรรพากร หากมีข้อสงสัย
โบรกเกอร์หรือแอปพลิเคชันสำหรับเทรดหุ้นรายวันที่ดีที่สุดในไทยคืออะไร?
ไม่มีโบรกเกอร์หรือแอปพลิเคชันใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ขึ้นอยู่กับความต้องการและสไตล์การเทรดของแต่ละบุคคล ปัจจัยที่ควรพิจารณาคือค่าธรรมเนียม ความเสถียรของระบบ เครื่องมือวิเคราะห์ และบริการลูกค้า โบรกเกอร์ยอดนิยมสำหรับ Day Trader ในไทย ได้แก่ KSecurities, SBito, Bualuang Securities โดยส่วนใหญ่จะใช้โปรแกรม Streaming เป็นหลักในการส่งคำสั่งซื้อขาย
ดิว วีรวัฒน์ วลัยเสถียร ถือหุ้นอะไร แล้วมีผลกับการเล่นหุ้นรายวันของนักลงทุนทั่วไปหรือไม่?
ดิว วีรวัฒน์ วลัยเสถียร เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการนักลงทุนไทย และมีพอร์ตการลงทุนที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม การที่บุคคลใดถือหุ้นอะไรนั้น ไม่ได้มีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจเล่นหุ้นรายวันของนักลงทุนทั่วไป
นักลงทุน Day Trade ควรพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคของหุ้นแต่ละตัว รวมถึงแผนการเทรดของตนเองเป็นหลัก ไม่ควรซื้อขายตามข่าวลือหรือตามบุคคลที่มีชื่อเสียงโดยไม่ได้ทำการวิเคราะห์ด้วยตนเอง เพราะสไตล์การลงทุนและวัตถุประสงค์ของแต่ละคนแตกต่างกัน
การบริหารความเสี่ยงและตั้ง Stop Loss/Take Profit ในการเล่นหุ้นรายวัน ควรทำอย่างไร?
การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด กำหนด Stop Loss (จุดตัดขาดทุน) และ Take Profit (จุดทำกำไร) ก่อนเริ่มเทรดเสมอ โดยอาจอิงจากแนวรับ/แนวต้าน หรือเปอร์เซ็นต์ที่ยอมรับได้
- Stop Loss: ตั้งไว้ที่ระดับราคาที่คุณยอมรับการขาดทุนได้สูงสุดในแต่ละการเทรด (เช่น ไม่เกิน 1-2% ของเงินทุน)
- Take Profit: ตั้งไว้ที่ระดับราคาที่คุณคาดว่าจะทำกำไรได้ โดยพิจารณาจาก Risk-Reward Ratio ที่เหมาะสม (เช่น ยอมเสี่ยง 1 ส่วน เพื่อแลกกับกำไร 2-3 ส่วน)
- วินัย: ต้องมีวินัยในการทำตามจุดที่ตั้งไว้ ไม่ว่าตลาดจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด
มีเงิน 100 บาทเล่นหุ้นรายวันได้ไหม? หรือต้องมีเงินทุนขั้นต่ำเท่าไหร่?
ในทางทฤษฎี การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยมีขั้นต่ำ 100 หุ้น (Board Lot) ดังนั้น หากหุ้นมีราคาเพียง 1 บาท ก็สามารถซื้อได้ด้วยเงิน 100 บาท อย่างไรก็ตาม การเทรดด้วยเงินเพียง 100 บาทนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้จริงในการเล่นหุ้นรายวัน เนื่องจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต้องจ่ายให้โบรกเกอร์จะกินส่วนแบ่งกำไรไปเกือบทั้งหมด หรือทำให้ขาดทุนทันที
สำหรับ Day Trader ที่ต้องการทำกำไรอย่างจริงจัง ควรมีเงินทุนเริ่มต้นอย่างน้อยหลักหมื่นบาท เพื่อให้สามารถบริหารจัดการขนาดการเทรดและค่าธรรมเนียมได้
แหล่งข้อมูลหรือชุมชนออนไลน์ไหนที่นักลงทุนเล่นหุ้นรายวันในไทยนิยมใช้ปรึกษา?
นักลงทุนไทยนิยมใช้แหล่งข้อมูลและชุมชนออนไลน์หลายแห่งในการปรึกษาและแลกเปลี่ยนความรู้:
- Pantip ห้องสินธร: เป็นเว็บบอร์ดขนาดใหญ่ที่มีนักลงทุนหลากหลายระดับเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูล
- กลุ่ม Facebook / Line: มีกลุ่มปิดและกลุ่มเปิดมากมายที่เน้นการพูดคุยเรื่องหุ้นรายวัน แต่ควรใช้วิจารณญาณสูงในการรับข้อมูล
- เว็บไซต์ข่าวสารการลงทุน: เช่น Thairath Money, Prachachat, หรือเว็บไซต์ของสำนักข่าวเศรษฐกิจต่าง ๆ
- ช่อง YouTube ของนักลงทุน: มีนักลงทุนที่มีประสบการณ์หลายคนทำช่อง YouTube เพื่อแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์
สิ่งสำคัญคือการเลือกรับข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และนำมาวิเคราะห์ด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุน