หุ้นบุริมสิทธิ มีสิทธิในเรื่องใดบ้าง: เจาะลึก 5 สิทธิพิเศษที่นักลงทุนต้องรู้

ตลาดหลักทรัพย์ไทย

บทนำ: หุ้นบุริมสิทธิคืออะไร และทำไมนักลงทุนควรรู้จัก?

หุ้นบุริมสิทธิ หรือที่รู้จักในฐานะตราสารทุนแบบพิเศษ ผสมผสานคุณสมบัติเด่นของหุ้นสามัญกับหุ้นกู้เข้าด้วยกัน ส่งผลให้ผู้ถือมีสิทธิ์ที่เหนือกว่าหุ้นสามัญในบางด้าน แต่ยังคงเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งในบริษัทอยู่ดี ผู้ถือหุ้นประเภทนี้จึงมีส่วนแบ่งในผลกำไรและกิจการเช่นเดียวกับผู้ถือหุ้นทั่วไป เพียงแต่ได้รับการจัดสรรเงินปันผลและคืนทุนก่อนเสมอ ทำให้กลายเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความแน่นอนและรายได้ที่ต่อเนื่อง

ภาพประกอบตราสารการเงินแบบไฮบริดที่ผสมผสานหุ้นกับพันธบัตร พร้อมกระแสเงินไหลสู่ผู้ลงทุนเพื่อแสดงผลตอบแทนที่มั่นคง

ในโครงสร้างทุนของบริษัท หุ้นบุริมสิทธิช่วยให้ผู้บริหารระดมทุนได้โดยไม่ต้องแบ่งปันอำนาจควบคุมมากนัก หรือดึงดูดนักลงทุนที่ชื่นชอบกระแสเงินสดที่คาดเดาได้ง่าย การศึกษาหุ้นประเภทนี้ให้ลึกซึ้งจึงช่วยให้นักลงทุนกระจายพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในตลาดหุ้นไทยที่โอกาสหลากหลายกำลังรออยู่ หากคุณกำลังมองหาวิธีลดความผันผวนในพอร์ต การรู้จักหุ้นบุริมสิทธิอาจเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การตัดสินใจลงทุนที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

เจาะลึกสิทธิพื้นฐานของผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ

สิ่งที่ทำให้หุ้นบุริมสิทธิแตกต่างคือสิทธิพิเศษที่ผู้ถือได้รับ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การรับผลตอบแทนและการคุ้มครองทุนในยามวิกฤติ สิทธิเหล่านี้ช่วยให้ผู้ลงทุนรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อเทียบกับหุ้นสามัญทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงที่บริษัทเผชิญความท้าทาย

ภาพประกอบเอกสารสิทธิพิเศษทางการเงินพร้อมตราประทับทองและบุคคลที่ได้รับผลประโยชน์

สิทธิในการได้รับเงินปันผลก่อน

ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะได้รับเงินปันผลเป็นลำดับแรกก่อนหุ้นสามัญเสมอ โดยมักกำหนดอัตราไว้แน่นอน เช่น ร้อยละของมูลค่าหุ้นหรือจำนวนเงินต่อหุ้น ไม่ว่าบริษัทจะทำกำไรเท่าไร หากมีการจ่ายปันผล ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิก็จะได้ก่อนนี่คือจุดเด่นที่คล้ายกับดอกเบี้ยจากหุ้นกู้ เพราะมักจ่ายเป็นประจำทุกปี

ยิ่งไปกว่านั้น หากเป็นหุ้นบุริมสิทธิแบบสะสม เมื่อบริษัทชะลอการจ่ายปันผลในปีใด เงินส่วนนั้นจะค้างชำระและต้องชำระให้ครบก่อนที่จะกระจายให้หุ้นสามัญ แต่ถ้าเป็นแบบไม่สะสม การข้ามปีนั้นไปหมายถึงผู้ถือหุ้นจะสูญเสียสิทธิ์ในเงินปันผลปีนั้นโดยไม่มีโอกาสทวงคืนในภายหลัง การเลือกประเภทที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับระดับความอดทนต่อความไม่แน่นอนของนักลงทุนแต่ละคน

สิทธิในการได้รับคืนสินทรัพย์ก่อนเมื่อเลิกกิจการ

เมื่อบริษัทต้องปิดกิจการ ล้มละลาย หรือชำระบัญชี ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะได้สิทธิ์เรียกรับสินทรัพย์เหลือก่อนหุ้นสามัญ แม้จะตามหลังเจ้าหนี้อันดับแรกและผู้ถือหุ้นกู้นี่คือลำดับชั้นที่ช่วยลดความเสี่ยง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาเงินต้น ในสถานการณ์เลวร้าย สิทธิ์นี้สามารถเป็นเกราะป้องกันที่สำคัญ

โดยปกติ ลำดับการชำระจะเริ่มจากเจ้าหนี้อันดับสูงสุด จากนั้นถึงผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ และปิดท้ายด้วยหุ้นสามัญที่อาจไม่ได้อะไรเลยหากสินทรัพย์ไม่พอ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นบุริมสิทธิจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การเข้าใจลำดับนี้ช่วยให้นักลงทุนประเมินความเสี่ยงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในบริบทของบริษัทไทยที่บางครั้งเผชิญความผันผวนจากเศรษฐกิจภายนอก

ข้อจำกัดเรื่องสิทธิออกเสียง (หรือมีอย่างจำกัด)

อีกประเด็นที่ชัดเจนคือ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิ์โหวตในที่ประชุมใหญ่ หรือมีเพียงในกรณีจำกัด เช่น เมื่อมีข้อเสนอเปลี่ยนแปลงที่กระทบสิทธิ์โดยตรง การขาดสิทธิ์นี้อาจดูเป็นข้อเสีย แต่จริงๆ แล้วมันคือการแลกเปลี่ยนกับความมั่นคงในเงินปันผลและการคืนทุน ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจึงเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจบริหาร แต่เน้นผลตอบแทนที่คาดการณ์ได้แทน

หุ้นบุริมสิทธิ VS หุ้นสามัญ: ความแตกต่างที่สำคัญสำหรับนักลงทุน

เพื่อช่วยให้นักลงทุนเลือกได้ถูกต้อง การเปรียบเทียบระหว่างหุ้นบุริมสิทธิกับหุ้นสามัญจึงจำเป็น โดยแต่ละประเภทตอบโจทย์เป้าหมายที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และระยะเวลาการลงทุน

ภาพประกอบคิวยืนรอรับเงินปันผล โดยผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิอยู่แถวหน้าได้รับการจ่ายคงที่
คุณสมบัติ หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock) หุ้นสามัญ (Common Stock)
เงินปันผล ได้รับก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ, มักเป็นอัตราคงที่, อาจสะสมได้ ได้รับหลังผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ, ไม่แน่นอน, ขึ้นอยู่กับผลประกอบการ
สิทธิออกเสียง ไม่มี หรือมีอย่างจำกัดมาก มีสิทธิออกเสียงเต็มที่ในการตัดสินใจของบริษัท
การได้รับคืนสินทรัพย์ ได้รับคืนก่อนผู้ถือหุ้นสามัญเมื่อเลิกกิจการ/ล้มละลาย ได้รับคืนหลังสุด (ถ้ามีเหลือ)
ศักยภาพการเติบโตของราคา จำกัด (คล้ายหุ้นกู้), ราคาผันผวนน้อยกว่า สูงกว่า (ขึ้นอยู่กับผลประกอบการและการเติบโตของบริษัท)
ความเสี่ยง ต่ำกว่าหุ้นสามัญ (ได้รับเงินปันผลและคืนทุนก่อน) สูงกว่าหุ้นบุริมสิทธิ (ผันผวนตามตลาดและผลประกอบการ)
บทบาทในพอร์ตโฟลิโอ เน้นรายได้ประจำ, ความมั่นคง, ลดความเสี่ยง เน้นการเติบโต, สร้างผลตอบแทนสูงในระยะยาว

จากตารางนี้เห็นได้ชัดว่าหุ้นบุริมสิทธิเหมาะกับผู้ที่ต้องการรายได้คงที่ เช่น ผู้เกษียณที่พึ่งพาเงินปันผล หรือนักลงทุนที่อยากลดความผันผวนในพอร์ต ในทางตรงกันข้าม หุ้นสามัญดึงดูดผู้ที่มองหาการเติบโตระยะยาวและยอมรับความเสี่ยงสูงกว่า การผสมทั้งสองประเภทในพอร์ตอาจช่วยสร้างสมดุลที่ลงตัว โดยเฉพาะในตลาดไทยที่หุ้นบุริมสิทธิช่วย缓冲ความผันผวนจากปัจจัยเศรษฐกิจโลก

รู้จักประเภทของหุ้นบุริมสิทธิ: ทางเลือกที่หลากหลายในตลาด

หุ้นบุริมสิทธิไม่ได้จำกัดอยู่แค่รูปแบบเดียว แต่แบ่งออกเป็นหลายประเภทที่แต่ละแบบมีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเลือกได้ตรงตามความต้องการ ไม่ว่าจะเน้นความมั่นคงหรือโอกาสเติบโต การรู้จักประเภทเหล่านี้จึงเพิ่มตัวเลือกในการวางแผนการลงทุนให้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น

หุ้นบุริมสิทธิชนิดสะสม (Cumulative Preferred Stock)

ประเภทนี้ได้รับความนิยมเพราะให้ความอุ่นใจแก่ผู้ลงทุน หากบริษัทชะงักการจ่ายปันผล เงินส่วนที่ค้างจะสะสมและต้องชำระให้ครบก่อนหุ้นสามัญในอนาคต ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการรับประกันรายได้ในระยะยาว โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ผลกำไรอาจผันผวนตามฤดูกาล

หุ้นบุริมสิทธิชนิดไม่สะสม (Non-Cumulative Preferred Stock)

ตรงข้ามกับแบบสะสม หากปีใดบริษัทไม่จ่ายปันผล ผู้ถือหุ้นแบบนี้จะพลาดไปโดยไม่มีสิทธิ์ทวงคืนในภายหลัง จึงมีความเสี่ยงด้านกระแสเงินสดสูงกว่าเล็กน้อย แต่บางครั้งอาจให้อัตราปันผลสูงขึ้นเพื่อชดเชย ทำให้เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความยืดหยุ่นเพื่อผลตอบแทนที่อาจสูงกว่า

หุ้นบุริมสิทธิชนิดแปลงสภาพได้ (Convertible Preferred Stock)

แบบนี้เพิ่มความยืดหยุ่นโดยให้สิทธิ์แปลงเป็นหุ้นสามัญในอัตราที่กำหนด หากราคาหุ้นสามัญพุ่งสูง ผู้ถือหุ้นสามารถเปลี่ยนเพื่อรับส่วนแบ่งจากความเติบโตได้ ทำให้ผสมผสานความมั่นคงกับโอกาสกำไรได้ดี โดยเฉพาะในบริษัทที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว เช่น สตาร์ทอัพหรือบริษัทเทคโนโลยีในไทย

หุ้นบุริมสิทธิชนิดเรียกคืนได้ (Callable Preferred Stock)

บริษัทมีสิทธิ์ซื้อหุ้นคืนในราคาที่ตกลงไว้ล่วงหน้า ซึ่งมักสูงกว่าราคาพาร์เล็กน้อย สิทธินี้ช่วยบริษัทปรับโครงสร้างทุน เช่น เมื่อดอกเบี้ยตลาดต่ำลง ก็สามารถเรียกคืนเพื่อออกชุดใหม่ที่ต้นทุนต่ำกว่า สำหรับนักลงทุน ต้องระวังเพราะอาจต้องหาที่ลงทุนใหม่ แต่ในทางกลับกัน มันก็ป้องกันไม่ให้ติดกับอัตราปันผลสูงในยุคดอกเบี้ยต่ำ

หุ้นบุริมสิทธิชนิดมีส่วนร่วม (Participating Preferred Stock)

นอกจากปันผลพื้นฐาน ผู้ถือหุ้นแบบนี้ยังได้ส่วนแบ่งเพิ่มหากบริษัททำกำไรดีและจ่ายให้หุ้นสามัญถึงระดับหนึ่งแล้ว ทำให้มีโอกาสรับผลตอบแทนสูงในปีที่ผลประกอบการรุ่งเรือง เหมาะกับนักลงทุนที่อยากมีส่วนร่วมในความสำเร็จของบริษัทโดยไม่เสียสิทธิ์พื้นฐาน

กลยุทธ์การลงทุนและข้อควรพิจารณาสำหรับหุ้นบุริมสิทธิในตลาดไทย

การลงทุนหุ้นบุริมสิทธิในตลาดไทยต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียให้ดี โดยพิจารณาปัจจัยที่กระทบราคาและกฎภาษี เพื่อให้การตัดสินใจสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่อาจได้รับอิทธิพลจากอัตราดอกเบี้ยและการเติบโตภาคอุตสาหกรรม

ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิ

**ข้อดี:**
* **รายได้สม่ำเสมอ:** ได้รับเงินปันผลในอัตราคงที่และสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ที่คาดการณ์ได้
* **ความมั่นคง:** มีลำดับสิทธิในการได้รับเงินปันผลและคืนสินทรัพย์ก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ
* **ลดความเสี่ยง:** มีความผันผวนของราคาน้อยกว่าหุ้นสามัญ ทำให้เป็นทางเลือกที่มั่นคงกว่า
* **ทางเลือกการแปลงสภาพ:** หุ้นบุริมสิทธิชนิดแปลงสภาพได้ให้โอกาสในการเข้าร่วมรับผลประโยชน์จากการเติบโตของหุ้นสามัญ

**ข้อเสีย:**
* **ศักยภาพการเติบโตจำกัด:** ราคาหุ้นบุริมสิทธิมักไม่เติบโตสูงเท่าหุ้นสามัญ เนื่องจากเงินปันผลถูกกำหนดไว้
* **ไม่มีสิทธิออกเสียง:** ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิออกเสียงในการบริหารงานของบริษัท
* **ความเสี่ยงจากการเรียกคืน:** หุ้นบุริมสิทธิชนิดเรียกคืนได้อาจถูกบริษัทไถ่ถอนคืนได้เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้ผู้ลงทุนต้องหาแหล่งลงทุนใหม่
* **สภาพคล่องต่ำ:** หุ้นบุริมสิทธิบางตัวอาจมีสภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดรองต่ำกว่าหุ้นสามัญ ทำให้ยากต่อการซื้อขาย

แม้ข้อเสียจะมีอยู่ แต่ข้อดีเหล่านี้ทำให้หุ้นบุริมสิทธิเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมพอร์ต โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนไทยที่อาจเผชิญความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย

การประเมินมูลค่าและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาหุ้นบุริมสิทธิ

การคำนวณมูลค่าหุ้นบุริมสิทธิคล้ายกับพันธบัตร โดยอาศัยกระแสปันผลอนาคตเป็นหลัก ปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่:
* **อัตราดอกเบี้ยในตลาด:** หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดสูงขึ้น ราคาหุ้นบุริมสิทธิที่มีอัตราเงินปันผลคงที่มักจะลดลง (และในทางกลับกัน)
* **ความน่าเชื่อถือของบริษัท:** บริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งและมีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดี จะทำให้หุ้นบุริมสิทธิมีราคาที่มั่นคงและน่าสนใจ
* **สภาพคล่องในตลาด:** หุ้นบุริมสิทธิที่มีการซื้อขายในตลาดรองน้อย อาจส่งผลให้ราคาไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง
* **เงื่อนไขเฉพาะของหุ้นบุริมสิทธิ:** ประเภทของหุ้นบุริมสิทธิ (สะสม, แปลงสภาพได้, เรียกคืนได้) จะส่งผลต่อการประเมินมูลค่า
ดูข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎระเบียบ

นอกจากนี้ นักลงทุนควรติดตามรายงานทางการเงินของบริษัท เพื่อประเมินว่าปัจจัยเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงอย่างไรในบริบทไทย เช่น ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางปรับ

ภาษีและข้อควรระวังสำหรับนักลงทุนไทย

ในไทย เงินปันผลจากหุ้นบุริมสิทธิถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ตามกฎกรมสรรพากร บุคคลธรรมดาสามารถนำไปรวมคำนวณภาษีสิ้นปีเพื่อขอเครดิต หรือไม่รวมก็ได้ตามสะดวก แต่ต้องระวังเรื่องสภาพคล่อง เพราะหุ้นบางตัวซื้อขายน้อยในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อาจต้องขายในราคาต่ำกว่าคาด หรือรอนานกว่าจะจับคู่คำสั่ง สำหรับหุ้นแบบเรียกคืน ควรศึกษาภาษีที่อาจเกิดเมื่อได้รับเงินคืน เพื่อหลีกเลี่ยงความประหลาดใจทางภาษี

สรุป: หุ้นบุริมสิทธิ ทางเลือกที่มั่นคงสำหรับพอร์ตโฟลิโอ

หุ้นบุริมสิทธิโดดเด่นด้วยสิทธิ์พิเศษที่มอบความมั่นใจในการรับปันผลและคืนทุนก่อนหุ้นสามัญ ทำให้เป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่แสวงหารายได้สม่ำเสมอและความปลอดภัย แม้จะขาดสิทธิ์โหวตและโอกาสเติบโตจำกัด แต่ก็ช่วยกระจายความเสี่ยงและสร้างสมดุลในพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการรักษาเงินต้นและรายได้ประจำ การศึกษาประเภท ข้อดีข้อเสีย และบริบทตลาดไทยจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ สู่การบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ยั่งยืน

หุ้นบุริมสิทธิสามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้หรือไม่ และอย่างไร?

ได้ หุ้นบุริมสิทธิบางตัวสามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เช่นเดียวกับหุ้นสามัญ โดยนักลงทุนสามารถซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ที่ได้รับอนุญาต การซื้อขายจะดำเนินการผ่านระบบซื้อขายของ SET ซึ่งมีราคาเสนอซื้อเสนอขายปรากฏให้เห็น อย่างไรก็ตาม หุ้นบุริมสิทธิบางตัวอาจมีสภาพคล่องในการซื้อขายที่ต่ำกว่าหุ้นสามัญ

หากบริษัทจ่ายเงินปันผลไม่ได้ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิชนิดสะสมและไม่สะสมจะได้รับชดเชยอย่างไร?

  • หุ้นบุริมสิทธิชนิดสะสม (Cumulative Preferred Stock): หากบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ เงินปันผลที่ค้างจ่ายจะถูกสะสมไว้ และบริษัทจะต้องจ่ายเงินปันผลที่สะสมทั้งหมดให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิชนิดนี้ก่อนที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญในอนาคต
  • หุ้นบุริมสิทธิชนิดไม่สะสม (Non-Cumulative Preferred Stock): หากบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ในปีใด ผู้ถือหุ้นจะไม่ได้รับเงินปันผลสำหรับปีนั้นไป และเงินปันผลที่ไม่ได้จ่ายจะไม่ถูกสะสมเพื่อจ่ายในภายหลัง

ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิร้องขอให้บริษัทเลิกกิจการได้หรือไม่ หรือมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสำคัญของบริษัทอย่างไร?

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิไม่มีสิทธิร้องขอให้บริษัทเลิกกิจการ และไม่มีสิทธิออกเสียงในการตัดสินใจสำคัญเกี่ยวกับการบริหารงานของบริษัทเหมือนผู้ถือหุ้นสามัญ สิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมักจะจำกัดอยู่เฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับของบริษัทที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิเท่านั้น

หุ้นบุริมสิทธิเหมาะกับนักลงทุนประเภทไหน และมีข้อควรระวังอะไรเป็นพิเศษสำหรับนักลงทุนไทย?

หุ้นบุริมสิทธิเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ต้องการความมั่นคง และยอมรับผลตอบแทนที่จำกัด เช่น ผู้ที่ต้องการรายได้ประจำ ผู้เกษียณอายุ หรือผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตโฟลิโอ

ข้อควรระวังสำหรับนักลงทุนไทย:

  • สภาพคล่อง: หุ้นบุริมสิทธิบางตัวอาจมีสภาพคล่องต่ำในตลาดรอง ทำให้ยากต่อการซื้อขาย
  • ความเสี่ยงจากการเรียกคืน: หากเป็นหุ้นบุริมสิทธิชนิดเรียกคืนได้ บริษัทอาจเรียกคืนได้เมื่ออัตราดอกเบี้ยตลาดลดลง
  • ภาษีเงินปันผล: เงินปันผลที่ได้รับจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10%

การแปลงสภาพหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญมีผลกระทบทางภาษีอย่างไรในประเทศไทย?

การแปลงสภาพหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญในประเทศไทยโดยทั่วไปแล้วยังไม่ถือเป็นเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดภาษีเงินได้ ณ เวลาที่แปลงสภาพ อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนขายหุ้นสามัญที่ได้จากการแปลงสภาพนั้นไปในภายหลัง และมีกำไรจากการขาย (Capital Gain) กำไรส่วนนั้นจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่การขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังคงต้องเสียค่าธรรมเนียมและภาษีธุรกิจเฉพาะ (หากมี) หากเป็นนิติบุคคลจะต้องนำกำไรจากการขายไปรวมคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล

มีตัวอย่างหุ้นบุริมสิทธิของบริษัทไทยที่เคยมีการออกจำหน่ายและน่าสนใจบ้างไหม?

ในอดีต บริษัทไทยหลายแห่งได้เคยออกหุ้นบุริมสิทธิเพื่อระดมทุน ตัวอย่างเช่น หุ้นบุริมสิทธิของธนาคารพาณิชย์บางแห่ง หรือบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่บางบริษัท ซึ่งนักลงทุนสามารถค้นหาข้อมูลย้อนหลังได้จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือจากรายงานประจำปีของบริษัทที่สนใจ เพื่อดูว่าบริษัทใดบ้างที่เคยมีหุ้นบุริมสิทธิอยู่ในตลาด

หุ้นบุริมสิทธิมีวันหมดอายุหรือไม่ และหากบริษัทเรียกคืนหุ้นจะมีผลอย่างไร?

หุ้นบุริมสิทธิโดยทั่วไปแล้วจะไม่มีวันหมดอายุ (perpetual) เหมือนหุ้นสามัญ เว้นแต่จะระบุเงื่อนไขไว้เป็นอย่างอื่นในข้อกำหนดการออกหุ้น

หากบริษัทเรียกคืนหุ้นบุริมสิทธิ (Callable Preferred Stock) ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินคืนตามราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ราคาเรียกคืน) ซึ่งมักจะสูงกว่าราคาพาร์เล็กน้อย การเรียกคืนหุ้นนี้อาจเกิดขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลง ทำให้บริษัทสามารถออกหุ้นใหม่หรือกู้เงินในต้นทุนที่ต่ำกว่าเดิมได้ สำหรับผู้ลงทุน การถูกเรียกคืนหุ้นหมายความว่าต้องนำเงินที่ได้รับคืนไปหาโอกาสลงทุนใหม่

ต้นทุนของหุ้นบุริมสิทธิ์ (Cost of Preferred Stock) คืออะไร และนักลงทุนควรพิจารณาอย่างไร?

ต้นทุนของหุ้นบุริมสิทธิ (Cost of Preferred Stock) ในมุมมองของบริษัทผู้ออกหุ้น คืออัตราผลตอบแทนที่บริษัทต้องจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ (ในรูปของเงินปันผล) เพื่อระดมทุนผ่านการออกหุ้นประเภทนี้ โดยอาจพิจารณารวมถึงค่าใช้จ่ายในการออกหุ้น (flotation costs) ด้วย

สำหรับนักลงทุน ต้นทุนของหุ้นบุริมสิทธิคือราคาที่จ่ายซื้อหุ้นไป ซึ่งควรพิจารณาเปรียบเทียบกับผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ (เงินปันผล) และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนนั้นคุ้มค่าและสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุน

หุ้นบุริมสิทธิมีสภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดรองของไทยเป็นอย่างไร?

สภาพคล่องของหุ้นบุริมสิทธิในตลาดรองของไทยโดยทั่วไปถือว่าต่ำกว่าหุ้นสามัญอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีจำนวนหุ้นที่ซื้อขายหมุนเวียนน้อยกว่าและมีผู้สนใจลงทุนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นสามัญ การที่สภาพคล่องต่ำอาจทำให้ผู้ลงทุนไม่สามารถซื้อขายหุ้นได้ตามราคาที่ต้องการ หรือต้องใช้เวลานานกว่าในการจับคู่คำสั่งซื้อขาย ดังนั้น นักลงทุนที่สนใจหุ้นบุริมสิทธิควรพิจารณาประเด็นด้านสภาพคล่องนี้อย่างรอบคอบ

ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะได้รับสิทธิพิเศษในกรณีที่บริษัทมีการเพิ่มทุนหรือออกหุ้นใหม่หรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะไม่มีสิทธิพิเศษในการจองซื้อหุ้นใหม่ (pre-emptive rights) ในกรณีที่บริษัทมีการเพิ่มทุนหรือออกหุ้นใหม่เหมือนผู้ถือหุ้นสามัญ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นในข้อกำหนดการออกหุ้นบุริมสิทธิ อย่างไรก็ตาม การออกหุ้นใหม่โดยบริษัทอาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นบุริมสิทธิได้ เช่น หากมีการออกหุ้นบุริมสิทธิชุดใหม่ที่มีอัตราเงินปันผลสูงกว่า ก็อาจทำให้หุ้นบุริมสิทธิชุดเดิมดูไม่น่าสนใจเท่าเดิม

發佈留言