m0 คืออะไร? เจาะลึกฐานเงินในเศรษฐกิจไทย: M0, M1, M2, M3 และแนวทางสำหรับนักลงทุน
คำว่า “m0” อาจตีความได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ใช้ เช่น อาจหมายถึงเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาอย่าง Shanling M0 หรือ M0 Pro ซึ่งเป็น DAP ยอดนิยม หรือบางครั้งก็เป็นชื่อภาษาการเขียนโปรแกรมอย่าง m0 แต่ในที่นี้ เราจะโฟกัสไปที่ความหมายในแง่เศรษฐศาสตร์และการเงิน โดย m0 หมายถึงฐานเงิน หรือ Monetary Base ซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจไทย บทความนี้จะพาคุณสำรวจความหมายและบทบาทของ M0 ในระบบเศรษฐกิจของไทย รวมถึงนโยบายการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการลงทุนประจำวันของคุณ

M0 ฐานเงินคืออะไร? คำจำกัดความและองค์ประกอบหลัก
M0 หรือฐานเงิน เรียกอีกชื่อว่า Monetary Base หรือ High-Powered Money คือรูปแบบเงินที่เป็นรากฐานของระบบเศรษฐกิจทั้งหมด เงินประเภทนี้อยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงจากธนาคารกลาง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ธนาคารพาณิชย์ใช้ในการขยายปริมาณเงินให้กว้างขึ้น
ส่วนประกอบหลักของ M0 แบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือ
- ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่หมุนเวียน: ครอบคลุมเงินสดที่ประชาชนและธุรกิจถือครองสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
- เงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ที่ฝากไว้กับธนาคารกลาง: รวมทั้งเงินสำรองบังคับตามกฎหมายที่ต้องคงไว้ตามอัตราส่วนของเงินฝาก และเงินสำรองส่วนเกินที่ธนาคารเลือกถือไว้เพิ่มเติม
ธนาคารกลางมีหน้าที่สำคัญในการจัดการ M0 ผ่านเครื่องมือหลากหลาย เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดเปิด การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือการกำหนดอัตราเงินสำรองขั้นต่ำ การปรับเปลี่ยนเหล่านี้จะมีผลต่อสภาพคล่องในระบบการเงินและปริมาณเงินรวมทั้งหมด ทำให้เศรษฐกิจเคลื่อนไหวไปตามทิศทางที่ตั้งใจ

M0, M1, M2, M3: ความแตกต่างและลำดับชั้นของตัวชี้วัดปริมาณเงิน
การศึกษาปริมาณเงินในเศรษฐกิจไม่หยุดอยู่แค่ M0 แต่ยังขยายไปถึงตัวชี้วัดอื่นๆ ที่บ่งบอกถึงระดับสภาพคล่องที่แตกต่างกัน เช่น M1, M2 และ M3 แม้ว่าบางประเทศจะเลิกใช้ M3 ไปแล้ว แต่ตัวชี้วัดเหล่านี้เรียงลำดับตามความคล่องตัวจากสูงไปต่ำ
- M1 หรือปริมาณเงินแคบ: ประกอบด้วย M0 พ่วงกับเงินฝากเรียกคืนได้ทันที เงินฝากออมทรัพย์ที่ถอนได้ง่าย และเช็คเดินทาง สิ่งเหล่านี้มีสภาพคล่องสูง สามารถใช้ชำระหนี้ได้โดยไม่ต้องรอ
- M2 หรือปริมาณเงินกว้าง: รวม M1 เข้ากับเงินฝากออมทรัพย์อื่นๆ เงินฝากประจำขนาดเล็ก และกองทุนรวมตลาดเงิน ซึ่งแปลงเป็นเงินสดได้ค่อนข้างรวดเร็ว
- M3 หรือปริมาณเงินกว้างมาก: เดิมทีรวม M2 กับเงินฝากประจำขนาดใหญ่และสินเชื่อระยะสั้นในตลาดเงิน แต่ปัจจุบันธนาคารกลางหลายแห่งรวมถึง ธปท. ไม่เผยแพร่ข้อมูลนี้แล้ว เพราะ M1 กับ M2 เพียงพอสำหรับวิเคราะห์นโยบาย แม้แนวคิด M3 ยังคงใช้ในวงการวิชาการ
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ลองดูตารางเปรียบเทียบองค์ประกอบและระดับสภาพคล่องของ M0, M1, M2 ด้านล่างนี้
| ตัวชี้วัดปริมาณเงิน | องค์ประกอบ | ระดับสภาพคล่อง |
|---|---|---|
| M0 | ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน + เงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ที่ธนาคารกลาง | สูงที่สุด |
| M1 | M0 + เงินฝากกระแสรายวัน + เงินฝากออมทรัพย์ที่ถอนได้ทันที + เช็คเดินทาง | สูง |
| M2 | M1 + เงินฝากออมทรัพย์อื่นๆ + เงินฝากประจำขนาดเล็ก + กองทุนรวมตลาดเงิน | ปานกลาง |
การรู้จักความแตกต่างเหล่านี้ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนประเมินภาพรวมสภาพคล่องและทิศทางเศรษฐกิจได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวจากวิกฤต

ความสำคัญและผลกระทบของ M0 ในเศรษฐกิจไทย
ฐานเงินอย่าง M0 มีบทบาทหลักในเศรษฐกิจไทย เพราะเป็นจุดกำเนิดของกระบวนการสร้างเงินทั้งระบบ และเชื่อมโยงโดยตรงกับนโยบายการเงินที่ ธปท. ใช้เพื่อรักษาความสมดุลทางเศรษฐกิจ
- เครื่องมือนโยบายการเงิน: ธปท. จัดการ M0 ผ่านวิธีต่างๆ เช่น การปรับอัตราเงินสำรองบังคับ การซื้อขายพันธบัตรในตลาดเปิด หรือการปล่อยกู้ให้ธนาคารพาณิชย์ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะปรับสภาพคล่องในตลาดการเงิน ส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยระยะสั้น และถ่ายทอดนโยบายไปสู่กิจกรรมเศรษฐกิจจริง
- สัญญาณเงินเฟ้อและการเติบโต: การเพิ่มขึ้นของ M0 อย่างกะทันหัน หากไม่สอดคล้องกับการผลิตสินค้า อาจบ่งบอกถึงความเสี่ยงเงินเฟ้อในอนาคต ในทางกลับกัน M0 ยังสะท้อนกิจกรรมเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะเมื่อความต้องการเงินสดในระบบเปลี่ยนแปลง เช่น ในช่วงเทศกาลหรือวิกฤตเศรษฐกิจ
- ผลต่อตลาดการเงิน: การเคลื่อนไหวของ M0 ส่งผลตรงๆ ต่อตลาดระหว่างธนาคาร ทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นผันผวน และลามไปถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หรือเงินฝาก สุดท้ายก็กระทบการลงทุนและการใช้จ่ายของประชาชน
ล่าสุด ธปท. ได้ประกาศนโยบายที่ระมัดระวังในการจัดการสภาพคล่อง เพื่อช่วยเศรษฐกิจฟื้นตัวและควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมาย การศึกษาข้อมูล M0 ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ จึงเป็นกุญแจสำคัญในการติดตามทิศทางเศรษฐกิจไทย ข้อมูลและบทความจากธนาคารแห่งประเทศไทย มักให้มุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์เหล่านี้
วิธีตีความข้อมูล M0 ของไทย: ข้อคิดสำหรับนักลงทุน
สำหรับนักลงทุน การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูล M0 ของไทยอย่างละเอียดช่วยให้คาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจและปรับพอร์ตการลงทุนได้ทันท่วงที
แหล่งข้อมูลและการเข้าถึง:
คุณสามารถหาข้อมูล M0 จากแหล่งเชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ ธปท. ที่มี ตารางงบดุลของสถาบันการเงิน แสดงสถิติปริมาณเงิน หรือใช้ Trading Economics ที่มี Thailand Money Supply M0 ในรูปแบบกราฟและตารางที่อ่านง่าย
เทคนิคการวิเคราะห์:
- M0 เพิ่มขึ้น: มักบ่งชี้สภาพคล่องที่สูงขึ้น จากนโยบายผ่อนคลายของธนาคารกลางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือความต้องการเงินสดที่เพิ่มจากประชาชน หากเพิ่มต่อเนื่อง อาจเตือนถึงแรงกดดันเงินเฟ้อ โดยเฉพาะในบริบทไทยที่เศรษฐกิจพึ่งพาการส่งออก
- M0 ลดลง: สะท้อนนโยบายเข้มงวดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หรือความต้องการเงินสดที่ลดลงจากความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้สภาพคล่องตึงตัวและต้นทุนกู้ยืมสูงขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน:
- ตลาดหุ้นไทย (SET): M0 ที่เพิ่มขึ้นอาจหนุนตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นวัฏจักร แต่หากนำไปสู่เงินเฟ้อ ธปท. อาจขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลลบต่อราคาหุ้น
- ตลาดพันธบัตร: M0 สูงอาจกดดอกเบี้ยระยะสั้นลง แต่หากเงินเฟ้อรุนแรง ดอกเบี้ยระยะยาวอาจพุ่ง
- ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน (ค่าเงินบาท): สภาพคล่องจาก M0 ที่เพิ่มอาจทำให้บาทอ่อน หากเงินทุนไหลออก
นักลงทุนควรพิจารณา M0 ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น เช่น เงินเฟ้อ GDP และนโยบาย ธปท. เพื่อตัดสินใจอย่างรอบคอบ
M0 กับความเข้าใจผิดที่พบบ่อยและการชี้แจง
M0 เป็นตัวชี้วัดสำคัญ แต่บางครั้งคนเข้าใจผิด ซึ่งอาจนำไปสู่การตีความที่ผิดพลาด โดยเฉพาะในเศรษฐกิจไทยที่ผู้คนสนใจเรื่องเงินเฟ้อและการลงทุนมาก
- เข้าใจผิดที่ 1: M0 คือความมั่งคั่งทั้งหมดของประเทศ
ชี้แจง: M0 เป็นแค่ฐานเงิน ซึ่งเป็นส่วนเล็กๆ ของปริมาณเงินรวมและความมั่งคั่งจริงที่รวมสินทรัพย์อย่างอสังหาฯ หุ้น และทุนมนุษย์ มันเป็นเพียงสื่อกลางการแลกเปลี่ยน ไม่ใช่ตัววัดความร่ำรวยทั้งหมด - เข้าใจผิดที่ 2: M0 เพิ่มขึ้นต้องทำให้เงินเฟ้อสูงเสมอ
ชี้แจง: M0 เป็นฐานของการสร้างเงิน แต่เงินเฟ้อขึ้นกับความเร็วหมุนเวียนเงินและผลผลิต หาก M0 เพิ่มแต่เศรษฐกิจเติบโตตาม หรือคนถือเงินนานขึ้น ก็อาจไม่เกิดเงินเฟ้อรุนแรง ในไทย เราต้องดูบริบทโดยรวม เช่น การนำเข้าสินค้าที่กระทบราคา - เข้าใจผิดที่ 3: M0 เปลี่ยนแล้วความมั่งคั่งส่วนตัวเปลี่ยนตาม
ชี้แจง: M0 กระทบมหภาค เช่น ดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลทางอ้อมต่อบุคคล ขึ้นกับรายได้ การลงทุน และหนี้ของคุณ ไม่ใช่ทุกคนรวยหรือจนตาม M0 โดยตรง
ความสัมพันธ์ของ M0 กับปัจจัยอื่นซับซ้อน นักเศรษฐศาสตร์ย้ำว่า它是เพียงชิ้นส่วนหนึ่งของปริศนาเศรษฐกิจ
สรุป: ทำความเข้าใจ M0 เพื่อเศรษฐกิจไทยและการลงทุนที่ชาญฉลาด
การรู้จัก M0 หรือฐานเงิน เป็นพื้นฐานสำหรับวิเคราะห์เศรษฐกิจใหญ่และนโยบายการเงิน โดยเฉพาะในไทยที่ ธปท. ใช้ M0 ควบคุมสภาพคล่อง ส่งผลต่อดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และการเติบโต
ความแตกต่างระหว่าง M0, M1, M2 ช่วยประเมินสภาพคล่องละเอียดยิ่งขึ้น การติดตาม M0 อย่างสม่ำเสมอและตีความถูกต้อง จะช่วยนักลงทุนปรับกลยุทธ์ในหุ้น พันธบัตร และค่าเงินได้ดี
ไม่ว่าคุณเป็นนักลงทุนหรือคนสนใจเศรษฐกิจ การเข้าใจ M0 จะช่วยให้คุณจับสัญญาณเปลี่ยนแปลงล่วงหน้า และตัดสินใจทางการเงินอย่างฉลาด
Q1: ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) มีอิทธิพลต่อฐานเงิน M0 อย่างไรผ่านนโยบายการเงิน?
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ใช้นโยบายการเงินหลายอย่างเพื่อควบคุม M0 ซึ่งรวมถึง:
- การดำเนินนโยบายการเงินแบบเปิด (Open Market Operations): ธปท. ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในตลาดการเงิน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อปริมาณเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ที่ธปท. และเงินสดหมุนเวียน
- การปรับอัตราเงินสำรองตามกฎหมาย: การปรับสัดส่วนเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ต้องดำรงไว้เป็นเงินสำรองกับธปท. มีผลต่อปริมาณเงินที่ธนาคารพาณิชย์สามารถนำไปปล่อยกู้ได้
- การกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: แม้จะไม่ได้ควบคุม M0 โดยตรง แต่การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายส่งผลต่อต้นทุนการกู้ยืมของธนาคารพาณิชย์จากธปท. ซึ่งส่งผลต่อสภาพคล่องโดยรวมและปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ
Q2: ข้อมูลปริมาณเงิน M0, M1, M2 ของไทยสามารถตรวจสอบได้จากที่ไหน? และมีอะไรที่ควรสังเกตเป็นพิเศษ?
คุณสามารถตรวจสอบข้อมูล M0, M1, M2 ของไทยได้จาก:
- เว็บไซต์ทางการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.): ส่วนสถิติการเงิน ซึ่งมีตารางงบดุลของสถาบันการเงินและข้อมูลปริมาณเงิน
- Trading Economics: Trading Economics – Thailand Money Supply M0 ซึ่งนำเสนอข้อมูลในรูปแบบกราฟและตารางที่เข้าใจง่าย
สิ่งที่ควรสังเกตเป็นพิเศษคือ การเปลี่ยนแปลงของข้อมูลเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (Year-on-Year) และแนวโน้มในระยะยาว เพื่อดูว่ามีการเติบโตหรือหดตัวของปริมาณเงินในระบบอย่างไร
Q3: สำหรับประชาชนทั่วไปของไทย การเปลี่ยนแปลงของฐานเงิน M0 มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและราคาสินค้าอย่างไร?
แม้ว่า M0 จะเป็นตัวชี้วัดระดับมหภาค แต่การเปลี่ยนแปลงของมันก็ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อชีวิตประจำวันของประชาชนไทยได้:
- ราคาสินค้าและบริการ (เงินเฟ้อ): หาก M0 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยที่ผลผลิตทางเศรษฐกิจไม่เพิ่มขึ้นตาม อาจทำให้มีเงินมากเกินไปไล่ซื้อสินค้าและบริการ ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น (เงินเฟ้อ) ซึ่งจะลดอำนาจซื้อของประชาชน
- อัตราดอกเบี้ย: การที่ธปท. ปรับ M0 เพื่อควบคุมสภาพคล่อง จะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยในระบบ หากสภาพคล่องเพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยอาจลดลง ทำให้การกู้ยืมถูกลง แต่ผลตอบแทนเงินฝากก็จะต่ำลงด้วย
Q4: หากปริมาณเงิน M0 ของไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จะส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทและตลาดหุ้นไทยอย่างไร?
หาก M0 ของไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลกระทบดังนี้:
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท: การเพิ่มขึ้นของ M0 หมายถึงมีสภาพคล่องในระบบมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การอ่อนค่าของเงินบาทได้ หากปริมาณเงินบาทในตลาดเพิ่มขึ้นและไม่ได้ถูกดูดซับด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แท้จริง หรือมีการไหลออกของเงินทุน
- ตลาดหุ้นไทย: ในระยะแรก การเพิ่มขึ้นของ M0 อาจส่งผลดีต่อตลาดหุ้น เนื่องจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นอาจกระตุ้นการลงทุน แต่หากการเพิ่มขึ้นของ M0 นำไปสู่ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อรุนแรงและธปท. ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตลาดหุ้นก็อาจได้รับผลกระทบในทางลบได้
Q5: M0, M1, M2 ตัวชี้วัดใดมีอิทธิพลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยมากที่สุด?
โดยทั่วไปแล้ว **M2** มักจะถูกพิจารณาว่ามีอิทธิพลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยมากที่สุด เนื่องจาก M2 ครอบคลุมเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจำ ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
- การเติบโตของ M2 ที่สูง อาจบ่งชี้ถึงสภาพคล่องในระบบที่เอื้อต่อการปล่อยสินเชื่อและการลงทุน ซึ่งอาจหนุนราคาอสังหาริมทรัพย์
- ในขณะที่ M0 และ M1 สะท้อนสภาพคล่องที่สูงกว่า แต่มีขนาดเล็กกว่าและมักใช้ในการทำธุรกรรมระยะสั้นมากกว่าการลงทุนระยะยาวในอสังหาริมทรัพย์
Q6: นอกจาก M0 ในทางเศรษฐศาสตร์แล้ว คนไทยมักจะพูดถึง “m0” ในความหมายอื่นๆ อะไรอีกบ้าง?
นอกจาก M0 ในทางเศรษฐศาสตร์แล้ว “m0” ที่คนไทยอาจพูดถึงได้แก่:
- Shanling M0/M0 Pro DAP: เป็นเครื่องเล่นเพลงดิจิทัลพกพา (Digital Audio Player) ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักเสียงเพลง
- ภาษาโปรแกรม m0: แม้จะไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในประเทศไทยนัก แต่ m0.org มีอยู่จริง ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับภาษาโปรแกรมหรือเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์
- รหัสเฉพาะทางอื่นๆ: “m0” อาจเป็นรหัสรุ่นของผลิตภัณฑ์ รหัสส่วนประกอบทางเทคนิค หรือชื่อเฉพาะในบริบทอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเศรษฐศาสตร์
Q7: การแพร่หลายของการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด (เช่น PromptPay, QR Code Payment) ในไทยมีผลต่อการนับ M0 อย่างไร?
การแพร่หลายของการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสดในไทยมีผลกระทบต่อ M0 ในด้านการลดความต้องการถือเงินสดในมือของประชาชน ทำให้สัดส่วนของ “ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ M0 มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปริมาณธุรกรรมทั้งหมด
- เมื่อผู้คนใช้ PromptPay หรือ QR Code มากขึ้น เงินสดที่เคยหมุนเวียนในระบบจะถูกฝากเข้าธนาคาร ซึ่งจะย้ายจากส่วนของเงินสดหมุนเวียนไปเป็นเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์
- อย่างไรก็ตาม เงินที่อยู่ในระบบธนาคารเหล่านั้นจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของ M1 และ M2 ซึ่งสะท้อนสภาพคล่องโดยรวมที่ยังคงอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบจากการถือเงินสดไปสู่การถือเงินฝากที่พร้อมใช้ผ่านช่องทางดิจิทัลแทน
Q8: การเปลี่ยนแปลงของฐานเงิน M0 มีผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ในไทยหรือไม่?
มีผลกระทบอย่างแน่นอน โดยอ้อม:
- สภาพคล่องในตลาด: การเปลี่ยนแปลงของ M0 ส่งผลโดยตรงต่อสภาพคล่องในตลาดระหว่างธนาคาร (Interbank Market) หาก M0 เพิ่มขึ้น ธนาคารพาณิชย์จะมีเงินสำรองส่วนเกินมากขึ้น ทำให้มีสภาพคล่องสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยในตลาดระหว่างธนาคารมีแนวโน้มลดลง
- การส่งผ่านนโยบาย: อัตราดอกเบี้ยในตลาดระหว่างธนาคารเป็นพื้นฐานของต้นทุนการเงินของธนาคารพาณิชย์ การลดลงของต้นทุนนี้อาจทำให้ธนาคารพาณิชย์สามารถเสนออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำลงได้ เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
- นโยบายธปท.: ธปท. มักจะใช้ M0 เป็นเครื่องมือในการส่งผ่านนโยบาย โดยการปรับ M0 เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดสอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ต้องการ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ในที่สุด