usd/jpy วิเคราะห์: คู่เงินหลักน่าจับตา! เรียนรู้ปัจจัยขับเคลื่อนและกลยุทธ์เทรด

สรุปข่าวฟอเร็กซ์

USD/JPY คืออะไร? ทำไมคู่นี้ถึงน่าจับตาสำหรับเทรดเดอร์

คู่สกุลเงิน USD/JPY ถือเป็นหนึ่งในคู่สกุลเงินหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการซื้อขายบนตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั่วโลก โดยประกอบด้วยดอลลาร์สหรัฐซึ่งทำหน้าที่เป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลก และเยนญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับในฐานะสกุลเงินหลุมหลบภัย เมื่อเกิดสถานการณ์เศรษฐกิจหรือความตึงเครียดทางการเมืองระดับนานาชาติ การเข้าใจถึงรากฐานของคู่นี้จึงกลายเป็นส่วนสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่อยากเข้าร่วมในตลาดนี้

USD/JPY currency pair global interaction safe haven JPY strong USD

ด้วยสภาพคล่องที่สูงมาก คู่นี้จึงช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดหรือปิดตำแหน่งได้อย่างสะดวก และราคามักปรับตัวตอบสนองต่อข่าวสารหรือตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาอย่างรวดเร็ว สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย การติดตามการเคลื่อนไหวของ USD/JPY ไม่ได้เปิดโอกาสทำกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มองเห็นภาพรวมของเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจกระทบต่อเศรษฐกิจในเอเชียอย่างอ้อมๆ คู่นี้เปรียบเสมือนตัวชี้วัดความเชื่อมั่นในตลาด โดยสะท้อนความเชื่อมโยงระหว่างสองเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ที่มีน้ำหนักต่อการค้าและการลงทุนทั่วโลก

US Japan economic indicators USD/JPY chart global events

ปัจจัยพื้นฐานที่ขับเคลื่อน USD/JPY

อัตราแลกเปลี่ยนของ USD/JPY ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐและญี่ปุ่น หรือเหตุการณ์ระดับโลก การชำนาญในด้านเหล่านี้จะช่วยให้เทรดเดอร์วิเคราะห์ทิศทางของคู่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อปัจจัยเหล่านี้มารวมกันและสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด

Fed BOJ interest rates affecting USD/JPY

นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)

นโยบายจากธนาคารกลางทั้งสองแห่งเป็นตัวกำหนดทิศทางหลักของสกุลเงินที่เกี่ยวข้อง
สำหรับธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแกร่งของดอลลาร์ หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย ดอลลาร์มักจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเพราะดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่า ในทางตรงกันข้าม ถ้าธนาคารกลางเลือกลดดอกเบี้ยหรือใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบผ่อนคลาย เช่น การอัดฉีดเงินจำนวนมาก ดอลลาร์ก็อาจอ่อนตัวลง

ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจ มีแนวทางที่แตกต่าง โดยมุ่งเน้นนโยบายผ่อนคลายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและรับมือกับปัญหาเงินฝืดที่ยืดเยื้อ เครื่องมือหลักที่ใช้คือการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนและดอกเบี้ยติดลบ หากเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น สัญญาณว่าจะหยุดควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนหรือปรับดอกเบี้ยขึ้น ค่าเงินเยนจะปรับตัวอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองประเทศยังเป็นแรงผลักดันสำคัญสำหรับกลยุทธ์เทรดแบบถือยาว ถ้าดอกเบี้ยในสหรัฐสูงกว่า นักลงทุนอาจยืมเงินเยนที่ต้นทุนต่ำแล้วไปลงทุนในสินทรัพย์ดอลลาร์ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า สิ่งนี้จะเพิ่มความต้องการดอลลาร์และกดดันให้เยนอ่อนลง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดสงบ

ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ และญี่ปุ่น

ตัวเลขเศรษฐกิจที่เผยแพร่เป็นประจำส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการเคลื่อนไหวของ USD/JPY โดยตรง
ในฝั่งสหรัฐ ตัวชี้วัดที่ต้องระวัง ได้แก่ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่บอกถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ดัชนีราคาสินค้าที่ผู้บริโภคซื้อซึ่งสะท้อนอัตราเงินเฟ้อ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แสดงถึงสุขภาพของตลาดแรงงาน และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่บ่งบอกกิจกรรมธุรกิจโดยรวม

สำหรับญี่ปุ่น ข้อมูลหลักคือดัชนีราคาสินค้าที่ผู้บริโภคซื้อซึ่งเป็นตัววัดเงินเฟ้อ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่บอกการเติบโต และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม หากตัวเลขเหล่านี้ดีหรือแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ มักนำไปสู่ความผันผวนในคู่นี้ คุณสามารถติดตามข้อมูลเหล่านี้ได้จาก ปฏิทินเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยให้วางแผนการเทรดล่วงหน้าได้ดี

ตารางสรุปข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญและผลกระทบเบื้องต้น:
| ข้อมูลเศรษฐกิจ | สกุลเงิน | ผลกระทบเมื่อดีกว่าคาด | ผลกระทบเมื่อแย่กว่าคาด |
| :————– | :——- | :——————— | :——————– |
| GDP | USD/JPY | สกุลเงินนั้นแข็งค่า | สกุลเงินนั้นอ่อนค่า |
| CPI | USD/JPY | สกุลเงินนั้นแข็งค่า | สกุลเงินนั้นอ่อนค่า |
| NFP (สหรัฐฯ) | USD | USD แข็งค่า | USD อ่อนค่า |
| PMI | USD/JPY | สกุลเงินนั้นแข็งค่า | สกุลเงินนั้นอ่อนค่า |

ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และความเสี่ยงทั่วโลก

เยนญี่ปุ่นในฐานะสกุลเงินหลุมหลบภัย มักแข็งค่าขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอน เช่น สงคราม การค้าที่ขัดแย้ง หรือความตึงเครียดระหว่างชาติ ธนาคารกลางญี่ปุ่น จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในช่วงเหล่านี้ เพราะนักลงทุนมักถอนทุนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นหรือเงินเยน การแข็งค่าของเยนในสถานการณ์แบบนี้ทำให้ USD/JPY ลดลง แต่ถ้าสถานการณ์โลกคลี่คลายหรือเศรษฐกิจฟื้นตัว ความต้องการเยนในฐานะหลุมหลบภัยก็ลดลง ส่งผลให้คู่นี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อนักลงทุนหันกลับไปเสี่ยงมากขึ้น

การวิเคราะห์ทางเทคนิค USD/JPY: เครื่องมือและวิธีการ

การวิเคราะห์ทางเทคนิคอาศัยข้อมูลราคาในอดีตเพื่อทำนายการเคลื่อนไหวในอนาคต สำหรับ USD/JPY การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยให้เทรดเดอร์ค้นพบโอกาสเข้า-ออกตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากพื้นฐานแล้วค่อยขยายไปสู่ตัวชี้วัดขั้นสูง

ทำความเข้าใจกราฟราคา USD/JPY

กราฟแท่งเทียนเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับแสดงราคา USD/JPY แต่ละแท่งจะสรุปราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด ช่วยให้เห็นภาพรวมของการเคลื่อนไหวได้ทันที เทรดเดอร์สามารถปรับกรอบเวลาได้หลากหลาย เช่น นาที ชั่วโมง สี่ชั่วโมง วัน หรือสัปดาห์ การดูหลายกรอบเวลาจะช่วยให้เข้าใจแนวโน้มทั้งระยะสั้นและยาวได้ดีกว่า ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม TradingView เป็นเครื่องมือที่เทรดเดอร์ทั่วโลกชื่นชอบเพราะใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ครบครัน

แนวรับ-แนวต้าน และเส้นแนวโน้ม (Support/Resistance & Trendlines)

แนวรับคือระดับราคาที่ผู้ซื้อมีพลังมากกว่าผู้ขาย ทำให้ราคามักเด้งกลับขึ้นจากจุดนั้น ในขณะที่แนวต้านคือจุดที่ผู้ขายครอง ทำให้ราคาหยุดชะงักและอาจ掉ลง การหาแนวรับแนวต้านที่แข็งแกร่งช่วยกำหนดจุดเข้า จุดออก และจุดหยุดขาดทุนได้แม่นยำ โดยเฉพาะเมื่อรวมกับปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันความสำคัญ

เส้นแนวโน้มคือเส้นที่เชื่อมจุดสูงสุดหรือต่ำสุดสำคัญ เพื่อแสดงทิศทางหลักของตลาด ถ้าราคาทำจุดสูงใหม่เรื่อยๆ คือแนวโน้มขาขึ้น และถ้าทำจุดต่ำใหม่คือขาลง เส้นนี้ไม่เพียงยืนยันแนวโน้ม แต่ยังช่วยหาจุดที่อาจเกิดการกลับตัว โดยเทรดเดอร์ควรลากเส้นให้ผ่านจุดอย่างน้อยสามจุดเพื่อความน่าเชื่อถือ

ตัวชี้วัดทางเทคนิคยอดนิยมสำหรับการวิเคราะห์ USD/JPY

ตัวชี้วัดเหล่านี้ช่วยยืนยันสัญญาณจากกราฟเปล่า ทำให้การตัดสินใจเทรดมีน้ำหนักมากขึ้น
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งแบบเอกซ์โพเนนเชียลและแบบเรียบง่าย ใช้หาแนวโน้มและจุดกลับตัว การตัดกันของเส้นสองเส้น เช่น การตัดขึ้นที่เรียกว่าทองคำข้าม หรือตัดลงที่เรียกว่าข้ามมรณะ มักเป็นสัญญาณซื้อหรือขายที่ชัดเจน

ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์วัดความเร็วของราคาและบอกภาวะซื้อมากเกินหรือขายมากเกิน ถ้าค่าอยู่เหนือ 70 อาจถึงจุดซื้อมากเกิน และต่ำกว่า 30 คือขายมากเกิน ซึ่งช่วยเตือนให้ระวังการกลับตัว

MACD แสดงโมเมนตัมผ่านความสัมพันธ์ของเส้นค่าเฉลี่ยสองเส้น สัญญาณเกิดเมื่อเส้นหลักตัดเส้นสัญญาณ โดยตัดขึ้นคือซื้อ ตัดลงคือขาย

แถบโบลลิงเกอร์ประกอบด้วยเส้นกลางและแถบสองข้างที่บอกความผันผวน ถ้าแถบกว้างคือผันผวนสูง แคบคือต่ำ ราคาที่แตะแถบล่างหรือบนอาจบ่งบอกจุดซื้อหรือขาย หรือการเปลี่ยนแนวโน้ม โดยเฉพาะเมื่อรวมกับตัวชี้วัดอื่น

ตารางสรุปตัวชี้วัดทางเทคนิคและสัญญาณ:
| ตัวชี้วัด | สัญญาณซื้อ | สัญญาณขาย |
| :—————- | :————————— | :————————— |
| MA (Golden Cross) | MA สั้นตัด MA ยาวขึ้น | MA สั้นตัด MA ยาวลง |
| RSI | ต่ำกว่า 30 และเริ่มกลับตัวขึ้น | สูงกว่า 70 และเริ่มกลับตัวลง |
| MACD | MACD ตัด Signal Line ขึ้น | MACD ตัด Signal Line ลง |
| Bollinger Bands | ราคาแตะแถบล่าง | ราคาแตะแถบบน |

กลยุทธ์การเทรด USD/JPY: การผสมผสานพื้นฐานและเทคนิค

เพื่อความสำเร็จในการเทรด USD/JPY เทรดเดอร์ควรรวมการวิเคราะห์พื้นฐานเข้ากับเทคนิค ซึ่งให้มุมมองที่สมบูรณ์และช่วยลดความเสี่ยงจากปัจจัยเดี่ยวๆ โดยกลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับตลาดที่ผันผวนสูงอย่างคู่นี้

การผสมผสานการวิเคราะห์พื้นฐานและเทคนิค

เทรดเดอร์ควรเฝ้าดูเหตุการณ์สำคัญ เช่น การประชุมนโยบายของเฟดหรือบีโอเจ หรือรายงานการจ้างงานสหรัฐ ซึ่งมักจุดชนวนให้ราคาเคลื่อนไหวรุนแรง จากนั้นใช้เทคนิคยืนยัน เช่น ถ้าเฟดมีท่าทีแข็งกร้าวที่บ่งชี้ดอลลาร์จะแข็ง เทรดเดอร์อาจรอสัญญาณซื้อทางเทคนิคอย่างการทะลุแนวต้านหรือการตัดขึ้นของเส้นค่าเฉลี่ย เพื่อเข้าเทรดอย่างมั่นใจ

การวางแผนล่วงหน้าที่พิจารณาทั้งข่าวและระดับราคาจะเพิ่มโอกาสชนะ ถ้ามีเหตุการณ์ใหญ่ใกล้เข้ามา การลดขนาดตำแหน่งหรือเว้นช่วงเทรดอาจช่วยหลีกเลี่ยงความผันผวนที่คาดเดายาก โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดคาดหวังข่าวร้ายหรือดีเกินจริง

การบริหารความเสี่ยงสำหรับเทรดเดอร์ไทย

การจัดการความเสี่ยงเป็นหัวใจของการเทรดฟอเร็กซ์ โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ไทยที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับความซับซ้อนของตลาดนี้ การละเลยด้านนี้มักนำไปสู่ความสูญเสียที่ไม่จำเป็น ดังนั้นควรสร้างนิสัยที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น

เคล็ดลับการบริหารความเสี่ยงสำหรับเทรดเดอร์ไทย

การตั้งจุดหยุดขาดทุนและจุดทำกำไรทุกครั้งเป็นกฎเหล็ก เพื่อจำกัดการเสียหายและล็อกกำไร โดยจุดหยุดขาดทุนไม่ควรยึดแค่แนวรับแนวต้าน แต่คำนวณจากความผันผวนเฉลี่ยของคู่นี้ เช่น ใช้ ATR เพื่อปรับให้เหมาะสม

การจัดการเงินทุนคือไม่เสี่ยงเกิน 1-2% ของทุนทั้งหมดต่อเทรด ถ้ามีทุน 10,000 บาท ก็จำกัดการขาดทุนไว้ที่ 100-200 บาทต่อครั้ง สิ่งนี้ช่วยให้อยู่รอดในตลาดได้ยาวนาน แม้เจอช่วงขาดทุนติดๆ กัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน

เลเวอเรจเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังแต่เสี่ยงสูง เพราะช่วยควบคุมตำแหน่งใหญ่ด้วยทุนน้อย แต่ก็ขยายการขาดทุนได้เช่นกัน สำหรับมือใหม่ชาวไทย เริ่มด้วยเลเวอเรจต่ำอย่าง 1:100 และศึกษาผลกระทบให้ละเอียดก่อนเพิ่มระดับ โดยเฉพาะเมื่อเทรดคู่ที่มีข่าวบ่อยอย่าง USD/JPY

หลีกเลี่ยงการเทรดเกินตัวหรือไล่ตามราคาที่พุ่งแรง ซึ่งเกิดจากความกลัวพลาดโอกาส มักนำไปสู่การตัดสินใจ impulsively แนะนำให้ยึดแผนที่วางไว้และรอจังหวะที่ตรงตามเงื่อนไข เพื่อรักษาวินัยในระยะยาว

จิตวิทยาการเทรด: การควบคุมอารมณ์ในตลาด USD/JPY

นอกจากความรู้เชิงเทคนิคและพื้นฐาน จิตวิทยาการเทรดก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะอารมณ์อย่างความกลัวหรือความโลภสามารถบิดเบือนการตัดสินใจได้ โดยเฉพาะในตลาดที่เคลื่อนไหวเร็วอย่าง USD/JPY การฝึกควบคุมจึงเป็นกุญแจสู่ความยั่งยืน

การควบคุมอารมณ์ในตลาด USD/JPY

ความกลัวมักทำให้ปิดกำไรเร็วเกินไปหรือลังเลที่จะเข้าเทรดแม้สัญญาณดี ท่ามกลางความผันผวนจากข่าว ในขณะที่ความโลภอาจนำไปสู่การถือตำแหน่งนานเกินจนพลิกขาดทุน หรือเพิ่มขนาดเทรดเมื่อรู้สึกมั่นใจเกินเหตุ

เพื่อรับมือ ให้มีแผนเทรดที่ชัดเจนและยึดติดอย่างเคร่งครัด รวมถึงบันทึกทุกการเทรดเพื่อทบทวนข้อผิดพลาด การฝึกฝนแบบนี้จะช่วยสร้างวินัยและลดอิทธิพลของอารมณ์ โดยเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมักเน้นกระบวนการมากกว่าผลลัพธ์เดี่ยวๆ

สรุปและแนวโน้ม USD/JPY ในอนาคต

USD/JPY ยังคงเป็นคู่สกุลเงินที่น่าลงทุนด้วยโอกาสกำไรที่หลากหลาย การวิเคราะห์อย่างครอบคลุมต้องครอบคลุมทั้งพื้นฐานอย่างนโยบายเฟดและบีโอเจ ข้อมูลเศรษฐกิจหลัก และปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงเครื่องมือเทคนิคเช่นกราฟแท่งเทียน แนวรับแนวต้าน เส้นแนวโน้ม และตัวชี้วัดอย่าง RSI MACD กับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

ในอนาคต ทิศทางของคู่นี้จะขึ้นอยู่กับช่องว่างดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่น รวมถึงความเสี่ยงโลกที่กระทบสถานะหลุมหลบภัยของเยน เทรดเดอร์ควรเตรียมรับมือความผันผวนด้วยการเรียนรู้ต่อเนื่องและวินัยในการจัดการความเสี่ยง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกำหนดความสำเร็จในตลาดนี้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ USD/JPY (FAQ)

USD/JPY วิเคราะห์วันนี้มีปัจจัยสำคัญอะไรบ้างที่ต้องติดตาม?

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในวันนี้ได้แก่ การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) นอกจากนี้ สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกก็มีผลต่อค่าเงินเยนในฐานะ Safe-Haven Currency

จะเริ่มต้นเทรด USD/JPY โดยใช้แพลตฟอร์มในประเทศไทยได้อย่างไร?

การเริ่มต้นเทรด USD/JPY ในประเทศไทยสามารถทำได้โดยการเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับความนิยมและมีใบอนุญาตที่เชื่อถือได้ จากนั้นเปิดบัญชีเทรด ฝากเงิน และดาวน์โหลดแพลตฟอร์มการเทรด เช่น MetaTrader 4 (MT4) หรือ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งโบรกเกอร์ส่วนใหญ่รองรับ คุณสามารถเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อฝึกฝนก่อนได้

กราฟ USD/JPY บน TradingView บอกอะไรเราได้บ้าง?

กราฟ USD/JPY บน TradingView สามารถบอกข้อมูลสำคัญได้มากมาย เช่น แนวโน้มราคาในกรอบเวลาต่างๆ (Uptrend, Downtrend, Sideways), ระดับแนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ, รูปแบบราคา (Chart Patterns) ที่บ่งบอกถึงการกลับตัวหรือต่อเนื่องของแนวโน้ม และคุณยังสามารถเพิ่มตัวชี้วัดทางเทคนิค (Indicators) ต่างๆ เช่น RSI, MACD, Moving Averages เพื่อเสริมการวิเคราะห์ได้อีกด้วย

มือใหม่ควรใช้ Leverage เท่าไหร่ในการเทรด USD/JPY เพื่อลดความเสี่ยง?

สำหรับมือใหม่ แนะนำให้เริ่มต้นด้วย Leverage ที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น 1:100 หรือต่ำกว่า เพื่อทำความเข้าใจกลไกของตลาดและบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ Leverage ที่สูงเกินไป เช่น 1:500 หรือ 1:1000 อาจทำให้เงินทุนหมดเร็วมากหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับที่คุณคาดการณ์

ข่าวสารเกี่ยวกับ Fed และ BOJ มีผลต่อ USD/JPY อย่างไรบ้าง?

ข่าวสารจาก Fed (ธนาคารกลางสหรัฐฯ) และ BOJ (ธนาคารกลางญี่ปุ่น) มีผลอย่างมากต่อ USD/JPY โดยเฉพาะนโยบายอัตราดอกเบี้ย หาก Fed ขึ้นดอกเบี้ย ดอลลาร์มักแข็งค่า USD/JPY มีแนวโน้มสูงขึ้น ในขณะที่หาก BOJ ส่งสัญญาณจะยุติมาตรการผ่อนคลาย เยนจะแข็งค่า USD/JPY มีแนวโน้มลดลง ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองประเทศนี้เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเคลื่อนไหวในคู่สกุลเงินนี้

ทำไม USD/JPY ถึงจัดเป็นคู่สกุลเงินที่มีความผันผวนสูง?

USD/JPY มีความผันผวนสูงเนื่องจากเป็นคู่สกุลเงินหลักที่มีสภาพคล่องสูงและตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในนโยบายการเงินระหว่าง Fed (ที่มักจะ Hawkish) และ BOJ (ที่มักจะ Dovish) รวมถึงบทบาทของเยนในฐานะ Safe-Haven Currency ที่ทำให้เกิดการไหลเข้า-ออกของเงินทุนอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน

การเทรด USD/JPY เสียภาษีในประเทศไทยหรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว กำไรที่ได้จากการเทรด Forex ถือเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม กฎหมายภาษีอาจมีการเปลี่ยนแปลงและมีความซับซ้อน แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือสำนักงานสรรพากรเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด

มีโบรกเกอร์ Forex เจ้าไหนบ้างที่คนไทยนิยมใช้เทรด USD/JPY?

โบรกเกอร์ Forex ที่คนไทยนิยมใช้เทรด USD/JPY มีหลายราย เช่น XM, Exness, FxPro, OctaFX และ IC Markets เป็นต้น การเลือกโบรกเกอร์ควรพิจารณาจากใบอนุญาต กฎระเบียบ Spread (ส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย) ค่าคอมมิชชั่น แพลตฟอร์มการเทรด และการบริการลูกค้า

ทำไมบางครั้ง USD/JPY จึงไม่เคลื่อนไหวตามข่าวเศรษฐกิจที่ประกาศ?

บางครั้ง USD/JPY อาจไม่เคลื่อนไหวตามข่าวเศรษฐกิจที่ประกาศเนื่องจากตลาดอาจได้ “Price In” (รับรู้และสะท้อนข้อมูลไปแล้ว) ล่วงหน้า หรือมีปัจจัยอื่นที่สำคัญกว่าเข้ามากดดัน เช่น ข่าวภูมิรัฐศาสตร์ที่ใหญ่กว่า หรือความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายธนาคารกลางที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ความแตกต่างระหว่างข้อมูลที่ประกาศกับที่คาดการณ์ไว้ (Actual vs. Forecast) ก็มีผลมากกว่าแค่ตัวเลขที่ประกาศออกมา

ควรดูข้อมูลเศรษฐกิจอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับ USD/JPY ในปฏิทินเศรษฐกิจ?

ข้อมูลสำคัญที่ควรดูในปฏิทินเศรษฐกิจสำหรับ USD/JPY ได้แก่ GDP, CPI, PMI, NFP (สำหรับสหรัฐฯ) และ CPI, GDP, ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (สำหรับญี่ปุ่น) รวมถึงการแถลงการณ์ของประธาน Fed และ BOJ, รายงานการประชุมของธนาคารกลางทั้งสองแห่ง และตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

發佈留言