บทนำ: ทำความรู้จัก “เทรดออฟชั่น” คืออะไร
การเทรดออฟชั่น หรือการซื้อขายสัญญาออฟชั่น กำลังกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมในหมู่นักลงทุนชาวไทยที่อยากเพิ่มโอกาสทำกำไรหรือจัดการความเสี่ยงในพอร์ตลงทุนของตัวเอง แม้ว่าจะซับซ้อนกว่าการเล่นหุ้นแบบธรรมดา แต่จุดเด่นอย่างผลตอบแทนที่สูงและกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น ทำให้มันน่าสนใจสำหรับคนที่เต็มใจศึกษาและเข้าใจกลไกการทำงาน

ในฐานะเครื่องมืออนุพันธ์ทางการเงิน สัญญาออฟชั่นไม่ได้หมายถึงการซื้อขายสินทรัพย์จริงโดยตรง แต่เป็นการแลกเปลี่ยนสิทธิ์ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์นั้นในราคาและเวลาที่ตกลงไว้ล่วงหน้า ในประเทศไทย ตลาดอนุพันธ์อย่าง ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (TFEX) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้กลายเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับการซื้อขายออฟชั่น ทำให้ผู้ลงทุนเข้าถึงได้อย่างถูกต้องและมีมาตรฐาน บทความนี้จะพาคุณสำรวจทุกมุมมองของการเทรดออฟชั่น ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงกลยุทธ์ ข้อควรระวัง และเคล็ดลับในตลาดไทย เพื่อให้คุณเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ
พื้นฐานสำคัญของออฟชั่น: คอลและพุท
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเทรดออฟชั่นคือการเข้าใจคอลออฟชั่นและพุทออฟชั่น ซึ่งเป็นสองประเภทหลักที่กำหนดสิทธิ์และหน้าที่ให้กับผู้ซื้อและผู้ขายแต่ละฝ่าย ต่างกันไปตามการคาดการณ์ทิศทางตลาด

คอลออฟชั่น
คอลออฟชั่นคือสิทธิ์ในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงที่ราคาที่กำหนดไว้ภายในเวลาที่ระบุ
- ผู้ซื้อคอลออฟชั่น: ถ้าคิดว่าราคาสินทรัพย์จะขึ้น คุณสามารถซื้อในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดในอนาคตได้ ถ้าราคาขึ้นจริง กำไรก็จะตามมา แต่ถ้าลงหรือนิ่ง ขาดทุนสูงสุดแค่ค่าพรีเมียมที่จ่ายไป
- ผู้ขายคอลออฟชั่น: ถ้าคิดว่าราคาจะลงหรือนิ่ง คุณต้องรับผิดชอบขายสินทรัพย์ในราคาที่กำหนด ถ้าผู้ซื้อใช้สิทธิ์ ถ้าราคาไม่ขึ้น ผู้ขายได้กำไรจากพรีเมียม แต่ถ้าขึ้นแรง เสี่ยงขาดทุนไม่จำกัด
พุทออฟชั่น
พุทออฟชั่นคือสิทธิ์ในการขายสินทรัพย์อ้างอิงที่ราคาที่กำหนดไว้ภายในเวลาที่ระบุ
- ผู้ซื้อพุทออฟชั่น: ถ้าคิดว่าราคาสินทรัพย์จะลง คุณสามารถขายในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดในอนาคตได้ ถ้าลงจริง กำไรก็จะเกิด แต่ถ้าขึ้นหรือนิ่ง ขาดทุนสูงสุดแค่ค่าพรีเมียม
- ผู้ขายพุทออฟชั่น: ถ้าคิดว่าราคาจะขึ้นหรือนิ่ง คุณต้องรับผิดชอบซื้อสินทรัพย์ในราคาที่กำหนด ถ้าผู้ซื้อใช้สิทธิ์ ถ้าราคาไม่ลง ผู้ขายได้กำไรจากพรีเมียม แต่ถ้าลงแรง เสี่ยงขาดทุนไม่จำกัด
เมื่อคุณชำนาญความแตกต่างระหว่างคอลและพุท รวมถึงบทบาทของผู้ซื้อผู้ขาย ก็จะวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดที่เคลื่อนไหวรวดเร็วอย่างไทย
เจาะลึกศัพท์เฉพาะที่นักเทรดออฟชั่นควรรู้
การเทรดออฟชั่นเต็มไปด้วยคำศัพท์เฉพาะที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์และตัดสินใจได้เฉียบคมยิ่งขึ้น เรามาดูคำสำคัญๆ ที่ควรจดจำกัน

| ศัพท์เฉพาะ (ภาษาไทย) | ศัพท์เฉพาะ (ภาษาอังกฤษ) | ความหมาย |
|---|---|---|
| สัญญาออฟชั่น | Option Contract | สัญญาที่ให้สิทธิในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง |
| สินทรัพย์อ้างอิง | Underlying Asset | สินทรัพย์ที่สัญญาออฟชั่นอ้างอิงถึง เช่น SET50 Index, หุ้นรายตัว |
| ราคาใช้สิทธิ | Strike Price | ราคาที่ผู้ซื้อออฟชั่นสามารถใช้สิทธิซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง |
| วันหมดอายุ | Expiration Date | วันที่สัญญาออฟชั่นจะสิ้นสุดลง หลังจากวันนี้ สัญญาจะหมดอายุและไม่มีผลอีกต่อไป |
| พรีเมียม | Premium | ราคาของสัญญาออฟชั่นที่ผู้ซื้อจ่ายให้กับผู้ขาย เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ |
| สถานะของออฟชั่น | Moneyness (ITM, ATM, OTM) |
|
| มูลค่าภายใน | Intrinsic Value | มูลค่าที่แท้จริงของออฟชั่น ซึ่งคำนวณจากความแตกต่างระหว่างราคาตลาดและราคาใช้สิทธิ |
| มูลค่าตามเวลา | Time Value | ส่วนของพรีเมียมที่เกินกว่ามูลค่าภายใน ซึ่งจะลดลงเมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุ |
คำศัพท์เหล่านี้ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่ช่วยให้คุณอ่านกราฟและตัดสินใจได้รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อตลาดไทยมีความผันผวนจากปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศ
ข้อดีและข้อควรระวังของการเทรดออฟชั่นในตลาดไทย
ก่อนจะลงสนามจริง นักลงทุนควรชั่งน้ำหนักทั้งโอกาสและอุปสรรคของการเทรดออฟชั่นในบริบทตลาดไทย ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากกฎระเบียบและสภาพเศรษฐกิจ
ข้อดีของการเทรดออฟชั่น
- เลเวอเรจที่ช่วยเพิ่มกำไรจากทุนน้อย: คุณสามารถควบคุมสินทรัพย์มูลค่าสูงด้วยเงินลงทุนไม่มาก ถ้าทายทิศทางถูก ผลตอบแทนอาจพุ่งสูง เช่น ใช้เงินหลักพันควบคุมดัชนี SET50 ได้
- ป้องกันความเสี่ยงได้ดี: ใช้ออฟชั่นปกป้องพอร์ตหุ้นจากความผันผวน เช่น ซื้อพุทเพื่อรับมือราคาหุ้นที่ถืออยู่ตกต่ำ ช่วยให้หลับสนิทแม้ตลาดปั่นป่วน
- กลยุทธ์หลากหลายตามสถานการณ์: ไม่ว่าจะตลาดขึ้น ลง หรือแกว่งตัว ก็มีวิธีปรับใช้ เช่น รวมคอลและพุทเพื่อเก็งกำไรจากความไม่แน่นอน
- ทำเงินได้ทุกทิศทาง: ตลาดไทยที่บางครั้งขึ้นลงชัดเจน ทำให้ออฟชั่นช่วยให้คุณพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้เสมอ
ข้อควรระวังและปัจจัยความเสี่ยง
- ผลกระทบจากเวลา: มูลค่าออฟชั่นลดลงตามกาลเวลา โดยเฉพาะใกล้หมดอายุ ซึ่งเป็นดาบสองคมสำหรับผู้ซื้อที่ถือยาวเกินไป
- ความผันผวนที่คาดเดายาก: ราคาออฟชั่นขึ้นลงตามความปั่นป่วนของสินทรัพย์ ถ้าผันผวนน้อยลง มูลค่าอาจหายวับไปแม้ทิศทางถูก
- เสี่ยงสูญทุนทั้งหมด: ถ้าออฟชั่นหมดอายุโดยไม่เข้าเป้า ผู้ซื้อเสียพรีเมียมเต็มๆ โดยไม่มีทางเรียกคืน
- ต้องใช้ความรู้สูง: ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น เวลา ความผันผวน และกลยุทธ์ ถ้าไม่ชำนาญ อาจพลาดง่ายในตลาดไทยที่ข้อมูลไหลเวียนเร็ว
การพิจารณาข้อดีข้อเสียเหล่านี้ช่วยให้คุณวางแผนได้สมดุล โดยเฉพาะเมื่อตลาดไทยได้รับอิทธิพลจากข่าวเศรษฐกิจโลกและในประเทศ
เริ่มต้นเทรดออฟชั่นในประเทศไทย: ขั้นตอนและสิ่งที่ต้องเตรียม
ถ้าคุณชาวไทยอยากลองเทรดออฟชั่น ขั้นตอนเริ่มต้นไม่ยาก แต่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมตามกฎตลาดไทย
การเปิดบัญชีเทรดอนุพันธ์กับโบรกเกอร์ไทย
คุณต้องเปิดบัญชีอนุพันธ์กับโบรกเกอร์ที่ ก.ล.ต. รับรองและเป็นสมาชิก TFEX เพื่อความปลอดภัย
- เลือกโบรกเกอร์ให้เหมาะ: ดูค่าธรรมเนียม ความเสถียรของแอป เครื่องมือวิเคราะห์ และบริการช่วยเหลือ เช่น InnovestX หรือ Dime ที่ใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่ KGI และ Phillip Securities ก็เป็นตัวเลือกยอดนิยม
- เตรียมเอกสารพื้นฐาน: บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน บัญชีธนาคาร และหลักฐานรายได้ คล้ายกับเปิดบัญชีหุ้น
- สมัครออนไลน์หรือไปสาขา: กรอกฟอร์มให้ครบ แล้วรอตรวจสอบ
- ทดสอบความเหมาะสม: โบรกเกอร์จะให้ทำแบบทดสอบเพื่อยืนยันว่าคุณเข้าใจความเสี่ยง
- รับบัญชีใช้งาน: เมื่ออนุมัติ คุณได้รหัสเข้าสู่ระบบทันที
กระบวนการนี้ช่วยให้คุณเริ่มได้เร็ว โดยโบรกเกอร์ไทยมักมีคู่มือช่วยเหลือเฉพาะสำหรับออฟชั่น
ทำความเข้าใจบทบาทของ TFEX ในตลาดออฟชั่นไทย
TFEX คือตลาดอนุพันธ์หลักของไทยที่จัดการซื้อขายออฟชั่นอย่างเป็นระบบ
- เป็นตลาดกลาง: จัดการซื้อขายโปร่งใส เช่น ออฟชั่น SET50 ที่อ้างอิงดัชนีหลัก
- กำกับดูแล: ภายใต้ ก.ล.ต. เพื่อความยุติธรรมและปกป้องนักลงทุน
- ชำระและส่งมอบ: ใช้ TCH ลดความเสี่ยงผิดนัด ช่วยให้มั่นใจในธุรกรรม
ด้วย TFEX การเทรดออฟชั่นในไทยจึงน่าเชื่อถือและสอดคล้องกฎหมาย ทำให้คุณโฟกัสที่กลยุทธ์ได้เต็มที่
กลยุทธ์การเทรดออฟชั่นเบื้องต้นสำหรับนักลงทุนไทย
สำหรับมือใหม่ เริ่มจากกลยุทธ์ง่ายๆ เพื่อสร้างฐานและลดความผิดพลาด โดยปรับให้เข้ากับตลาดไทยที่ SET50 เป็นสินค้าหลัก
1. ซื้อคอลออฟชั่น
- เหมาะเมื่อ: คาดว่าราคาจะพุ่งขึ้นชัดเจน
- ผลลัพธ์: กำไรไม่จำกัดถ้าขึ้นแรง ขาดทุนจำกัดแค่พรีเมียม
- ตัวอย่าง: ถ้าคิดว่า SET50 จะบวกแรง ซื้อคอลที่ราคาใกล้เคียงปัจจุบัน เพื่อเก็งจากข่าวเศรษฐกิจดี
2. ซื้อพุทออฟชั่น
- เหมาะเมื่อ: คาดว่าราคาจะร่วงลงชัดเจน
- ผลลัพธ์: กำไรไม่จำกัดถ้าลงแรง ขาดทุนจำกัดแค่พรีเมียม
- ตัวอย่าง: ถ้าคิดว่า SET50 จะติดลบจากข่าวร้าย ซื้อพุทที่ราคาใกล้เคียง เพื่อป้องกันหรือเก็งกำไร
3. ขายคอลออฟชั่นแบบมีหลักประกัน
- เหมาะเมื่อ: ถือหุ้นอยู่แล้วและคาดว่าราคาจะนิ่งหรือขึ้นเบาๆ เพื่อรับรายได้พิเศษ
- ผลลัพธ์: กำไรจำกัดจากพรีเมียม เสี่ยงจำกัดเพราะมีหุ้นค้ำ แต่ถ้าขึ้นแรง หุ้นอาจถูกขาย
- ตัวอย่าง: ถือหุ้น A 1,000 หุ้น ขายคอล 10 สัญญา (1 สัญญา=100 หุ้น) รับพรีเมียมเพิ่ม โดยไม่เสี่ยงมาก
กลยุทธ์เหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ลองฝึกในบัญชีทดลองเพื่อเห็นภาพจริง โดยเฉพาะกับข้อมูลตลาดไทยที่อัปเดตทุกวัน
ภาษีกับการเทรดออฟชั่นในประเทศไทย: สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้
ภาษีเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในการวางแผนลงทุนออฟชั่น เพื่อให้ทุกอย่างถูกกฎหมายและประหยัดได้เต็มที่
ตามกฎหมายไทยปี 2566-2567 กำไรจากสัญญาอนุพันธ์อย่างออฟชั่นใน TFEX ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรทุน คล้ายกับหุ้นใน SET
แต่ยังมีรายละเอียดที่ควรรู้:
- กำไรทุน: จากการขายออฟชั่นที่ราคาดีกว่า ยกเว้นภาษีบุคคลธรรมดา
- เงินปันผลหรือดอกเบี้ย: ถ้าสินทรัพย์อ้างอิงจ่ายปันผลหรือมีดอกเบี้ยจากเงินมัดจำ อาจต้องเสียภาษีตามประเภท
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม: การซื้อขายใน TFEX มักไม่เสีย VAT
ตัวอย่าง: ซื้อคอลที่ 5,000 บาท ขายที่ 8,000 บาท กำไร 3,000 บาท ไม่เสียภาษีบุคคลธรรมดา
อย่างไรก็ตาม กฎอาจเปลี่ยน ควรเช็คกับกรมสรรพากรหรือที่ปรึกษาภาษีเสมอ เพื่ออัปเดตข้อมูลล่าสุด
ข้อควรระวังและกับดักที่พบบ่อยสำหรับมือใหม่ในตลาดออฟชั่นไทย
จากประสบการณ์ในชุมชนอย่าง Pantip หรือฟอรัมนักลงทุนไทย มือใหม่มักเจอปัญหาเหล่านี้ที่ทำให้พลาดโอกาส
- มองข้ามเวลาเสื่อมค่า: ถือออฟชั่นนานเกินโดยไม่รู้ว่ามูลค่าลดลง แม้ทิศทางถูกแต่ไม่แรงพอ ก็ขาดทุนได้
- ใช้เลเวอเรจเกินตัว: ทุนน้อยแต่กำไรสูงดึงดูด แต่ถ้าผิดพลาด ขาดทุนหนัก อย่าทุ่มหมดกับสัญญาเดียว
- ไม่มีแผนจัดการความเสี่ยง: ขาดจุด stop loss หรือ take profit ทำให้ตัดสินใจด้วยอารมณ์ สูญทุนเกินคาด
- ตามกระแสโดยไม่วิเคราะห์: ซื้อขายตามข่าวโซเชียลโดยไม่เช็คพื้นฐานหรือเทคนิค เสี่ยงติดกับดัก
- ไม่เข้าใจสถานะออฟชั่น: เลือก ITM ATM OTM โดยไม่รู้ความแตกต่าง เช่น OTM ถูกแต่เสี่ยงสูงจากเวลา
- หยุดเรียนรู้: ตลาดเปลี่ยนตลอด ต้องฝึกต่อเนื่องผ่าน paper trading ก่อนลงทุนจริง
หลีกเลี่ยงได้ด้วยวินัยและการศึกษาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในตลาดไทยที่ข่าวสารไหลเร็ว
สรุป: ก้าวแรกสู่การเทรดออฟชั่นอย่างมั่นใจในตลาดไทย
การเทรดออฟชั่นเปิดโอกาสสร้างกำไรและคุมความเสี่ยงในตลาดไทยได้ดี แต่ความซับซ้อนและเลเวอเรจสูงต้องแลกกับความระมัดระวัง การรู้จักคอลพุท คำศัพท์สำคัญ ข้อดีข้อเสีย และกับดักทั่วไป จะเป็นฐานที่มั่นคง
เริ่มต้นด้วยการศึกษาลึก เลือกโบรกเกอร์ดี เข้าใจ TFEX และบริหารความเสี่ยงอย่างมีวินัย ลอง paper trading ก่อนลงทุนจริงเพื่อทดสอบกลยุทธ์ เมื่อมั่นใจแล้ว ค่อยขยับไปสู่การเทรดจริง
จำไว้ว่าการลงทุนเสี่ยง ศึกษาดีๆ อย่าลงเกินตัว และเรียนรู้ตลอดชีวิต ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรดออฟชั่นในตลาดไทย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเทรดออฟชั่นในประเทศไทย (FAQ)
เทรดออฟชั่นในไทย ต้องมีเงินทุนเริ่มต้นเท่าไหร่?
เงินทุนเริ่มต้นสำหรับการเทรดออฟชั่นในไทยสามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์และประเภทของสัญญาที่คุณเลือก สำหรับ SET50 Index Option ซึ่งเป็นที่นิยมใน TFEX คุณอาจเริ่มต้นได้ด้วยเงินหลักพันบาทถึงหลักหมื่นบาทสำหรับการซื้อ 1 สัญญา แต่ควรมีเงินทุนสำรองเพิ่มเติมสำหรับการบริหารความเสี่ยง
โบรกเกอร์ไทยเจ้าไหนดีสำหรับการเทรดออฟชั่นมือใหม่?
สำหรับมือใหม่ โบรกเกอร์ที่ควรพิจารณาคือ InnovestX, Dime, KGI และ Phillip Securities ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีแพลตฟอร์มใช้งานง่าย มีบทความหรือคอร์สเรียนสำหรับมือใหม่ ค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผล และมีทีมงานคอยให้คำแนะนำ
การเทรดออฟชั่นมีภาษีกำไรไหมในประเทศไทย?
ปัจจุบัน กำไรจากการซื้อขายสัญญาอนุพันธ์ เช่น ออฟชั่น ที่ซื้อขายใน TFEX ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรส่วนทุน (Capital Gain) อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากกรมสรรพากรอีกครั้ง เนื่องจากกฎหมายอาจมีการเปลี่ยนแปลง
TFEX คืออะไร และเกี่ยวข้องกับการเทรดออฟชั่นอย่างไร?
TFEX (Thailand Futures Exchange) คือ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแห่งประเทศไทย เป็นตลาดหลักที่นักลงทุนไทยใช้ในการซื้อขายสัญญาอนุพันธ์ต่างๆ รวมถึงออฟชั่น TFEX ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขาย กำหนดกฎระเบียบ และดูแลให้การซื้อขายเป็นไปอย่างยุติธรรมและมีประสิทธิภาพ
เทรดออฟชั่นกับหุ้นต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหน?
- หุ้น: คือการเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท มีสิทธิในเงินปันผลและมูลค่าบริษัทที่เติบโต
- ออฟชั่น: คือ “สิทธิ” ที่จะซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง (เช่น หุ้นหรือดัชนี) ในราคาและเวลาที่กำหนด ไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์โดยตรง
ออฟชั่นมีความซับซ้อนกว่า มีเลเวอเรจสูงกว่า และมีวันหมดอายุ หากเป็นมือใหม่และรับความเสี่ยงได้น้อย ควรเริ่มต้นจากหุ้นก่อน แต่หากเข้าใจความเสี่ยงและต้องการเครื่องมือที่ยืดหยุ่นกว่า ออฟชั่นก็เป็นทางเลือกที่ดี
มีเครื่องมือหรือโปรแกรมช่วยวิเคราะห์ออฟชั่นสำหรับนักลงทุนไทยบ้างไหม?
มีเครื่องมือและโปรแกรมวิเคราะห์ออฟชั่นหลายอย่าง บางโบรกเกอร์มีโปรแกรมเทรดที่มีฟังก์ชันวิเคราะห์ในตัว เช่น การดู Option Chain, การคำนวณ Greeks (Delta, Gamma, Theta, Vega) นอกจากนี้ ยังมีเว็บไซต์และโปรแกรมภายนอกที่ช่วยวิเคราะห์ได้ ซึ่งบางส่วนอาจมีค่าใช้จ่าย ควรศึกษาและทดลองใช้ให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของคุณ
ควรเริ่มต้นเทรดออฟชั่นด้วยกลยุทธ์แบบไหนดีสำหรับมือใหม่?
สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์พื้นฐานที่มีความเสี่ยงจำกัด เช่น การซื้อ Call Option หรือซื้อ Put Option เพื่อทำกำไรจากทิศทางตลาดที่คาดการณ์ และการขาย Covered Call เพื่อสร้างรายรับเพิ่มจากหุ้นที่ถืออยู่ ควรหลีกเลี่ยงกลยุทธ์ที่ซับซ้อนในช่วงแรก
การเทรดออฟชั่นบนมือถือในไทย ปลอดภัยหรือไม่?
การเทรดออฟชั่นบนมือถือมีความปลอดภัยหากคุณใช้แอปพลิเคชันจากโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตและเชื่อถือได้ และมีการรักษาความปลอดภัยของบัญชีที่ดี (เช่น ตั้งรหัสผ่านที่รัดกุม, เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองชั้น) อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในการใช้งานเครือข่าย Wi-Fi สาธารณะและตรวจสอบข้อมูลก่อนยืนยันคำสั่งซื้อขายเสมอ
ถ้าขาดทุนจากการเทรดออฟชั่นในไทย สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้หรือไม่?
เนื่องจากกำไรจากการเทรดออฟชั่นได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การขาดทุนจากการเทรดออฟชั่นจึงไม่สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้
ออฟชั่นหมดอายุแล้วเกิดอะไรขึ้น และควรทำอย่างไร?
เมื่อออฟชั่นหมดอายุและไม่ได้ถูกใช้สิทธิ (เช่น Out-of-the-money) สัญญานั้นจะไม่มีมูลค่าและสิ้นสุดลง ผู้ซื้อจะสูญเสียพรีเมียมที่จ่ายไปทั้งหมด หากออฟชั่นเป็น In-the-money โบรกเกอร์ส่วนใหญ่อาจดำเนินการใช้สิทธิให้อัตโนมัติ (Auto Exercise) แต่ผู้ลงทุนควรติดตามสถานะและดำเนินการปิดสถานะก่อนหมดอายุหากไม่ต้องการใช้สิทธิหรือไม่ต้องการให้เกิดการส่งมอบ