### คำจำกัดความและหลักการทำงาน
กองทุนรวมตลาดเงิน หรือที่รู้จักกันในชื่อ Money Market Fund คือประเภทของกองทุนรวมที่นักลงทุนในไทยนิยมใช้กันมาก โดยเฉพาะมือใหม่หรือคนที่อยากเก็บเงินชั่วคราวเพื่อรอลงทุนต่อไป หรือเตรียมไว้เป็นเงินสำรองด่วน ด้วยจุดเด่นเรื่องเข้าถึงเงินได้ง่ายและความเสี่ยงไม่สูง ทำให้เป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมสำหรับการจัดการเงินให้เกิดประโยชน์โดยไม่ต้องกังวลมากนัก

กล่าวโดยทั่วไป กองทุนรวมประเภทนี้มุ่งลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นคุณภาพดีและเข้าถึงได้รวดเร็ว เพื่อให้เงินต้นของนักลงทุนคงที่มั่นคง พร้อมให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ซึ่งมักจะดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารแบบธรรมดาเล็กน้อย วิธีการทำงานคือรวบรวมเงินจากนักลงทุนหลายราย แล้วเอาไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาลสั้นๆ ตั๋วเงินคลัง เงินฝากธนาคารใหญ่ หรือตราสารหนี้อื่นๆ ที่มีอายุพอร์ตเฉลี่ยไม่เกินปีเดียวกัน สิ่งนี้ช่วยให้มูลค่ากองทุนแทบไม่แกว่งไกว

### จุดเด่นและลักษณะสำคัญ
สิ่งที่ทำให้กองทุนรวมตลาดเงินโดดเด่นและแตกต่างจากกองทุนอื่นๆ คือคุณสมบัติหลักเหล่านี้ ซึ่งช่วยให้เหมาะกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
– **เข้าถึงเงินได้สะดวก:** นักลงทุนซื้อหรือขายหน่วยได้เกือบทุกวันทำการ และมักได้เงินคืนภายใน 1-2 วัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้เงิน
– **เสี่ยงน้อย:** เน้นสินทรัพย์คุณภาพสูงที่มีความเสี่ยงด้านหนี้ต่ำ และอายุสั้น ทำให้ราคาไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมาก เมื่อเทียบกับกองทุนหนี้ระยะยาว
– **ผลตอบแทนแน่นอน:** ถึงจะไม่หวือหวาเท่ากองทุนเสี่ยงสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอและดีกว่าเงินฝากทั่วไปในหลายกรณี
– **สินทรัพย์อายุสั้น:** กำหนดให้พอร์ตมีอายุเฉลี่ยสั้นๆ ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวนในตลาดได้ดี

## กองทุนรวมตลาดเงินลงทุนในอะไรบ้าง?
เพื่อความมั่นคงและความคล่องตัว กองทุนรวมตลาดเงินจึงเลือกสินทรัพย์คุณภาพสูงอายุสั้นเป็นหลัก โดยประเภทสำคัญที่มักพบมีดังนี้ ซึ่งช่วยให้กองทุนทนทานต่อความไม่แน่นอนของตลาด
– **พันธบัตรรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจสั้นๆ:** ตราสารหนี้จากภาครัฐที่เสี่ยงน้อยที่สุด เพราะรัฐบาลค้ำประกัน ทำให้เป็นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับกองทุน
– **ตั๋วเงินคลัง:** ออกโดยกระทรวงการคลังเพื่อระดมทุนชั่วคราว มีสภาพคล่องดีและเสี่ยงต่ำ เหมาะสำหรับการหมุนเวียนเงิน
– **เงินฝากธนาคาร:** ฝากกับธนาคารใหญ่ที่มั่นคงในรูปแบบระยะสั้น เพื่อรับดอกเบี้ยโดยตรง โดยคัดเลือกสถาบันที่เชื่อถือได้
– **ตั๋วแลกเงินและตั๋วสัญญาใช้เงิน:** จากภาคเอกชนหรือธนาคารน่าเชื่อถือ เช่น บริษัทใหญ่ เพื่อทุนหมุนเวียนสั้นๆ โดยประเมินความเสี่ยงละเอียดก่อนลงทุนเสมอ
การกระจายลงทุนแบบนี้ไม่เพียงรักษาเงินต้นได้ดี แต่ยังสร้างผลตอบแทนที่เชื่อถือได้ แม้ในช่วงตลาดปั่นป่วน เช่น ในวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา กองทุนเหล่านี้มักฟื้นตัวเร็วเพราะสินทรัพย์พื้นฐานแข็งแรง
## ข้อดีและข้อควรพิจารณาของกองทุนรวมตลาดเงิน
ก่อนตัดสินใจลงทุน สิ่งสำคัญคือต้องชั่งน้ำหนักทั้งข้อดีและจุดที่ต้องระวัง เพื่อให้มั่นใจว่าตรงกับแผนการเงินส่วนตัว โดยพิจารณาจากประสบการณ์จริงของนักลงทุนหลายรายที่ใช้กองทุนนี้เป็นเครื่องมือหลัก
### ข้อดี: ทำไมถึงเป็นที่นิยม?
กองทุนรวมตลาดเงินได้รับความชื่นชอบเพราะข้อดีเหล่านี้ที่ตอบโจทย์ชีวิตสมัยใหม่ โดยเฉพาะในยุคที่เงินต้องหมุนเร็ว
– **ดีกว่าเงินฝากธรรมดา:** ให้ผลตอบแทนที่อาจสูงกว่าเล็กน้อย ขณะที่ยังปลอดภัยและถอนได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่อยากให้เงินทำงานโดยไม่นิ่งเฉย
– **ถอนเงินไม่ยุ่งยาก:** ซื้อขายได้ทุกวันทำการ และเงินเข้าบัญชีภายใน T+1 หรือ T+2 ทำให้จัดการเงินได้ยืดหยุ่น เช่น สำหรับค่าใช้จ่ายกะทันหัน
– **กระจายความเสี่ยง:** ลงทุนในหลายประเภทจากหลายแหล่ง ลดโอกาสเสียหายจากสินทรัพย์ตัวเดียว ซึ่งเป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ
– **พักเงินชั่วคราวได้ดี:** เหมาะสำหรับเงินที่รอลงทุนใหญ่ เช่น หุ้นหรือบ้าน หรือเตรียมไว้ใช้ในไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยไม่เสียโอกาสดอกเบี้ย
– **ไม่มีค่าซื้อขายส่วนใหญ่:** กองทุนส่วนใหญ่ยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้า-ออก ทำให้ประหยัดและเข้าถึงง่าย โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนรายย่อย
### ข้อควรพิจารณา: ไม่ใช่ไม่มีความเสี่ยง
ถึงจะเสี่ยงต่ำ แต่กองทุนรวมตลาดเงินก็มีจุดที่ต้องระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้น
– **ไม่ใช่เงินฝากที่ค้ำประกัน:** แตกต่างจากเงินฝากที่คุ้มครองโดยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ดังนั้นเงินต้นอาจขาดทุนในกรณี极端 แม้โอกาสน้อยแต่ต้องตระหนัก
– **ผลตอบแทนจำกัด:** เน้นปลอดภัยจึงให้ผลตอบแทนไม่สูงเท่ากองทุนหุ้นหรือหนี้ยาว ซึ่งเหมาะกับเป้าหมายระยะสั้นมากกว่าระยะยาว
– **กระทบจากดอกเบี้ย:** ถ้าดอกเบี้ยตลาดลด กองทุนก็ตามลงเพราะต้องลงทุนใหม่ในตราสารที่ให้ผลต่ำกว่า สิ่งนี้เกิดขึ้นจริงในช่วงดอกเบี้ยต่ำของไทย
– **เสี่ยงจากผู้ออกตราสาร:** แม้คัดคุณภาพสูง แต่ถ้าบริษัทเอกชนมีปัญหาการเงิน ก็อาจกระทบมูลค่ากองทุนได้ โดยบริษัทจัดการจะติดตามใกล้ชิดเพื่อลดผลกระทบ
– **เงินเฟ้อเป็นอุปสรรค:** ถ้าเงินเฟ้อสูงกว่าผลตอบแทน กำลังซื้อเงินลงทุนจะลดลงตามเวลา ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่เหมาะเก็บยาว
– **การกำกับดูแลโดยสำนักงาน ก.ล.ต.:** กองทุนทั้งหมดอยู่ใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่กำหนดกฎเพื่อความโปร่งใสและปกป้องนักลงทุน แต่ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนหรือเงินต้น ลองศึกษาบทบาทเพิ่มเติมจาก เว็บไซต์สำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น
## ใครเหมาะกับการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน?
กองทุนรวมตลาดเงินตอบโจทย์นักลงทุนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะคนที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง ซึ่งช่วยให้การวางแผนการเงินสมดุลมากขึ้น จากตัวอย่างจริง นักลงทุนที่ใช้กองทุนนี้มักเห็นเงินเติบโตช้าๆ แต่แน่นอน
– **พักเงินชั่วคราว:** สำหรับเงินก้อนที่ยังไม่พร้อมลงทุนเสี่ยง หรือรอแผนระยะยาวที่ชัดเจน
– **ต้องการความคล่องตัว:** คนที่อาจต้องใช้เงินเร็วๆ นี้ เช่น หมุนธุรกิจหรือรอโอกาสลงทุนใหม่
– **มือใหม่หัดลงทุน:** เป็นจุดเริ่มต้นง่ายๆ ที่เสี่ยงต่ำ ช่วยสร้างความมั่นใจก่อนลองกองทุนอื่น
– **เงินสำรองด่วน:** เก็บไว้ที่นี่แล้วเงินยังงอกเงยได้ โดยถอนใช้ได้ทันทีเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เช่น ค่ารักษาพยาบาล
– **กระจายพอร์ต:** ใส่ส่วนหนึ่งของเงินลงทุนเพื่อเพิ่มความมั่นคงให้พอร์ตโดยรวม ลดความผันผวนจากสินทรัพย์อื่น
## กองทุนรวมตลาดเงินในบริบทของประเทศไทย: สิ่งที่นักลงทุนไทยควรรู้
ในไทย การลงทุนกองทุนรวมตลาดเงินมีรายละเอียดเฉพาะที่ควรรู้ เพื่อให้ลงทุนได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาจากระบบเศรษฐกิจไทยที่ผันผวนแต่มีกฎระเบียบเข้มงวด
### กฎระเบียบและการกำกับดูแลโดยสำนักงาน ก.ล.ต.
กองทุนรวมทุกประเภทในไทย รวมถึงตลาดเงิน อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งทำหน้าที่หลักดังนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาด
– **กำหนดนโยบายและมาตรฐาน:** บังคับให้บริษัทจัดการกองทุนปฏิบัติตามกฎโปร่งใสและมาตรฐานสากล
– **อนุมัติการตั้งกองทุน:** ต้องขออนุญาตก่อนเสนอขาย เพื่อให้มั่นใจว่ากองทุนมีฐานะมั่นคง
– **ปกป้องนักลงทุน:** ตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนและยุติธรรม ช่วยลดโอกาสถูกหลอกลวง
ด้วยการกำกับดูแลนี้ กองทุนรวมตลาดเงินในไทยจึงน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นใจในระบบ
### การเสียภาษีสำหรับผลตอบแทนจากกองทุนรวมตลาดเงินในประเทศไทย
สำหรับบุคคลธรรมดาในไทย ผลตอบแทนจากกองทุนนี้แบ่งเป็นสองแบบหลัก โดยภาษีแตกต่างกันเพื่อให้วางแผนได้ง่าย
1. **กำไรจากการขายหน่วยลงทุน:** มักยกเว้นภาษีเงินได้ หากลงทุนในหลักทรัพย์ไทยและถือเกิน 3 เดือน ซึ่งกองทุนตลาดเงินส่วนใหญ่เข้าเกณฑ์นี้
2. **เงินปันผล:** หักภาษี 10% ณ ที่จ่าย สามารถรวมคำนวณปลายปีเพื่อขอคืนถ้าภาษีจริงต่ำกว่า หรือจ่ายเพิ่มถ้าสูงกว่า สำหรับรายละเอียดเพิ่ม ลองดูจาก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา บนเว็บกรมสรรพากร
กฎภาษีอาจปรับเปลี่ยน ดังนั้นควรติดตามข่าวสารหรือปรึกษาที่ปรึกษาภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
### เปรียบเทียบกองทุนรวมตลาดเงินยอดนิยมในไทย (ตัวอย่าง)
ไทยมีบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) หลายแห่งเสนอกองทุนตลาดเงิน โดยแต่ละที่ปรับนโยบายให้เหมาะกับนักลงทุนไทย เช่น เน้นสินทรัพย์ในประเทศ ตัวอย่างยอดนิยม ได้แก่
– **บลจ. กสิกรไทย (KAsset):** กองทุนอย่าง K-MONEY หรือ K-CASH ที่ลงทุนหนี้รัฐและเอกชนสั้นๆ ได้รับความนิยมจากผลตอบแทนสม่ำเสมอ
– **บลจ. กรุงไทย (KTAM):** KTAM Money Market Fund (KTAMMM) เน้นความมั่นคง เหมาะสำหรับมือใหม่
– **บลจ. ไทยพาณิชย์ (SCBAM):** SCB Money Market Fund (SCBMMF) มุ่งคล่องตัวและผลตอบแทนแน่นอน
– **บลจ. บัวหลวง (BBLAM):** กองทุนบัวหลวงธนสารพลัส (BTP) เป็นตัวเลือกดีสำหรับพักเงิน โดยมีประวัติยาวนาน
ในการเลือก ดูจากนโยบาย ค่าธรรมเนียม ผลย้อนหลัง และชื่อเสียงของบลจ. เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มีเครื่องมือเปรียบเทียบช่วยได้มาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยากเห็นข้อมูลจริงจากตลาด
## วิธีการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินสำหรับมือใหม่
สำหรับมือใหม่ การลงทุนกองทุนรวมตลาดเงินไม่ซับซ้อนและสะดวก โดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเริ่มต้นได้ทันที ซึ่งหลายบลจ. มีบริการออนไลน์ช่วยให้ง่ายขึ้น
### ขั้นตอนการเปิดบัญชีและเริ่มต้นลงทุน
1. **เลือกผู้ให้บริการ:** ใช้ธนาคารที่คุณมีบัญชีอยู่ หรือติดต่อบลจ. โดยตรงที่สนใจ
2. **เตรียมเอกสาร:** สำเนาบัตรประชาชนและสมุดบัญชีสำหรับผูกเพื่อซื้อขายและรับเงิน
3. **สมัครบัญชี:** กรอกแบบฟอร์มที่สาขา ออนไลน์ หรือแอปของบลจ. บางแห่ง
4. **ซื้อหน่วยลงทุน:** หลังเปิดบัญชีแล้ว สั่งซื้อได้เลย โดยขั้นต่ำต่ำมาก เช่น 1 บาทหรือ 500 บาท ทำให้เข้าถึงง่าย
### การเลือกกองทุนที่เหมาะสม
เพื่อให้ได้กองทุนดี ดูปัจจัยเหล่านี้ให้ครบ โดยศึกษาจากหนังสือชี้ชวนเพื่อข้อมูลลึก
– **ผลตอบแทนย้อนหลัง:** เช็ค 1-5 ปี เพื่อเห็นความสม่ำเสมอ แต่จำไว้ว่าอดีตไม่การันตีอนาคต
– **ค่าธรรมเนียม:** ดูค่าจัดการและอื่นๆ ที่หักจากกองทุน เพื่อไม่ให้กินผลตอบแทนมาก
– **นโยบายลงทุน:** ตรวจสินทรัพย์และข้อจำกัด เพื่อให้ตรงกับความต้องการ
– **ขนาดกองทุน:** ขนาดใหญ่ช่วยให้คล่องตัวในการซื้อขายสินทรัพย์
– **ชื่อเสียงบลจ.:** เลือกที่มีประวัติดีและมั่นคง เพื่อความอุ่นใจ
## สรุป: กองทุนรวมตลาดเงิน ทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับการบริหารสภาพคล่อง
สรุปแล้ว กองทุนรวมตลาดเงินคือเครื่องมือที่ช่วยจัดการเงินให้มีประสิทธิภาพ โดยจุดแข็งเรื่องเสี่ยงต่ำ ถอนได้เร็ว และผลตอบแทนแน่นอน ทำให้เหนือกว่าเงินฝากทั่วไป และเป็นทางเข้าสู่การลงทุนสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเรียนรู้แบบค่อยเป็นค่อยไป
อย่างไรก็ตาม ต้องจำไว้ว่ามันไม่ใช่เงินฝากที่ค้ำประกัน และผลตอบแทนอาจไม่สูงพอต้านเงินเฟ้อหรือเป้าหมายยาว ดังนั้น การอ่านหนังสือชี้ชวนและข้อมูลจากแหล่งน่าเชื่อถือก่อนลงทุน จะช่วยให้เลือกได้ตรงใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น สุดท้าย การลงทุนใดๆ ก็ต้องสอดคล้องกับเป้าหมายส่วนตัวเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
## คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. กองทุนรวมตลาดเงินกับเงินฝากออมทรัพย์ต่างกันอย่างไร?
กองทุนรวมตลาดเงินลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นและเงินฝากธนาคาร ส่วนเงินฝากออมทรัพย์คือการฝากเงินโดยตรงกับธนาคาร ความแตกต่างสำคัญคือ: กองทุนรวมตลาดเงินมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่าเล็กน้อย แต่ไม่มีการค้ำประกันเงินต้น และไม่ได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากเหมือนเงินฝากออมทรัพย์
2. กองทุนรวมตลาดเงินมีโอกาสขาดทุนไหม?
มีโอกาสขาดทุนได้ แม้จะน้อยมากก็ตาม กองทุนรวมตลาดเงินไม่ได้มีการค้ำประกันเงินต้น หากตราสารหนี้ที่กองทุนลงทุนมีปัญหาด้านเครดิต หรือเกิดเหตุการณ์รุนแรงในตลาดการเงิน ก็อาจส่งผลให้มูลค่าหน่วยลงทุนลดลงได้ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงนี้ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับกองทุนประเภทอื่น ๆ
3. ต้องเสียภาษีกับผลตอบแทนจากกองทุนรวมตลาดเงินหรือไม่?
สำหรับนักลงทุนบุคคลธรรมดาในประเทศไทย กำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินมักได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ถ้ากองทุนมีการจ่ายเงินปันผล เงินปันผลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ซึ่งสามารถเลือกนำไปรวมคำนวณภาษีปลายปีหรือไม่ก็ได้
4. ถอนเงินจากกองทุนรวมตลาดเงินใช้เวลากี่วัน?
โดยทั่วไปแล้ว การขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วันทำการ (T+1 หรือ T+2) นับจากวันที่ส่งคำสั่งขายคืน เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ผูกไว้กับบัญชีกองทุน
5. กองทุนรวมตลาดเงินมีค่าธรรมเนียมอะไรบ้างที่นักลงทุนควรรู้?
กองทุนรวมตลาดเงินส่วนใหญ่ไม่มีค่าธรรมเนียมการซื้อ (Front-end fee) และค่าธรรมเนียมการขายคืน (Back-end fee) แต่จะมีค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เรียกเก็บจากกองทุน ซึ่งจะถูกหักออกจากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดยตรง
6. ฉันจะเปรียบเทียบกองทุนรวมตลาดเงินแต่ละแห่งได้อย่างไรเพื่อหากองทุนที่ดีที่สุด?
คุณสามารถเปรียบเทียบกองทุนได้จาก: 1. ผลตอบแทนย้อนหลัง: ดูความสม่ำเสมอของผลตอบแทน 2. ค่าธรรมเนียม: เลือกกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมเหมาะสม 3. นโยบายการลงทุน: ตรวจสอบสินทรัพย์ที่ลงทุน 4. ขนาดกองทุน: กองทุนขนาดใหญ่มักมีสภาพคล่องดีกว่า 5. ความน่าเชื่อถือของ บลจ. : เลือกบริษัทที่มีชื่อเสียงดี
7. การลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินปลอดภัยแค่ไหนในประเทศไทย?
การลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินในประเทศไทยถือว่ามีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีอายุสั้น และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเสี่ยงเลย และไม่มีการค้ำประกันเงินต้นเหมือนเงินฝากธนาคาร
8. กองทุนรวมตลาดเงินเหมาะกับเป้าหมายการลงทุนระยะยาวหรือไม่?
ไม่เหมาะกับเป้าหมายการลงทุนระยะยาว กองทุนรวมตลาดเงินถูกออกแบบมาเพื่อการบริหารสภาพคล่องและพักเงินระยะสั้น เนื่องจากมีผลตอบแทนที่ไม่สูงมากและอาจไม่สามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อในระยะยาวได้ หากเป้าหมายคือการสร้างความมั่งคั่งระยะยาว ควรพิจารณากองทุนประเภทอื่นที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่าแม้จะมีความเสี่ยงมากกว่าก็ตาม
9. มีกองทุนรวมตลาดเงินประเภทไหนที่ได้รับความนิยมในไทยบ้าง และมีอะไรที่น่าสนใจ?
กองทุนรวมตลาดเงินจาก บลจ. ชั้นนำหลายแห่งได้รับความนิยม เช่น K-MONEY จาก KAsset, KTAM Money Market Fund จาก KTAM, SCB Money Market Fund จาก SCBAM หรือ กองทุนบัวหลวงธนสารพลัสจาก BBLAM สิ่งที่น่าสนใจคือส่วนใหญ่ไม่มีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ทำให้เหมาะกับการเป็นแหล่งพักเงินที่ยืดหยุ่น
10. หากธนาคารหรือบริษัทจัดการกองทุนล้มละลาย เงินในกองทุนรวมตลาดเงินของฉันจะปลอดภัยหรือไม่?
เงินลงทุนในกองทุนรวมจะถูกแยกออกจากทรัพย์สินของบริษัทจัดการกองทุน โดยมีผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee) ทำหน้าที่ดูแลทรัพย์สินของกองทุน ดังนั้น หากบริษัทจัดการกองทุนล้มละลาย เงินลงทุนของคุณจะยังคงปลอดภัย ไม่ได้ถูกนำไปรวมกับหนี้สินของบริษัท และจะมีการแต่งตั้งบริษัทจัดการกองทุนรายใหม่มาบริหารจัดการแทน