“ถอนเงิน” คืออะไร? เข้าใจความหมายในเชิงลึก
คำว่า “ถอนเงิน” เป็นหนึ่งในคำศัพท์พื้นฐานที่ทุกคนในระบบการเงินต้องเคยใช้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในชีวิตประจำวันหรือการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างเป็นทางการ คำนี้หมายถึง การนำเงินที่เราฝากไว้ในสถาบันการเงิน เช่น ธนาคาร หรือสหกรณ์ออมทรัพย์ ออกมาใช้จ่ายหรือโอนไปยังแหล่งอื่น ซึ่งเป็นการลดยอดเงินคงเหลือในบัญชีลงตามจำนวนที่ถอนออกไป
ตามคำจำกัดความจาก พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ คำว่า “ถอน” หมายถึง การเอาออกจากรายการหรือสถานที่ที่เก็บรักษาไว้ ดังนั้น การถอนเงินจึงเป็นกระบวนการย้อนกลับจากการฝากเงิน โดยเมื่อเราดำเนินการถอน ยอดเงินในบัญชีจะลดลง และเราสามารถเลือกได้ว่าจะรับเป็นเงินสด หรือโอนไปยังบัญชีอื่นโดยตรง ไม่ว่าจะผ่านตู้ ATM, เคาน์เตอร์ธนาคาร หรือแอปพลิเคชันมือถือ

ตัวอย่างการใช้ในชีวิตจริง เช่น “วันนี้ฉันต้องไปธนาคารเพื่อถอนเงินมาจ่ายค่าเช่า” หรือ “เขาเพิ่งถอนเงินจากตู้ ATM เมื่อสักครู่” สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า “การถอนเงิน” เป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมทางการเงินที่ทุกคนทำอยู่เป็นประจำ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งใจ แต่ต้องเข้าใจให้ถูกต้องเพื่อป้องกันความผิดพลาดหรือความสูญเสีย
“ถอนเงิน” ในภาษาอังกฤษ: แยกความหมายระหว่าง Withdraw กับ Withdrawal
สำหรับผู้ที่ต้องติดต่อกับต่างชาติ หรือใช้บริการธนาคารที่มีอินเตอร์เฟซเป็นภาษาอังกฤษ การเข้าใจคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการถอนเงินจึงเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะคำว่า Withdraw และ Withdrawal ซึ่งแม้จะมาจากคำเดียวกัน แต่ใช้ต่างบทบาทในประโยค
- Withdraw (v.) เป็นคำกริยา ใช้บรรยายถึง “การกระทำ” หรือ “กระบวนการ” ในการนำเงินออกจากบัญชี เช่น “I need to withdraw 10,000 baht from my account.” (ฉันต้องการถอนเงิน 10,000 บาทจากบัญชีของฉัน) ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการกระทำที่ผู้พูดกำลังจะทำ
- Withdrawal (n.) เป็นคำนาม ใช้เพื่อหมายถึง “ธุรกรรม” หรือ “เหตุการณ์” ของการถอนเงิน รวมถึงยอดเงินที่ถูกถอนไป เช่น “There is a withdrawal of 5,000 baht on my bank statement.” (มีรายการถอนเงิน 5,000 บาทในใบแจ้งยอดของฉัน) ซึ่งใช้ในการอ้างอิงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
ความเข้าใจที่ถูกต้องในความแตกต่างนี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการอ่านเอกสารทางการเงินเท่านั้น แต่ยังทำให้การสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือการใช้แอปพลิเคชันที่เป็นภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างราบรื่นและมืออาชีพยิ่งขึ้น
ช่องทางหลักในการถอนเงิน: 3 วิธีที่ควรรู้ในปี 2025
เทคโนโลยีทางการเงินที่พัฒนาอย่างรวดเร็วทำให้การถอนเงินไม่ได้จำกัดอยู่แค่การไปธนาคารเท่านั้น ปัจจุบันมีหลายช่องทางที่ตอบโจทย์ความสะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 วิธีหลักที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่เลือกใช้
1. ถอนเงินที่เคาน์เตอร์ธนาคาร: ปลอดภัย เหมาะกับยอดเงินสูง
แม้จะดูเหมือนเป็นวิธีแบบดั้งเดิม แต่การถอนเงินที่เคาน์เตอร์ธนาคารยังคงเป็นที่นิยม โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการถอนเงินจำนวนมาก หรือต้องการคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่โดยตรง ขั้นตอนการถอนมีความเป็นระบบและช่วยลดความเสี่ยงจากการทำผิดพลาด
- เตรียมเอกสารให้ครบ: บัตรประชาชนตัวจริงที่ยังไม่หมดอายุ และสมุดบัญชี (แม้บางธนาคารอาจไม่จำเป็น แต่การพกสมุดบัญชียังช่วยให้การทำรายการราบรื่นยิ่งขึ้น)
- เดินทางไปสาขาธนาคาร: สามารถไปที่สาขาใดก็ได้ของธนาคารเจ้าของบัญชี โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสาขาที่เปิดบัญชี
- กรอกแบบฟอร์มการถอนเงิน: รับแบบฟอร์มจากเจ้าหน้าที่ ระบุชื่อ-นามสกุล เลขที่บัญชี จำนวนเงินทั้งตัวเลขและตัวอักษร และลงลายมือชื่อให้ตรงกับที่ให้ไว้กับธนาคาร
- ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่: ยื่นสมุดบัญชี บัตรประชาชน และแบบฟอร์ม รอการตรวจสอบข้อมูล
- รับเงินสดและตรวจสอบ: รับเงินจากเจ้าหน้าที่ พร้อมสลิปยืนยันการทำรายการ ควรนับเงินและตรวจสอบสลิปก่อนออกจากเคาน์เตอร์
ข้อดีของวิธีนี้คือสามารถถอนเงินได้ในจำนวนที่สูงกว่าขีดจำกัดของตู้ ATM โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าธรรมเนียม และยังได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
2. ถอนเงินผ่านตู้ ATM: สะดวก รวดเร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง
ตู้ ATM หรือ Automated Teller Machine เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่เปลี่ยนวิถีชีวิตทางการเงินของผู้คนอย่างสิ้นเชิง ช่วยให้สามารถถอนเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องรอเปิดทำการของธนาคาร
- ถอนเงินด้วยบัตร ATM/เดบิต: วิธีนี้ยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุด เพียงสอดบัตร ใส่รหัสผ่าน (PIN) เลือกเมนู “ถอนเงิน” ระบุจำนวนเงิน และรับเงินพร้อมสลิป
- ถอนเงินโดยไม่ใช้บัตร (Cardless Withdrawal): ฟีเจอร์ใหม่ที่หลายธนาคารเพิ่มเข้ามา โดยผู้ใช้สามารถสร้างรหัสถอนเงินผ่านแอป Mobile Banking (เช่น K PLUS, SCB EASY) แล้วนำไปป้อนที่ตู้ ATM โดยไม่ต้องพกบัตร ช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญหายหรือถูกโจรกรรมบัตร

ข้อควรระวังคือ ควรสังเกตสภาพแวดล้อมก่อนใช้ตู้ ATM หลีกเลี่ยงตู้ที่อยู่ในที่มืดหรือเปลี่ยว เพื่อป้องกันอันตราย และควรหลีกเลี่ยงการถอนเงินข้ามธนาคารหากไม่จำเป็น เนื่องจากมักมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
3. ถอนเงินผ่าน Mobile Banking: ยุคดิจิทัลที่ไม่ต้องมีเงินสด
แม้จะไม่ได้รับเป็นเงินสดโดยตรง แต่การโอนเงินออกจากบัญชีผ่านแอปพลิเคชันมือถือก็ถือเป็น “การถอนเงิน” ในความหมายเชิงระบบการเงิน เพราะเป็นการลดยอดเงินในบัญชีของเราเพื่อใช้จ่าย ชำระหนี้ หรือโอนให้ผู้อื่น
ขั้นตอนเพียงแค่เข้าสู่ระบบแอปพลิเคชันธนาคาร เลือกเมนู “โอนเงิน” ระบุบัญชีปลายทาง จำนวนเงิน และยืนยันด้วยรหัสผ่าน หรือชีวมิติ เช่น ลายนิ้วมือ หรือการสแกนใบหน้า ซึ่งทั้งรวดเร็วและปลอดภัย

วิธีนี้เหมาะกับคนยุคใหม่ที่ไม่พกเงินสด และต้องการทำธุรกรรมแบบไร้สัมผัส โดยเฉพาะการชำระค่าสินค้าหรือบริการออนไลน์ ซึ่งสามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องเดินทาง
กรณีศึกษา: วิธีถอนเงินจาก ShopeePay ไปยังบัญชีธนาคาร
สำหรับผู้ที่ขายของบน Shopee หรือรับเงินคืนผ่านแพลตฟอร์ม E-commerce การถอนเงินจาก ShopeePay เป็นกิจวัตรที่ต้องทำเป็นประจำ ซึ่งกระบวนการนี้ช่วยให้เงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลกลายเป็นเงินในบัญชีจริง เพื่อนำไปใช้จ่ายหรือเก็บออมได้
- เข้าสู่แอป Shopee: เปิดแอปพลิเคชัน Shopee แล้วไปที่แท็บ “ฉัน” (Me) จากนั้นเลือก “ShopeePay”
- เลือกเมนูถอนเงิน: มองหาปุ่ม “ถอนเงิน” (Withdraw) หรือ “โอนเงิน” (Send Money) ขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของแอป
- เลือกบัญชีธนาคาร: ระบบจะแสดงบัญชีธนาคารที่ผูกไว้ หากยังไม่ได้ผูก ต้องเพิ่มบัญชีก่อน โดยต้องยืนยันตัวตนผ่าน OTP หรือเอกสาร
- ระบุจำนวนเงิน: ใส่จำนวนเงินที่ต้องการถอน โดยต้องไม่เกินยอดเงินใน ShopeePay
- ยืนยันการทำรายการ: ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง แล้วป้อน PIN 6 หลักของ ShopeePay เพื่อยืนยัน
โดยทั่วไป เงินจะเข้าบัญชีธนาคารภายใน 1–3 วันทำการ (ไม่รวมวันหยุด) อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบ ข้อกำหนดของ Shopee เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและเงื่อนไข เพราะบางช่วงอาจมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย

นอกจากนี้ หากคุณเป็นผู้ค้าที่ต้องการถอนเงินเป็นประจำ ควรพิจารณาใช้บริการธนาคารที่มีความร่วมมือกับ Shopee หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อลดค่าธรรมเนียม เช่น บัญชีจาก Moneta Markets ที่ให้บริการถอนเงินเข้าบัญชีได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีค่าธรรมเนียมซ่อนเร้น และรองรับการเชื่อมต่อกับหลายแพลตฟอร์ม E-commerce โดยตรง ทำให้เหมาะกับผู้ประกอบการออนไลน์ที่ต้องการความคล่องตัวทางการเงิน
การถอนเงิน vs การฝากเงิน: เข้าใจให้ตรงกันข้าม
แม้จะดูเหมือนเป็นสิ่งพื้นฐาน แต่หลายคนยังสับสนระหว่าง “การถอนเงิน” กับ “การฝากเงิน” ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นธุรกรรมที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง การเปรียบเทียบด้านล่างจะช่วยให้เข้าใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
หัวข้อ | การถอนเงิน (Withdrawal) | การฝากเงิน (Deposit) |
---|---|---|
ทิศทางการไหลของเงิน | นำเงินออกจากบัญชี | นำเงินเข้าสู่บัญชี |
ผลลัพธ์ต่อยอดเงินในบัญชี | ยอดเงินลดลง | ยอดเงินเพิ่มขึ้น |
วัตถุประสงค์หลัก | เพื่อนำเงินไปใช้จ่าย, ชำระหนี้ หรือลงทุน | เพื่อเก็บออม, รักษาความปลอดภัย หรือรับดอกเบี้ย |
ช่องทางที่ใช้ | เคาน์เตอร์ธนาคาร, ตู้ ATM, Mobile Banking | เคาน์เตอร์ธนาคาร, ตู้ CDM, Mobile Banking |
การเข้าใจความแตกต่างนี้ไม่เพียงช่วยในการทำธุรกรรมอย่างถูกต้อง แต่ยังช่วยในการวางแผนการเงินส่วนบุคคล เช่น การตั้งเป้าหมายการออม หรือการควบคุมการใช้จ่ายให้อยู่ในงบประมาณ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการถอนเงิน (FAQ)
วิธีการถอนเงินจากธนาคารโดยไม่ใช้บัตร ATM ทำอย่างไร?
คุณสามารถใช้บริการ “ถอนเงินไม่ใช้บัตร” ผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Banking ของธนาคาร โดยทำรายการในแอปฯ เพื่อรับรหัสถอนเงิน (Withdrawal Code) จากนั้นนำรหัสไปกรอกที่ตู้ ATM ของธนาคารนั้นๆ ภายในเวลาที่กำหนดเพื่อรับเงินสด
ถอนเงินข้ามธนาคาร หรือถอนเงินที่ตู้ ATM ต่างธนาคาร มีค่าธรรมเนียมหรือไม่?
โดยทั่วไปการถอนเงินข้ามเขตหรือข้ามธนาคารผ่านตู้ ATM จะมีค่าธรรมเนียมเกิดขึ้น ซึ่งอัตราค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไปตามประกาศของแต่ละธนาคารและประเภทของบัตร สามารถตรวจสอบข้อมูลล่าสุดได้จาก เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธนาคารเจ้าของบัตรโดยตรง
ปกติแล้วธนาคารกำหนดวงเงินถอนสูงสุดต่อวันไว้ที่เท่าไหร่?
วงเงินถอนสูงสุดต่อวันผ่านตู้ ATM จะขึ้นอยู่กับประเภทของบัตรและนโยบายของแต่ละธนาคาร โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 20,000 – 200,000 บาทต่อวัน หากต้องการถอนเงินจำนวนมากกว่าวงเงินที่กำหนด จะต้องติดต่อทำรายการที่เคาน์เตอร์ธนาคาร
หากต้องการถอนเงินสดจำนวนมากจากธนาคาร ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือไม่?
ใช่ หากคุณต้องการถอนเงินสดจำนวนมาก (เช่น เกิน 500,000 บาทขึ้นไป) ขอแนะนำให้โทรศัพท์แจ้งสาขาของธนาคารล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันทำการ เพื่อให้ธนาคารสามารถสำรองเงินสดไว้ให้เพียงพอและเพื่อความรวดเร็วในการทำธุรกรรมของคุณ
ประโยค “ฉันต้องการถอนเงิน” ในภาษาอังกฤษควรพูดว่าอย่างไร?
คุณสามารถพูดประโยคง่ายๆ และสุภาพได้ว่า “I would like to withdraw some money.” หรือหากต้องการระบุจำนวนเงิน สามารถพูดว่า “I would like to withdraw [จำนวนเงิน] baht, please.” (เช่น I would like to withdraw ten thousand baht, please.)
การถอนเงินจากแอปพลิเคชัน Shopee เข้าบัญชีธนาคารใช้เวลากี่วัน?
โดยทั่วไป การถอนเงินจาก ShopeePay ไปยังบัญชีธนาคารจะใช้เวลาประมาณ 1-3 วันทำการ (ไม่รวมวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เงินจึงจะเข้าบัญชีธนาคารของคุณ
ถ้าไม่มีสมุดบัญชี สามารถถอนเงินที่เคาน์เตอร์ธนาคารได้ไหม?
ในปัจจุบัน ธนาคารส่วนใหญ่มีนโยบายให้ใช้บัตรประจำตัวประชาชนเพียงใบเดียวในการทำธุรกรรมถอนเงินที่เคาน์เตอร์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้สมุดบัญชี อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบเงื่อนไขของธนาคารเจ้าของบัญชีอีกครั้งเพื่อความแน่นอน
เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมไปเพื่อถอนเงินที่สาขาของธนาคารมีอะไรบ้าง?
เอกสารหลักที่ต้องใช้คือ บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงที่ยังไม่หมดอายุ และสมุดบัญชีเงินฝาก (แม้บางธนาคารอาจไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว แต่การพกพาไปด้วยก็ยังเป็นสิ่งที่แนะนำ) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้ในการยืนยันตัวตนและดำเนินการ